@ ครอบครัว .. ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
ขอบคุณสำหรับความรักของแม่
ขอบคุณสำหรับความอดทนของพ่อ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆของน้อง
ขอบคุณ..ขอบคุณ..ขอบคุณค่ะ .. มากมาย และไม่มีที่สิ้นสุด
จากวันนี้และตลอดไป ..รบกวนต่อนะคะ ^^
@ เพื่อน ..ขอบคุณที่จำได้
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและกำลังใจ
ขอบคุณสำหรับของขวัญที่พยายามหามาฝาก
ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกัน .. T.T
..ประโยคยาวๆที่แปะในFB...
(มีครอบครัวไปอ่านซะที่ไหน 555)
อยากแอดพ่อเหมือนกัน
แต่เกรงใจพ่อจะรำคาญตาที่มีแต่ฉันนี่ล่ะ เล่นเกมส์อยู่คนเดียว
-..-
............
ฉันคิดถึงความเรียงสั้นๆที่เขียนไว้หลายปีก่อน
ฉันกลับไปเขียนแบบนั้นไม่ได้อีก ..เพราะมันเหมือนก๊อปของเก่า
ฉันยังเขียนใหม่ไม่ได้ มันมีเรื่องราวในหัว แต่มันเป็นเรื่องเดิม
บางครั้งคนเราก็อยากจะสร้างเรื่องใหม่บนอะไรเดิมๆ..
เท่าที่รู้ในเวลานี้
ฉันก็ยังต้องเรียนรู้จากความรักของแม่อีกมาก
เรียนรู้การเสียสละโดยไม่มีเงื่อนไข
เราอาจจะเสียมากกว่าที่จะได้กลับคืนมา
แต่ไม่ได้หมายความว่า .. มันไม่ได้อะไรมาเลย
เพราะความรักยิ่งให้มาก ก็จะได้กลับคืนมามากยิ่งกว่า
วัยที่มากขึ้น เพิ่มประสบการณ์ชีวิตที่มากขึ้น(มากเท่าที่เราจะตักตวงเรียนรู้)
และแน่นอน.. มันเพิ่มริ้วรอยต่างๆในชีวิต
จำเป็นที่ต้องเลือกเก็บไว้แต่ร่องรอยดีๆ
ส่วนอะไรที่ไม่ดีก็โยนทิ้งไป จะเก็บเรื่องราวไว้เป็นบทเรียนก็ไม่เสียหาย
แต่ริ้วรอยบนใบหน้าเนี่ย ..ใครก็คงไม่ต้องการหรอกนะ
ฉันจะไม่เหมือนกับใครก็ตรงนี้ล่ะ
เพราะฉันเชื่อมั่นว่า แม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับฉัน
ฉันอาจต้องเรียนโรงเรียนประชาบาล
แต่นั่นสร้างประสบการณ์วัยเด็กที่ยอดเยี่ยมให้กับฉันมากมาย
ฉันอาจต้องใส่เสื้อผ้าเก่ามือ2-3ของคนอื่นไปเรียน
แต่นั่นพิสูจน์ว่า มันยังใช้ได้อยู่ และแม่เป็นช่างซ่อมผ้าที่เก่งมาก
ทั้งที่ใช้จักรไม่เป็นเลยสักนิดเดียว
ฉันอาจต้องไปแค่ยืนมองของเล่นบนชั้นที่ห้าง
แต่นั่นพิสูจน์ว่า พ่อฉันเป็นนักประดิษฐ์ของเล่นทำมือที่เก่ง
และแม่ก็คือเพื่อนเล่นที่ฉันหาซื้อไม่ได้ในห้างสรรพสินค้า
ฉันอาจต้องเปลี่ยนจากมัธยม5-6 ไปเป็น กศน.จบได้ในปีเดียว
แต่นั่นทำให้ฉันประหยัดเวลาของช่วงมัธยมไปเพียงพอ
ในช่วงมหาวิทยาลัย (ซึ่งแน่นอน เป็นการให้คำปรึกษาของแม่)
ฉันอาจเคยไปยืนอยู่หน้าร้านพิซซ่า ทั้งที่กำลังเลือกหน้าที่จะกิน
แต่แม่ก็ชวนให้กลับบ้าน.. นั่นทำให้ฉันรู้ว่า พิซซ่าก็อร่อยสู้ข้าวกับน้ำพริกไม่ได้
และล่าสุด..
ฉันก็คงจะต้องใช้น้ำมันมะพร้าวแทนครีมบำรุงผิว
และหวังว่า มันจะพิสูจน์ว่า ของจากธรรมชาติดีจริงไม่มีเสียเลยสักนิด
............
มาดูรูปของขวัญกันเนาะ (พล่ามยาว เดี๋ยวไม่ได้นอน )
ก็อย่างที่รูปบอก สาวแตงให้มาเป็นคนแรก
น่ารักอ่า สีสันแบบนี้ล่ะของแตง
แต่นี่ก็เป็นข้อแตกต่างระหว่างฉันกับแตงด้วย
แตงชอบอะไรที่ดูน่ารักเท่ห์ๆ ดูแบบเด็กผู้ชายๆหน่อย
สีสันสดใส เจ็บๆแสบๆ
แต่ฉันชอบแบบหวานๆ ดูนุ่มนวล
ฉันจะเลือกการ์ดแบบที่ฉันชอบให้เค้า
ส่วนแตงก็เลือกแบบที่เค้าชอบให้ฉัน
มันก็ดีนะ .. เหมือนเป็นตัวแทนของแต่ละฝ่ายให้กัน
(ได้คุยกับแตงนิดนึงตอนเย็น ว่าจะโทรหาอีกตอนสี่ทุ่มแต่ลืม)
............
อันนี้มีหลายอย่างในกล่อง
แอบคิดว่า เพราะปีที่แล้วงอแงง๊องแง๊งงุ๊งงิ๊ง
จนพี่เค้ากลัวว่าปีนี้ มันจะโวยอีกหรือเปล่า ถ้าเผลอลืม
ของก็เลยมาถึงก่อนเวลาอีกต่างหาก
พี่หนุ่มบอกว่าไม่มีการ์ดอะไร
ก็นะ ที่เขียนมาก็เรียกการ์ดได้แล้วค่ะ :P
ตอนนี้สักเสื้อแล้ว แต่เอาไว้ใส่ไปนอกบ้าน
ส่วนเทียนหอม ตั้งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ
ส่งกลิ่นมะนาวอบอวลไปทั้งห้อง
............
ของพี่อ้วนมาถึงแบบพอดีวันเป๊ะๆ
อยากบอกว่าชอบทุกชิ้น
ไม่อยากให้เป็นพวงกุญแจ กลัวจะพังง่ายไป
แอบแกะคิตตี้ไปทำที่ห้อยมือถือแล้ว
แม่เห็นแม่ยังชมว่าทำสวย ทำเก่ง .. ก็ฝีมือพี่สาวพี่อ้วนไง
ชอบการ์ดจัง น่ารักมาก
ให้คนน่ารัก จากคนสวย
มุขนี้แจ่มดีนักแล.......
เพราะฉันอยากเป็น .. คนน่ารัก ตลอดไป -0-
Ps*ขอบคุณค่ะ ขอบคุณทุกคน ขอบคุณสำหรับของขวัญทุกชิ้น
ขอบคุณสำหรับความรักความห่วงใย ความปรารถนาดีทุกอย่าง..
ขอบคุณที่ทำให้ฉัน..ยิ้ม :)