“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2551

..Pure Set..

เมื่อวานทิ้งบล๊อกไปตั้งวันนึงแน่ะ งิงิ ไม่ใช่ไม่ว่าง
แต่มันไอมาก ประมาณว่า ไอจนหัวตื้อ 555


-.-


ความจริงก็คือ ตอนหัวค่ำ ทำเครื่องประดับได้เซตนึงล่ะ
ชอบมากๆเลยตอนทำแหวนเสร็จ ก็เลยอยากทำสร้อยข้อมือด้วย
แต่พอทำเสร็จ กลับไม่ค่อยจะอยากใส่เท่าไหร่นัก
ทั้งที่ตั้งใจจะเอาไว้ใส่ประจำแล้วเชียวนะ -*-


Pure set


อาจเพราะสัมผัสที่คล้ายๆจะกลายเป็นหนามทุเรียนด้วยมั๊ง เหอะๆ
กับ ใส่แหวน กำไล แล้วมันเกะกะ ทำงานอะไรลำบาก
 กลัวจะพัง กลัวจะหลุด กลัวจะเปื้อน
ก็เลยถอดเก็บ ใส่กล่อง ... เฮ่อ.. (แต่ก็อยากจะทำน่ะนะ )


Pure set [again]



พอทำเจ้าเซตนี้เสร็จ ก็ทำงานบ้านต่อ
แม้ว่า แม่จะให้ไปนอนได้ตั้งแต่หัวค่ำ แต่ไม่อยากไปอ่ะ
มันมีห่วงว่า เรายังทำโน่นนี่ไม่เรียบร้อย


เห็นพ่อก็ทำงานเยอะ แล้วรู้สึกไม่ดี เหมือนเราอู้งาน
ก็ทำและอยู่จนเช้าล่ะนะ จนพ่อลงมาเลยล่ะ



....



ตั้งใจไว้เมื่อปีที่แล้วว่า จะไม่เข้าร้านเสริมสวย 1 ปีเต็ม
กะว่า จะเอาเงินที่ไปจ่ายตรงนั้น ไว้ใช้อย่างอื่น


ซึ่งก็โอเคนะ ได้กล้อง 1 อัน
(แต่ราคามันถูกกว่าที่ตั้งไว้ตอนแรกเยอะ -.-)
มันได้ มีส่วนในกีต้าร์ของพ่อด้วยแหละ นิดหน่อยๆ


กับเครื่องออกกำลังกาย และ อย่างอื่น จิปาถะ


แล้วปีนี้.. ก็เดินผ่านร้านพี่เก๋
แล้วก็คิดว่า.. เข้าดีไหมหว่า ไปทำทรงไหนดี
ไปทีไร ไม่ผมสั้นหยิก ผิดเรื่องผิดราว ก็ซอยแบบสาวออฟฟิศ แต่กลายเป็นแม่บ้านออฟฟิศแทน


ประจำ...


ไม่ได้ว่า พี่เค้าฝีมือไม่ดี
แต่... ไม่ได้เข้ากับบุคลิกหรือสไตล์จริงๆของฉันเลย .. สักครั้ง


เฮ่อ..  อย่ากระนั้นเลย ร้านอื่นก็ไกลบ้าน
ไปสระ+เซท แต่ละครั้ง 50 up ส่วนร้านนี้ไม่ต้องพูดถึง 80 up ประจำ



ไม่เอาล่ะ ยังไม่เอาก่อน
ถ้าจะดัดหยิก มีโรลม้วนผมแล้ว 555
ถ้าจะทำผมตรง ก็ จะไปซื้อหวีม้วน(มีน่ามาเขียน ยังไม่มีเลย) แล้วใช้ไดร์เอา -.-


แต่ปกติ มันมัดอยู่แล้วนี่นา เหอๆ


ไม่ได้บ่นเรื่องทรงผมหรอก
แต่คิดว่า เอาเข้าจริงๆ ฉันอาจไม่ใช่คนที่จะเข้าร้านเสริมสวย เหมือนใครๆเค้าหรอก
ไม่ได้คิดว่า เราจำต้อง เป็นแบบนี้ ก็นึกอยากไปทำเล็บเหมือนกันตอนเห็นยาหยังทำเล็บเท้า
แต่ เป็นคนบ้าจี้ ขืนไปทำ ได้เตะคนทำกระเด็น -*-
อยากไปยืดผม ตอนเห็นแตงผมสวยมาเชียว
แต่ แตงเองก็บอกว่า ทำแบบนี้ผมเสีย นะจ๊ะ ผมดีๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องหาเรื่องก็ได้


-.-



.....


มึนจัง อาจจะเป็นยาที่ตีแรงมากมาย
อัพเสร็จ ไปอาบน้ำ แล้วกลับมาเก็บของดีกว่า
ไม่ไหวจริงๆ จะหนีไปนอน

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551

..the Stole from Nic..

วันนี้พ่อทำงานเยอะ เคลียร์ห้องแทนฉันด้วย
-*- รู้สึกผิดตะหงิดๆๆ  พ่ออยากจะช่วยให้เต็มที่
ก่อนที่อาจจะกลับขึ้นกรุงเทพฯอีกครั้ง ในวันจันทร์หน้า



เป็นอันว่า ไปย้ายตู้เย็นจากร้านมาไว้หลังบ้านแล้ว
จริงๆฉันไม่ค่อยเห็นด้วยนะ หลังบ้านมันเปิดโล่งมาก
แมวบ้านอื่นเดินกันเฉิบๆ เลยอ่ะ -.- แถมพวกเขียดตะปาดเอย กบต้นไม้เอย
แม้กระทั่งตุ๊กแก ยังมีอิสระเสรีกันตลอด(เวลาเราไม่ได้ออกไป)


ทำความสะอาดตู้เย็นแล้วด้วยล่ะ
สนิมเขรอะเชียว -*- ขนาดซื้อทีหลังของบ้านฉันนะเนี่ย
อย่างว่าอ่านะ ให้คนอื่นใช้ เค้าไม่ดูแลเหมือนเจ้าของ เหอๆๆ


แต่ยังไม่ได้ใส่อะไรเข้าไปหรอก
ยังไม่ใช่ตอนนี้


....


ตอนค่ำยาหยังโทรมา สงสัยจะมือถือ แต่ไม่ติด
เลยโทรเข้าเบอร์บ้าน แล้วแม่ก็บอกให้ไปรับ


-*- สุดยอดเลย ฉันไม่ชอบการคุยภาษาอังกฤษผ่านโทรศัพท์ที่สุด
มันฟังเค้ารู้เรื่อง แต่ตอบไม่ถูก เหอๆๆ


เค้าจะขอให้ช่วยสอนมาดาม ย่อรูปเอาไว้ส่งจดหมาย


-.- แต่ตอนแรกฉันคิดว่า แกอยากแต่งรูปเป็น
กรรมๆๆ  นี่ล่ะหนอ ฟังไม่ได้ศัพท์ จับมากระเดียด จริงๆ


-*- ถ้าแค่ย่อรูป หาโปรแกรมเอซีดีซีให้ แล้วเดี๋ยวแกก็ย่อเองเป็น เหอๆ
มันเป็นอังกฤษทั้งเพนี่นา งิงิ



....


เมื่อวานนิคส่งพัสดุมาถึง
เปิดออก เป็นผ้าคลุมไหล่ สีชมพูม่วง
เหมือนจะโทนสีเดียวกันกับ ซองใส่มือถือของพี่จันทร์เลย
(นึกแล้วอยากเอาไปใช้ จะได้เข้ากัน งิงิ เสียแต่ฉันชอบซองคิตตี้สีแดงของตัวเอง)



ผ้าของนิคสวยดีอ่า เป็นแบบผ้าทอ(พวกเส้นใยธรรมชาติ)
ดูแล้วหวานมาก -.- กำลังคิดว่า จะเอาไปใช้กับเสื้อตัวไหนดี
แต่จริงๆ เอามาห่มได้เลยนะเนี่ย หุหุ


เพราะเมื่อวานยืมผ้าพันคอแม่ใช้
คืนนี้ต้องยืมผ้าขนหนูน้องใช้ -*-
ไม่หาอะไรพันให้อุ่นไว้ กลัวจะไอหนักกว่านี้



พรุ่งนี้ก็จะดีกว่าวันนี้.. ล่ะ


 

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2551

..Rings+Magazines..

วันนี้รับทำแหวนให้โรน่า จริงๆแค่ 2 วง
รูปโบว์ สีดำ กับ ขาว อย่างละ วง ที่จริงก็ไม่ยากอะไร
เพียงแต่ การร้อยแบบเส้นเดี่ยว เป็นอะไรที่ฉันไม่ค่อยชอบ
ถ้าถักอ่ะ มันง่ายกว่านะ มันไม่ค่อยจะหลุดง่ายเท่าไหร่


อีกอย่าง ละมือจากร้อยแหวนไปพักนึงแล้ว(ไม่ถึงเดือน)
นับว่า ความเร็วตกไปทันที -*-
โดยเฉพาะวงสีขาว ที่เม็ดseed beads มันขนาดไม่เท่ากัน
เป็นรุ่นเก่าอ่ะ สมัยซองละ 12-13 บาท
บางอันมันบาง บางอันมันหนา ก็หยิบได้อันไหนก็ร้อยอันนั้น -.-
เลยออกจะ ยุ่งยากสักหน่อย กับการนับเม็ด แต่ไม่พอดีซักที



แต่พอทำเสร็จก็ดีนะ สวยดี
ฉันเลยทำสีดำอีกวง เอาไว้ใส่เอง
แต่ที่ทำใส่เองไม่สวยแหละ -*-


เอาเหอะ ทำขายเค้า ก็ให้สวยๆล่ะดีแล้ว


วงละ 29 บาท
(ถูกนะ -.- คือ ทำนานไง เลยรู้สึกว่า มันถูกแหละ)



....


อ่อ เพราะต้องทำแหวนนี่ล่ะ
แต่ไม่มีลูกปัดสีดำ ตอนกลางวันเลยต้องห้อรถไปซื้อมา
เดินในร้านเครื่องเขียนพักนึง ได้มาสามซอง
seed beads สีดำกับขาว แล้วก็เม็ดกลมสีฟ้าอีกอัน
(อย่างหลังเอาไว้ยัดในหัวใจให้ตุงๆ)



พอออกจากร้านเครื่องเขียน ตอนแรกคิดว่าจะไปร้านป้าข้างเส้งโห
แต่เปลี่ยนใจ กระเป๋าก็เยอะเต็มบ้าน รองเท้าก็ใส่ไม่ทัน


เข้าเส้งโหดีกว่า ไม่ได้ดูหนังสือนานล่ะ
แล้วก็ได้มา 2 เล่ม
ประดิดประดอย เล่มโตขึ้นเยอะ (ไม่เห็นซะนาน)
ราคาก็ขยับขึ้นอีก  แต่ที่ทำให้หยิบมา เพราะที่สอนทำพวกคริสตัลหรอก
-.- (ไม่พ้นจริงๆ) 



แล้วก็เข้าไปมุมเครื่องเขียน เอาสมุดฉีก กับลูกปัดธรรมดาเม็ดโตๆ มาอีกห่อ
วนไปดูชั้นหนังสือ จริงๆอยากไปดูพวก หนังสือ How to หรือ พวกความรักๆอะไรนั่นอ่านะ
(เน่าแหละ ไปทีไร วกไปดูชั้นนั้นเรื่อย) แต่วันนี้เจ้าหน้าที่นั่งจัดกันอยู่
เหมือนจะอ่านเองด้วยนะ 555


ก็เลยไปดูที่ชั้นหนังสือลด (กี่เปอร์เซ็นต์แล้วหว่า -*-)
มีหลายเล่มมากที่อยากซื้อ พวก สอนล้างพิษ(มีพิษเยอะเรอะ 555)
กับ ลดน้ำหนักภายใน2อาทิตย์ มีเมนูอาหารอ่านะ -.-
แต่คิดว่าซื้อมาคงไม่ได้ทำ เพราะพ่อเป็นพ่อครัว ถ้าพ่อไม่อยากทำ จะได้กินไหมนั่น


เลยเอาเล่มนี้มา เป็นเคล็ดลับเพื่อผิวสวย เหอๆๆ
เอาน่ะ แม้ว่าพวกนี้จะหาอ่านได้ตามเนตก็เถอะ
แต่บางอัน ก็ยังไม่เคยเจอ



กลับถึงบ้าน เมาแดดไปเลย เหอะๆ


หัวค่ำแม่ชวนไปบ้านยายเยาว์ เอาเสื้อไปแก้ ก็ไม่อยากไปแล้วอ่ะ
เลยปล่อยให้แม่ไปกับพ่อแทน -*-


สองทุ่มกว่า พ่อกับแม่ไปแม๊คโครอีก
เลยฝากให้ซื้อพายสับปะรดแวะให้แตงด้วย



...


ยังไม่หายไอเลย เหมือนจะดีขึ้นถ้าพันคอไว้


อ่อ ๆๆ นิคส่งผ้าคลุมไหล่มาให้ล่ะ หวานมากมาย เหอๆๆ
รู้สึกฉันต้องปรับปรุงตัวก็คราวนี้ล่ะ
(วันนี้ซักไว้ พรุ่งนี้จะถ่ายรูปมาแปะ)


 


Ps* วันนี้บล๊อกครบ100เอนทรี่แล้ว ^0^

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2551

..ไอจัง..

วันนี้นอนสองรอบ มันมีเหตุล่ะนะ
ได้นอนตอนตีสี่-แปดโมงกว่าๆ ลงมาแบบมึนสุดๆ
ทำโน่นนี่ จนบ่าย พ่อกลับมา ก็หนีไปนอนต่อ อีกประมาณ2 ชั่วโมง
และที่แน่ ๆ ก็คือ ไอซะหลายก่อนจะหลับไป


ไอจัง.. ว่าไปก็น่ารักดีนะ "ไอจัง"
เอาเป็นนามปากกาอีกอันดีมั๊ยเนี่ย 555


-.- พอล่ะ เลอะเทอะๆ


....



ตอนบ่าย โทรหาแตงนิดหน่อย(ก่อนไปนอนไง)
เล่าเรื่อง ฟังเรื่อง ก็บอกกล่าวกันบ้างอ่านะ ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์แล้ว


ไม่ค่อยมีอะไรนักหนาหรอก
เพราะคุยไปสักพัก ฉันก็ไอกำเริบ ไออย่างกะคนสำลักน้ำ -*-

เฮ่อ......



หัวค่ำ แตงเอามะละกอมาฝาก
(อ่อ ตอนที่โทรไป แตงอยู่สุราษ อยู่บ้านเค้าอ่ะ)



...


พอล่ะ มีแต่ แตงกะ ไอจัง



-.- อะไรกันล่ะเนี่ย

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2551

..Blue Heart..

คืนนี้จะถักหัวใจลูกปัดอีกครั้ง
อันแรก ฝากแตงไปให้พี่อ้วน แต่แตงก็ลืม -.-
สงสัยว่า มันคงจะอยู่ที่ออฟฟิศแตงนั่นล่ะ
ไว้ค่อยขอคืน จะส่งไปให้ทีหลัง
(เพราะหวังจะไปให้กับมือที่ภูเก็ตคงหลังกุมภาฯโน่นล่ะมั๊ง)


 


ไปเริ่มถักก่อนนะ ตั้งท่ามาหลายวันล่ะ



...



เสร็จแล้ว เย้ๆๆ
จริงๆ ทำไม่ยากนะ แต่ลืมไง แม้ว่าจะทำมาตั้งหลายอันแล้วก็ตามเถอะ
แต่เพราะละมือไปพักใหญ่ เลยต้องมารื้อฟื้นความจำกับแพทเทิร์นในคอมพ์
-.- พรุ่งนี้จะถักอีกอัน กะว่า อันต่อไปจะไม่ต้องใช้แพทเทิร์นแล้วล่ะ


อยากเปลี่ยนสีมั่งด้วย แต่ให้สวย ก็ต้องชมพูกับฟ้าแหละ
(ไม่คิดแหวกแนวบ้างเลย..นะเนี่ย)



....


พ่อกลับมาถึงเมื่อเช้า แต่ได้เจอกันตอนบ่าย
วันนี้ฉันนอนเยอะมากๆ ตั้งแต่หกโมงจนบ่ายโมง
(แต่เอ..ปกตินอนเยอะ จะตื่นบ่ายสองนะ -.-)



ลงมาก็มีงานทำเลย พิมพ์งานให้พ่อ 4-5หน้า
มาพิมพ์ Phonetic ให้นักร้องต่างประเทศอีก
ไม่เยอะแยะอะไรหรอก สนุกดี ยังรู้สึกเลยว่า ยังว่างอีกมาก



แต่ตอนนี้ ไอจัง ไม่ได้ไอเลิฟยูนะ อิอิ
เหมือนจะติดแม่อ่ะ -*- รู้แค่เมื่อเช้า กว่าจะหลับลง ไอไปหลายรอบ


-.- เดี๋ยวจะกินยาแล้วอีกพักจะหนีไปนอนล่ะ


 



สงสัยแท้ วันนี้น้องจะโทรมาไหมนั่น แง่มๆๆ


 


Ps* ชื่อเรื่อง น่าจะแปลว่า ใจเศร้า ...เนาะ เหอๆ แต่ก็แค่หัวใจสีฟ้า เท่านั้นเอง แหละ
(ถ้ามันไม่ได้แปลงั้น แปลว่า ..ฉันหน้าแตก 555)

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2551

..200?-*-..

หันซ้ายหันขวา แล้วก็นึกได้ตอนตีห้าเกือบครึ่งว่า
"ยังไม่ได้อัพบล๊อก"


-*-


เมื่อวานดูหนัง หวังฮากลบเซ็ง
มันไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ คือขำแหละ แต่ไม่เวิร์คหรอก
ก็เราไม่ได้แก้ไขปัญหานี่ ดันจะหาอะไรมากลบมัน
พอหนังจบ ก็กลับเซ็งเหมือนเดิม


...


เมื่อเช้าตื่นสิบโมงกว่ามั๊ง แม่โทรปลุก
แม่จะไปฝังศพ เป็นวันสุดท้ายแล้ว เค้าจัดตอนเที่ยง


ก็รีบที่สุดเท่าที่จะรีบได้ล่ะนะ
ลงมาก็เปิดคอมพ์ พิมพ์เมลล์ส่งหาดอนน่า
แล้วทำพรีเซนเทชั่นต่อ .. แต่ เอ๊ะ ไม่ได้ทำนี่หว่า


-.-


ไปเปิดเวปwallcoo เซฟภาพซะล้นพุง เหอะๆ
คนมันโรคจิตอ่านะ เซฟอยู่นั่น แล้วที่คิดว่าจะไปปล่อยต่อในเวปบิตก็ไม่ได้ทำ เหอะๆ
เอานะ.. เก็บไว้ มันมีประโยชน์แหละ -.-



ได้ทำตอนหัวค่ำ ซึ่งคิดว่าเสร็จนะ


เรียบร้อยล่ะมั๊ง ผ่านๆ



....


อ่อ เนื่องจากรู้สึกว่า เอาชีวิตติดกับคอมพ์มากไป
ก็เลยจะนั่งทำงานสักชิ้น แล้วก็ลุกไปทำงานบ้านต่อ สัก20นาที
ที่เค้าบอกว่า จะเผาผลาญไปสัก 100 กิโลแคลอรี่ ทำแบบนี้ อยู่อย่างนี้ ตลอดวัน



ห้าทุ่มยังวิ่งต่ออีก และเพราะเมื่อวานไม่ได้วิ่ง
วันนี้เลยชดเชย วิ่งซะ 2 กิโลเมตร
แต่.. ใช้พลังงานไปแค่ 200 กิโลแคลอรี่



กี๊ดดดดดดดดดดด...



-*-

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2551

..Egg vs Crystal..

วันนี้ไปซื้อบัตรโทรศัพท์ให้แม่
แล้วก็แวะไปซื้อไข่ที่ซีพีอีกแผง
ไปถึงแล้วก็เริ่มคิดได้ว่า ที่บ้านกินไข่ไซด์อะไร..?
มีหลายเบอร์ หลายราคา แล้วนิสัยขี้งกก็พรุ่งเข้าร่างทันที 555
(เหมือนปกติมันไม่ได้อยู่กับตัวงั้นแหละ -.-)


เอาเบอร์4 แผงละ 70 บาท


-.-


พอกลับมาบ้าน จึงรู้ว่า ปกติบ้านเรากินไข่เบอร์1


-*-


(เอาน่ะ..ต่างกันแค่3เบอร์เอง เหอๆ)


....


ตอนหัวค่ำ โทรคุยกับป้ากบ
ป้าอยากรู้เรื่องคริสตัลที่ฉันทำ อยากรู้ว่าทำแนวไหน
แต่จากที่ฟัง ป้าเล่าแล้ว ก็คิดว่า มันคล้ายๆจะคนละแนวกัน -.-


ไม่ใช่ต่างแนวหรอก เพียงแต่เป็นพวกตัวสัตว์มันใช้ลูกปัดมาก
นี่เรียกลูกปัดเลยนะ เพราะไม่เคยคิดจะเอาคริสตัลจริงมาทำตุ๊กตาอ่ะ มันเปลือง -.-
ขนาดเครื่องประดับที่สวมใส่อยู่ทุกวันนี้ ยังใช้ลูกปัดอะคริลิคธรรมดาเลย
เสียดายแต่ที่ร้านคริสตัลที่โลตัสนั้น ไม่ขายแบบที่เคยซื้อได้อีกแล้ว
ไปขายเป็นเม็ดคริสตัลแท้หมด เหอะๆๆ เซ็งจิตไปเลย เพราะที่เคยซื้อจากเค้า ห่อละ30 น่ะ
ก็นับเป็นลูกปัดเกรดดีนะ ฉันเอามาทำงานประดิษฐ์ได้หลายชิ้นเลยเชียวล่ะ


ฟังป้าพูดแล้วนึกอยากไป กทม. แง่มๆๆ
อยากไปเดินสำเพ็ง หาอุปกรณ์ที่ราคาพอสู้ไหวและมีให้เลือกมากมาย .. มั่งจัง


แต่ถ้าไม่คิดทำเป็นจริงเป็นจัง
ไว้สบโอกาสดีๆ ค่อยว่ากันใหม่ .. เฮ่อ



....


อ่อ เพิ่งดูหนังเรื่อง"สายลับจับบ้านเล็ก" จบ
เป็นหนังซูม..น่ะ -.- เสียงประกอบอื้ออึงไปหมด
นี่อุตส่าห์ใส่หูฟังเลยนะ เสียงไอเอย เสียงคนอัดหัวเราะเอย -.- ตรึมจริงๆ


(ของฟรี บ่นทำไม นิสัยไม่ดี -*-)


แตงเอามาให้ยืม มาวางไว้หน้าบ้านตอนสายๆ


ลงมาจากห้องก็เห็นเลย อิอิ



....



อ่อ ตอบเมลล์พี่มินนี่แล้ว
แม่ร่างไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่เมื่อคืนมันมึนมาก ง่วงแบบนั่งหลับเลย


เหลือแต่เมลล์ดอนน่านี่ล่ะ ยังไม่ได้ตอบเลย
แต่แม่ก็ทำตามที่แกฝากเอาไว้แล้วนะ


พรุ่งนี้คงจะตอบล่ะมั๊ง


 



ง่วง ..จัง.. เลย


Ps* น้ำพริกเผ็ดจี๊ดของพ่อทำพิษแน่แล้ว ปวดท้องจัง T^T

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2551

..Awkward..

เมื่อเช้านอนไม่ค่อยหลับ ไม่รู้สิ
เครียดมากมาย เพ้อเจ้อ เหอๆๆ
(วัยจะทองแล้วป่าวว้า..ฮ่าๆๆ)



 
-.-



แล้วก็ตื่นตามเวลาปลุกแบบไม่เกิน2นาที
ระยะนี้ อยู่กับแม่ลำพัง แม้ว่าได้ไปนอนที่ห้อง แต่ก็อดห่วงแม่ไม่ได้อ่ะ
ตื่นแล้วไปเช็คน้ำที่ดาดฟ้า โทรคุยกับแตงนิดหน่อย
ไม่ได้ส่งข่าวตั้งแต่วันอาทิตย์ คิดถึงเพื่อนมาก แต่ก็คุยไม่ได้เยอะ


ลงมาทำงานตามปกติ


วันนี้กินแต่ขนมจีนทั้งวัน น้าพรชัยแกเอามา ตอนมาอธิษฐานที่บ้านตอนเที่ยง
แต่วันนี้พ่อไม่อยู่ แกก็เลยเอามาฝากแทน -.- แบกมาเนาะ ไม่ได้กินเลย


พอขึ้นไปจดเลขไฟ กับแปะค่าใช้จ่ายไว้หน้าห้อง
เลยได้กิ๊บติดผมมาจากลูกค้าท่านหนึ่ง.. ซะงั้น
(พี่เค้าให้เองเด้อ อยู่ๆก็เปิดห้องมา ถามเรื่องใบพัดลม แล้วก็โชว์สมบัติกะแจกของ)
ยืนคุยอยู่พักนึง แล้วก็กลับลงมา


รดน้ำต้นไม้ แต่ลืมสตาร์ทรถพ่อ -*-



รับใบแจ้งหนี้ห้อง201 ที่แม่ให้ไปแปะหน้าห้อง
แต่กำลังแปรงฟัน ก็ไม่คิดอะไร เดินไปแปรงไปก็ได้-.-
(เคยคิดไหม นิสัยแบบนี้ มันถึงหาแฟนไม่ได้)
แต่พอก้าวขาออกจากประตู ก็เห็นคนเดินลงบันไดมา
เลยชะแว๊บหนีเข้าร้านไปก่อน -.- (เหมือนจะรู้จักอาย)
แล้วก็กลับมาอีกที จะเอาไปแปะหน้าห้องแหละ
แต่ว่า คนที่ลงมานั่นน่ะ คือลูกค้าคนนั้นแหละ



-*-
ก็เลยเก็บตังค์ทั้งที่แปรงฟันไปด้วย
เหอะ ๆๆ
ทอนเงินเสร็จ เดินเข้าบ้านหน้าตาเฉย


ลูกค้ากดออดอีก ขอใบเสร็จ


-.-


สองเด้งเลย .. อายไหมนั่น


...



พอแระ เขิน

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2551

..ToDay..

คิดว่าจะไม่อัพบล๊อกแล้วนะ
แบบว่า ง่วง เหนื่อย ปวดหัว
สงสัยเพราะรีบตื่น


พะวงอยากตื่นตั้งแต่สิบโมงแล้ว แต่ไม่รอด
ตื่นซะ11.25 ตั้งปลุกไง เลยยอมตื่น -.-


 


ลงมา แม่ยังทักว่า ตื่นเร็วทำไม
-*- มันน่าจะตื่นบ่ายโมงไปเลยนะเนี่ย


ทำงานบ้าน ทำงานแม่บ้าน
(เหมือนจะคล้ายกันเลย)
ตอนเกือบเย็น ไปสตาร์ทรถให้พ่อ -.-
กลัวมากมายขอบอก
กลัวมันจะติด แล้วพุ่งไปข้างหน้าน่ะ เหอะๆ


แต่ก็ทำได้นะ -.- อธิษฐานก่อนจะสตาร์ทรถ
ทำตามที่พ่อบอกไว้น่าจะทุกประการ
นั่ง ๆ แล้วก็คิดว่า ทำไมไม่หัดเรียนขับไว้ล่ะเนี่ย
น่าขับออก รถพ่อคันเล็ก น่ารัก กระทัดรัด
 (เสียแต่ร้อนไปนิด แอร์ธรรชาติ)


พ่อกลับมา จะให้สอนขับรถดีกว่า


....


อย่ายาวมากเลย ง่วง

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2551

..Flower-My intention..

หลังจากที่ฝ่าฟันกับเจ้ามดดำแฝงต้นดอกโมกมานาน
ตอนนี้ก็ได้ดอกรุ่นที่สองแล้ว ..โอ้เย้ ^0^


ทั้งยาราด ทั้งเอาน้ำไปฉีด ทั้งแบกกระถางมารดล้างบางมดในห้องน้ำ
-*- ยังเหลือก็ จุลินทรีย์นั่นล่ะ มันหายากง่ะ
แต่ก่อน ยังให้แม่ซื้อกับ เพื่อนที่ชุมพรได้ แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้ทำแล้ว
เฮ่อ ๆๆ ....


แต่ว่านะ ตอนนี้ก็ยังมีอยู่นั่นล่ะ แต่ยังมีดอกด้วยไง เหอะๆ
รู้สึกว่า มันจะมามากตอนมีดอกด้วยแหละ



(บ่นเรื่องมดกับดอกโมกมากไปแล้ว)



ช่างมัน ก่อน ตอนนี้รดน้ำ ดูแลไปเรื่อยๆ
แต่ที่แน่ๆ บรรดาดอกไม้แลดูสดชื่น หลังจากได้น้ำจากสายยางอันเย็นฉ่ำ
รดมันทุกวัน รดจากชั้นล่าง ฉีดขึ้นชั้น2
555 ..เพราะเป็นระเบียงห้องฉันหรอก ขืนอยู่อีกฟากคงจบเห่ -.-



...


ส่วนดอกโสมเกาหลี รู้สึกพลาดในการถ่ายรูป
ช่วงแรกๆที่ได้กล้องมา คือ ยังใช้ไม่เป็น
เลยได้ภาพที่เบลอสุดๆ ดูไม่ออกเลยว่า หน้าตาจริงๆมัน น่ารักสดใสแบบนี้


ฉันชอบเจ้าต้นนี้นะ เพราะมันกินได้ 555
(เหตุผลหลักเลย)
แต่เนื่องจากยางที่เยอะ ต้มกะทิอร่อยสุด ..


 


 



เฮ่อ..


 



คิดถึงพ่อ
วันนี้พ่อไปกรุงเทพฯแล้ว
บอกให้ขึ้นเครื่องบินไปก็ไม่ยอม
อยากนั่งรถทัวร์ อ้างแต่สายใต้ๆๆ -.-
เบื่อการนั่งแท๊กซี่ในกรุงเทพฯ มากกว่า นั่งรถทัวร์จากกระบี่



คงไปถึงประมาณตี4ล่ะมั๊ง
เห็นพ่อเตรียมอะไรไปเยอะ ไม่ใช่ของฝากมากนัก
นึกไม่ออกแล้วว่าจะเอาอะไรไปฝาก
เพราะอาบอกว่า ไม่ต้องซื้อน้ำพริกมาเลยนะ ที่ปากซอยหน้าบ้านก็มีขาย 555
ขนมเค้กตรังก็มี -.- สรุปว่า จะมีอะไรไปฝากได้ล่ะเนี่ย


 


 



....


แอบงีบตอนหัวค่ำ กำลังอยู่ในภวังค์ ล่องลอยเชียว
เสียงกดออดดั่งลั่น .........กี๊ด ๆๆ (ในใจ)


ลูกค้ามาถามหาห้องเช่า เหอๆ
ห้องเต็ม .. จบ


กลับมา นอนต่อไม่หลับแล้ว


 


 


 


ทำงานบ้านไปเรื่อย จนแม่กลับจากงานศพ
ก็ไปวิ่ง ..วิ่ง..วิ่ง ตั้งใจวิ่งวันละ 1 km. มาหลายวันแล้ว
จำไม่ได้ว่าเริ่มวันไหน แต่กลางๆอาทิตย์ของ อาทิตย์ที่แล้ว
ได้กำลังใจแหละ เพราะมันลดไปตั้ง1.5 กิโล ^^




ดีใจจัง อิอิ พรุ่งนี้จะวิ่งอีก โอ้เย้


 



 

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551

..เล่าๆ อยากฟังไหม..

วันนี้เติมเงินในมือถือให้พ่อ500บาท กว่าจะหมดวันก็เดือนพย.เลย
แล้วก็สมัครเวปอยู่นี่ต่ออีก กะจะเอาไว้โหวตนั่นล่ะ แต่แล้ว...


ตอนนี้ชักจะเหนื่อย เพราะยังไงคะแนนมันก็คงตามไม่ทัน
และรู้สึกว่า การวิ่งตามอะไรที่มันเลื่อนลอยเนี่ย ไร้สาระจริงๆเลยนะ
คือ ที่คิดไว้น่ะ มันไม่เสียหาย แต่ถ้าทำแบบนี้ตลอด เดี๋ยวไม่เป็นอันทำการงานพอดี


โตแล้ว คิดแบบคนโตๆซะบ้าง


-.-


....


พ่อตกลงว่าจะไปเย็นพรุ่งนี้ล่ะ
อยากจะจัดเตรียมอะไรให้เรียบร้อยก่อน


ไม่ค่อยอยากถอนหายใจเป็นตัวหนังสือ
แต่เมื่อวานก็ถอนซ้า .. แล้วนี่ -*-



....


เมื่อหัวค่ำ พ่อกับแม่ ไปงานศพพี่ชายยายเยาว์
ฉันเคยเห็นแกนะ ตอนไปเรียนตัดผ้ากับพี่สาวยายเยาว์ เมื่อ2ปีก่อน
รถเครื่องแกมันบุโรทั่งจังอ่ะ -*- แต่ที่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตเนี่ย
ไม่ใช่เพราะสภาพรถหรอก


แกไปสวรรค์แล้วนะ  แม่เล่าว่า ครอบครัวแกเงียบๆกันหมด
เนื่องจากพี่น้องก็น้อย ลูกหลานก็น้อย
เค้าเป็นพวกสันโดษเอามากๆซะด้วย เรียกว่า แทบไม่คบหาใครเท่าไหร่เลย


มีพี่น้องจากที่โบสถ์ไปกัน ช่วยให้งาน เป็นงานกันมากขึ้น
แม่ว่า ยายเยาว์ชวนให้มาอีกพรุ่งนี้
แม่คงไปแหละ และแม้ว่าพ่อจะขึ้นกรุงเทพฯ ฉันก็คิดเห็นว่า แม่ควรจะไป
ที่บ้านไม่มีอะไร นักหนา นอกจากน้อง กับลูกค้า


....


อ่อ ลูกค้า ห้อง 204 ที่พ่อบอกว่าจะมาทำสัญญาเช่ารายเดือน
พอเอาเข้าจริงๆ ไม่มีเงินถึงหกพันสอง เค้าเลยขอเช่าเป็นสัปดาห์
ก็ตกเป็นคืนนั่นล่ะ เพียงแต่จ่ายยาวไปเลย แล้วก็อยู่ยาวไปเลย


ตอนคิดตังค์ ฉันไม่ได้คิดเลยนะ แบบว่าโทรไปถามพ่อ
พ่อคิดคร่าวๆ ฉันก็ตีเหมา หาว่า สองพันหนึ่งร้อย
 ทั้งที่คืนละ 350(ราคาลดจาก400) x 7 วัน = 2,450
ดันคิดผิด ไปลดให้เค้าอีก 100
เก็บไว้แค่ 2,000
ดีที่โทรไปบอกพ่ออีกรอบ พ่อติงว่า รายคืนเช่าแบบนี้กินไฟนะ เพราะเปิดแอร์ได้ตลอด
(ไม่ได้จ่ายเองแล้วนี่ แบบเหมาจ่ายแล้วนี่)
เลยวิ่งตามไปเก็บเพิ่มที่ห้อง อีกสี่ร้อยห้าสิบ เหอะๆ
เค้าขอลดแหละ แต่ไม่ลดให้แล้ว -.-



เบลอจริงๆเลย



....



เมื่อกี้อ่านบทความเรื่อง ผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์
ต้องหยิบมาใช้บ้างแล้ว วางไว้ข้างหน้าจอคอมพ์นี่ล่ะ
ไม่ค่อยจะใช้เล้ย -.-


my glasses


แต่คิดว่า ถ้าคราวนี้พัง คงจะไปตัดใหม่ที่ร้านน้าวรรณ
แม่ว่า กรอบเค้าสวยดี(แพงด้วยอ่าดิ -.- แง่มๆ)

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2551

..I Think..

เวลาที่เราเครียด เรามักลืมไปว่า คนอื่นก็เครียดเป็น
เวลาที่เราเซ็ง เรามักลืมไปว่า อาจไปก่อความเซ็งให้คนอื่นต่อ


ก็ถ้าคนอื่นที่ว่า เป็นคนในครอบครัว
การพูดคุยอย่างเปิดใจ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด


สำหรับบ้านฉัน..น่ะนะ


..


เค้าว่า ความในไม่ควรเอาออก ความนอกก็ไม่ต้องขนเข้าบ้าน


ก็นั่นแหละ


ก็ใช่แหละ



เฮ่อ......


 




...


วันนี้ต้องรดน้ำต้นไม้นิดหน่อย เพราะไม่มีฝน
งดรับโทรศัพท์ไปช่วงหัวค่ำ ปิดเสียง พี่จันก็ระดมโทรหา แกอยากระบายเรื่องความซวยหลายรอบ
ฟังๆ แล้วก็ฮาบ้าง ประปราย เพราะคนเล่าก็ฮา เหอๆ


 


...


อะไรที่ตัวเองคิดว่ามันหนัก
จริงๆแล้ว อาจยังไม่ถึงครึ่งของคนอื่นที่เค้าแบกเลย



ฉันว่างั้นนะ

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551

..what important..

วันนี้นอนซะจะเช้า ไม่รู้ยังไงกัน เวลานอนชักจะเลื่อนอีกแล้ว
ไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่นะ เพราะทำให้เลื่อนเวลาตื่นไปอีก


ตั้งปลุกเท่าเดิม แต่ดันไปตื่นซะบ่ายโมงตรง
-*-



ไม่ค่อยแปลกใจ ที่สมองจะบื้อๆในระยะนี้
เพราะไม่ค่อยจะลับสมองกับเค้าเลย


-*- ลืมก็ง่าย แม้ว่าจะเกือบแก่ก็ตามที
แล้วอะไรที่ควรจะทำ ก็ดันละเลยซะงั้น


...


แต่วันนี้ทำงานครบนะเอ้อ
งานบ้าน งานของอพาตร์เมนท์ ก็ทำหมด
วิ่งตามเช็คลูกค้าว่าอยู่ที่ห้องไหม เพราะพ่อแม่เค้าติดต่อไม่ได้ -.-


ตอนนี้เลย ง่วงจัง เกินสามหาวแล้ว



...


อืม พี่คนนั้นโทรมาอีกล่ะ
อุตส่าห์ว่าส่งช้างไปขู่แล้วนะ -*-
จริงๆไม่ได้รังเกียจเลย ไม่ใช่เสปค อันนี้ต้องบอกไหมเนี่ย เหอๆ
ก็เพราะไม่มีเสปค แต่ไม่อยากจะคุยกะใครเลยอ่ะ ตอนนี้ หมายถึงคุยโทรฯนะ
แล้วก็คุยแบบ  เหมือนจะจีบๆด้วย ไม่ชอบแล้ว ไม่ชอบเลย เบื่ออย่างแรง เหอๆ
(เคยเจอบ่อยหรือไง ดันจะเบื่อ )



โรคจิตจริงๆ -*-



...


เอ้อ วันนี้ถ่ายรูปเล่นแหละ สนุกสนานมากมาย
ไปย่อรูปแป๊บ เด๋วมาแปะ




ขอสรุป ตามความคิด คือ ถ้าคิดจะถ่ายรูป
1. จงเป็นตัวของตัวเอง (อย่าไปลอกเลียนแบบชาวบ้านเค้า เดี๋ยวจะพัง)
2. ดูทรงผมจากกระจกบ้าง หัวมันฟูเห็นม๊าย
3. ถ้าแต่งหน้า ลองคอนซิลเลอร์ใต้ตาก็ไม่เสียหายนะ
4.ถ่ายรูปไม่ย้อนแสง สวยที่สุด
5. ใครถ่ายรูปให้เรา ก็ไม่พอใจเท่าเราถ่ายรูปตัวเอง(กรณีที่ไม่ใช่นางแบบ)


 


จบแบบ.. อยากจะจบ

วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2551

..Blue Day..

เมื่อวาน สาละวนกับลูกแมว
แล้วบ่าย วันนี้ มันก็จากโลกไป



-*-



แต่ฉันก็ทำในสิ่งที่คิดว่าดี ที่สุดไปแล้ว
เศร้าไปครึ่งค่อนวัน เดินไปที่ต้นมะละกอหลังบ้านก็อดมองไม่ได้(พ่อฝังไว้ตรงนั้น)


จบเรื่องเศร้า..


....


หัวค่ำ มีเรื่องเครียดเยอะ
ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยนะ หรือพ่อพูดแต่ไม่ได้ฟังก็ไม่รู้
ว่า คุณย่าจะผ่าตัดที่โรงพยาบาล


จริงๆแล้ว 2 วันก่อน คุณย่าเข้าโรงพยาบาลแหละ
แต่เพราะโรคปวดหลังที่เป็นมานาน
ได้ยินแม่พูดว่า หมอเค้าฉีดซีเมนต์เข้าหลังให้ แต่เกิดความผิดพลาด อะไรสักอย่าง
ที่มีผลกระทบต่อเส้นเลือดใหญ่ ทำให้ วันนี้ หมอประชุมกันว่า ต้องผ่าตัด


แล้วก็เริ่มเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่บ่ายสาม จน ทุ่มกว่า ที่พ่อโทรไปเจออาโย
แกไม่ได้อยู่หน้าห้องผ่าตัดอ่ะ เพราะเพิ่งกลับจากที่ทำงาน แล้วใส่ชุดขาว-ดำ ไป
เลยโดนไล่ให้ไปรอข้างล่าง -*-  เข้าใจนะว่า ถือกัน แต่นี่เค้าไปทำงานมานี่นา เฮ้อๆ



จนติดต่อป้ากบได้แหละ ถึงรู้ว่า ต้องรอประมาณ3ทุ่ม
ตลอดเวลาก็รอการติดต่อ กับอธิษฐานเผื่อการผ่าตัดให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
แต่ฉันก็ยังอดไม่ได้ที่จะเครียดอีก



....


พรุ่งนี้ก็จะรู้แหละ ว่าพ่อจะขึ้นกทม.เมื่อไหร่
ไม่ได้ไปเยี่ยมนานแล้วด้วย

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2551

..Kitty..

วันนี้วันอะไรก็ไม่รู้ ตั้งปลุกไว้สิบโมงห้านาที
แต่ตื่นจริงๆตอนเที่ยงตรง


พอลงมาข้างล่าง ก็ทำงานบ้าน
พอเข้าไปในครัวร้านก็ได้ยินเสียง ..เมี๊ยว.. อีก
เอ๊ะ.. ชักคิดแล้วแหละว่า น่าจะใช่
เลยเอียงหูไปฟังที่กล่องลัง(ที่เอาไว้เก็บบรรดากล่องอีกที) ก็ได้ยินชัดเลย
ชัดเลยๆๆๆ มีแมวอยู่ในลัง บนตู้เย็นในร้าน


ยกมาดู เห็นเจ้าเนี่ย




เลยเอานมหนองโพมา ชุบคอทตอนบัดส์หยอดให้มันกิน
แต่พ่อไม่คิดจะเลี้ยงอยู่แล้ว ก็เลยเอาไปวางไว้ฝั่งตรงข้าม
แล้วเวลาก็ผ่านไปจนสามทุ่ม ไปเอามาป้อนอีก จริงๆรวมแล้ว 3 รอบแหละ


...


นึกไม่ออกแล้วว่าจะเล่าอะไรต่อ
มีแต่คนมาพูดข้างหูอยู่ได้



-*-


 


 

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551

..ข้อคิดจากกระเป๋า..

เมื่อวานตอนไปเดินLotus กับเพื่อน ก็เห็นหรอกนะว่า แตงถือกระเป๋า
ที่เป็นของขวัญจากมาดามไปด้วย แต่ฉันไม่ได้เอาไปอ่ะ รู้สึกที่มีมันใบเล็ก
(แต่ก็ใหญ่กว่าของแตง) แตงได้เป็นของขวัญคริสมาสต์ แต่ฉันได้เป็นของขอบคุณ
ที่ช่วยพิมพ์เอกสารเรื่องการจ้างงานให้(ใช่ป่ะหว่า แบบว่าลืมๆ)


พอไปเดินด้วยกัน ก็เห็นมีขายในร้าน
ถ้าขนาดเท่าของยาหยัง ราคาอยู่ที่ 650


Yang's Bag



แพงเป็นบ้าเลย ยี่ห้อเนี่ย Lesportsac แต่สงสัยจะไม่ดังในญี่ปุ่นเท่าไหร่นะ
เพราะไม่มียี่ห้อนี้ในเวปตุ๊กตาอ่ะ


Cute Cute


ส่วนที่ฉันถือเนี่ย ราคาก็คงจะย่อมเยาว์ลงมาหน่อยล่ะ
แต่เนื่องจากใบมันเล็ก ไม่ค่อยชอบกระเป๋าเล็กเกิน(จริงๆมันก็ไม่เล็กหรอก)
ไม่เหมาะกับตัวเอง เลยมักจะถือใบที่ใหญ่กว่านี้สักนิด
บางอันก็ไปสอยของเก่าน้ามาถือ จนน้องเรียก... "คุณนาย"
แต่จริงๆเปล่าเลย คุณนายพกตังค์ไม่ถึง500  ..เหอะๆๆ


P' Pat gift


อันนี้ของแตง สีดำลายผีเสื้ออ่ะนะ ใบจะเล็กลงไปอีก(ค่อยๆหดลงไปเรื่อย)
แต่ขนาดพอเหมาะ ใส่กล้องได้ มือถือได้2เครื่อง แถมกระเป๋าตังค์อีกแน่ะ


...


แต่.. จริงๆแล้ว ตอนนี้กระเป๋าที่ครองใจฉัน(ไปเต็มๆ)
มันเป็น เจ้านี่ๆๆ


the Classic color


ตะกร้าสานของแม่เนี่ยแหละ -.-
สีก็เหมาะกับทุกโอกาส อาจเพราะช่วงนี้เลือกอะไร ๆสีขาว - ดำ ด้วยมั๊ง
ก่อนจะมีเหตุการณ์ถวายอาลัยฯ นะ (เดี๋ยวจะหาว่า บ้าฮิตตามกระแส)
ที่คิดก็คงเพราะ มันเป็นของแม่ เลยออกจะเห่อๆ อยากได้มั่ง งิงิ
ทั้งที่จริง มายืมแม่ได้ตลอดแหละ


พอทีนี้ ก็มาบ่นว่าอยากได้ เลยโดนแม่ถามว่า
"ตอนนั้นทำไมไม่เอา แม่ก็ถามแล้ว..." -.-


 


...


เรื่องนี้ทำให้คิดถึง กระเป๋าสตางค์ของ Anna Sui
 ที่แม่ได้เป็นของขวัญจากน้าวรรณเมื่อปีที่แล้ว


Rose Purse


อยากได้อ่ะนะ เห็นลายกุหลาบบนพื้นสีชมพู ชอบจริง ชอบจัง
ไปถามขอ ๆ แม่หลายรอบ แม่ก็บอกยกให้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว
แต่ก็ยังไม่เอา แล้วพอได้มาจริงๆ โน่น อยู่ในกระเป๋าสะพายสีขาว
ยังไม่ได้หยิบมาใช้ ไม่เคยเอาออกงานที่ไหนเลย เหอๆๆ



เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อะไรที่มันยังไม่ได้เป็นของเรา มักจะมีค่าชะมัด อยากได้ๆๆ
แต่พอได้มาแล้ว เก็บไว้...ให้อุ่นใจก็พอ


-*-



กับสิ่งของ แบบนี้ก็ไม่ดี
กับคน อย่าให้ฉันเป็นแบบนี้เลย...

วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2551

..went 2 lotus..

เมื่อวานฉันรู้สึกสติเสีย
(คล้ายๆแตกป่ะ ก็นิดหน่อย แต่ฟื้นกลับได้ มันแค่อ่อนไหวอ่ะนะ)


วันนี้เลยเก็บถ้อยคำสอนมาใช้จริงๆมั่ง


...


ไปนอนตอนตีสาม เพราะรู้สึกว่าคืนวันเสาร์นอนน้อยไป
แถมวันอาทิตย์ตอนบ่ายก็ไม่ได้หลับ เหมือนจะงีบแต่ก็ไม่
ได้nap จริงๆ ตอนหัวค่ำ แล้วก็ตื่น มึนเล็กน้อย แต่ตั้งใจว่า นอนเร็วดีกว่า


ตั้งปลุก 10.25 แต่ตื่น 11.45


-.- ประจำเลย ตั้งปลุกไว้จะตื่นหลังจากนั้นประมาณชั่วโมงกว่า
เฮ่อ.........


ก็ยังดี ถือว่า นอนไปซะ ทดแทนๆ(เกี่ยวไหม ..ไม่เลย ไม่เกี่ยวเลย)


ตื่นแล้วก็ลงมาทานข้าว แต่ไม่มีข้าว เหอๆ
พ่อไม่ได้หุง ให้กินของเก่าไป แง่มๆ ไม่เป็นไรหรอก แค่ของเก่ามีน้อย
ก็เลยอุ่นแล้วกินไปน้อยๆนั่นล่ะ แล้วก็ไม่รู้สิ กินไปถ้วยเล็กๆ กับแกงสับปะรดใส่ไก่
ดื่มน้ำก่อนและหลัง ..เรอ ..เอิ๊ก. จบมื้อทันที


ทั้งที่ยังอยากจะใส่อะไรลงไปอีกอ่ะนะ -*-


ไปกวาดบันได ยกพรมเช็ดเท้าลงมาล้าง
ไปถูในร้าน ถูในครัว(ร้าน) มีตัวไรไม่รู้มาฉี่ใส่ กรรม !! หมาหรือแมววุ้ย แต่น่าจะหมา
ถ้าเป็นคน คงจะอนาถน่าดู -*- 
กลับมาเก็บผ้า รดน้ำต้นไม้ มานั่งพิมพ์งานให้พ่อต่อ นิดหน่อย


เกือบห้าโมง แตงมาหา แวะเอากล้องมาให้ไรด์รูปลงซีดี
พอเกือบหกโมง แตงมารับ ไปโลตัส ยัดทะนานกันไป รถแคป แต่ฉันได้เกียรตินั่งหน้า
เพราะว่า... มันอ้วนสุด กร๊าก
-.- ข้างหลังมี5คนอ่ะ


 


ไปถึงก็ลากแตงไปเดินด้วยกัน
ก็ได้ของเกือบครบตามต้องการนะ แถมได้ของที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อตั้งแต่แรกมาอีก เหอะๆ
ก็เจ้านี่ล่ะ ที่เอารูปมาแปะเนี่ย




(อยากได้กล่องมัน -*-)
แต่หลายอย่างที่ไม่ได้ซื้อ คือหาไม่ได้ ไม่มี หมด ก็เซ็งเล็กน้อยถึงปานกลาง
เดินไปทำใจไป


อ่อ ที่ฮาสุดๆคือ รองเท้า (ไม่ได้เอากล้องไป ไม่งั้นถ่ายกลับมาให้ดู)
เป็นรองเท้าแบบ pumps ลายตารางสีขาว-แดง น่ารักมากเลย
ทรงเป็นรองเท้านักเรียนนี่ล่ะ แต่สายคาดมีสองอัน กิ๊บเก๋สุดๆ(ชอบหลายๆ)
ทดลองใส่ เท้าซ้ายใส่ได้พอดี เดินแบบสบายเลย กะว่า วันนี้สอยกลับบ้านแน่ 555
แต่อีกข้างซึ่งแปลกใจอยู่ว่า ทำไมมันแยกกันหว่า ดันใส่ไม่ได้ -*- ซึ้งจริงๆ
ต้องมีใครที่ดันหยิบรองเท้าผิดไซด์กลับไปแน่เลย เหอๆๆ


และแล้ว..199 บาท ก็กลับมาอยู่ในกระเป๋าต่อไป


น่าดีใจเนาะ -.-



...


กลับถึงบ้าน เอาของมาไว้แล้วไปกินสุกี้กับเพื่อนๆ
ไปนั่งในร้านฉันก็เงียบ ตอนนั่งในรถฉันก็เงียบ
จนโดนแซวว่า ลืมเอาปากมาเหรอ เหอๆ


ไม่สนิทกะทุกคน ไม่อยากโม้อ่า..


 


ปัจฉิมลิขิต .. คงจะดีกว่านี้ ถ้าฉันจะได้รักษาสัญญาและคำพูดได้ด้วย



 

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2551

..hot Sunday..

วันนี้วันอาทิตย์ (ก็ใช่สิ จะให้เป็นวันเสาร์เหรอ)
วงจรเวลาคล้ายเดิม รอการเปลี่ยนแปลงอยู่อ่ะนะ แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนสักที


อาจจะปลายเดือนกุมภาพันธ์ รอให้ทุกอย่างลงตัวแหละ
(บ่นอะไรก็ไม่รู้ บ่นไปเรื่อยน่ะนะ)


...


ตอนบ่าย พ่อซื้อขนมจีนกับไก่ทอดโกจ้อยมาฝาก
ชุดใหญ่(พ่อบอก) เอามา 3 ชุด ไก่ทอด4ชิ้น(คนละชิ้นว่างั้น)
ฉันก็กินไป 1 เซต รวมราคาแล้ว 33 บาท


มื้อเย็นก็แนวเดิม เพราะกำลังชอบกินไก่ทอด
(ตัวอะไรชอบกินแต่ไก่)


ตกลงวันนี้กินไป 66 บาท(แค่อาหารคาว)


เฮ่อ.. อยากกินขนมจีนอีกจัง แต่พ่อไม่อยากทำน่ะสิ
แล้วก็ไม่อยากซื้อแล้ว มันเปลือง -*-


...


วันนี้คิดเพี้ยนๆเล็กน้อยถึงปานกลาง
ก็เข้าใจได้หรอกว่า เพื่อนไม่ว่าง แล้วก็ไม่ว่างจริงๆ
แต่สงสารเค้า(สงสารตัวเองด้วย นอนน้อย) เลยบอกเลื่อนไปโลตัสตอนเย็น
สรุปว่า แตงกลับมาถึงออฟฟิศ1ทุ่ม
สลบความร้อนตั้งแต่สามทุ่ม เหอๆๆ


อากาศร้อนของวันนี้ เผาผลาญพลังงานใครหลายคนจริงๆนะเนี่ย


...


ขอจบความเพี้ยนและความร้อนของวันนี้
ด้วยรูปหลอนๆของตัวเอง กร๊าก




คือ พยายามมากเลยนะ ที่ไม่ให้มันน่ากลัว -*-
แต่เนื่องจากตาฉันมันดุ ห้องก็มืด แสงก็ไม่มี(ปิดแฟลช เปิดแล้วน่ากลัวยิ่งกว่า)



ปัจฉิมลิขิต .. พรุ่งนี้แตงนัดไปโลตัส จะซื้อของให้น้องด้วยแหละ เยอะเชียว
แล้วจะแบกมาไหวไหมนะ -*- แต่ไงก็อยากไปกินข้าวกะเพื่อน เหอะๆ

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2551

..Children's day..

เมื่อกี้บ่นอะไรไปบ้างก็จำไม่ค่อยได้
เพราะเขียนไว้แล้วทำโน่นทำนี่ ฟังแม่ คุยๆๆ แชทๆๆ


มึน -.-


...


นี่เหลืออีกสองวัน จะครบ 15 วันแต่งชุดดำ
แต่สำหรับฉัน คงจะมีแต่ตุ๊กตาอ่ะนะ ที่แต่งดำ
ตัวจริง หาเสื้อผ้าสีดำลำบากลำบน จะไปหาซื้อก็ไม่ว่างไปเลือก
(จริงๆต้องไปกับแม่ล่ะ ไปซื้อเองมักตาถั่ว หยิบได้ของห่วยมาทุกที)



...


วันนี้วันเด็ก ที่บ้านก็มีเด็กกะเค้า1คน
จะว่าไป อยากบ่นฝาแฝดนายเมย์อ่ะนะ
เมื่อวานโทรหาพ่อ บอกให้ลุงไปรับด้วย ปวดท้อง ไม่อยากนอนที่ห้องพยาบาล
พ่อก็ได้รับโทรฯจากป๊าเค้าอีก เลยไปรับ


กลับบ้าน แทนที่จะนอน ดันเปิดคอมพ์ ต่อเนต
ฉันนึกแล้วเชียว นั่งมองโมเด็มอยู่เลย นึกแล้วว่ามันต้องเป็นเช่นนี้
เลยดึงสายโทรศัพท์ออก รีบโทรมาทันที เหอะๆๆ


เซ็งเด็กจริงๆ


ช่าง ๆ ผ่านๆ



ก็คือวันเด็กนั่นล่ะ
เลยเล่นกับน้อง ทำงานบ้าน แล้วก็ถ่ายรูป ดูหนัง ฟังเพลง(ทุกวันอยู่แล้ว)
ไม่ได้เอาใจเฉพาะวันเด็ก ก็เอาใจทุกวันอยู่แล้ว -.-


หมดเรื่องเด็กและน้องๆ


...


ตอนบ่าย ทำงานบ้านไป โทรคุยไป
งกอ่างก 555
จริงๆไม่หรอก ไม่ใช่คนชอบคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา
แต่ถ้าใช้แล้ว มีเวลาเหมาะจะคุย(มันคิดของมันเอง) ก็จะใช้เยอะๆ
บางคนไม่รับ ก็ไม่เป็นไร ถือว่า โทรไปให้มิสคอล คิดถึงก็แล้วกัน


คุยกับพี่จันนานสุด ชนิดที่นั่งหาวแล้ว(อีกฝั่งไม่รู้เรื่อง)
ส่วนแตง โทรบ่อย แต่คุยสั้นๆ เน้นนัดเจอกันมากกว่า
ชวนไปเดินที่สวนตอนเย็น



ได้ไปจริงๆด้วยล่ะ
ฝากพ่อซื้อนมเปรี้ยว จะฝากให้สุขเพื่อนแตงเค้าไม่สบายอ่า
(ไม่ได้ใจดีหรอก แบบ ไม่รู้ดิ อยากจะให้เท่านั้นเอง ทั้งที่ไม่สนิท)
พอแตงมารับตอนหกโมง พาสุขมาด้วย 
กลายเป็นลากคนป่วยมาเดินออกกำลังกาย -.-


เดินนานไม่ได้ เดี๋ยวไข้กลับ



...


อ่อ ได้รับอีเมลล์จากพี่มินนี่ ด้วยล่ะวันนี้
แกว่า ไม่ว่างเลย แล้วที่บ้านก็ไม่มีเนต ต้องมาใช้ในเมือง
อืม.. อ่านออก เข้าใจเกือบทุกตัวอักษร แต่ตอนจะตอบกลับ
เล่นซะเหงื่อกตก 555


ก็นั่งเขียนไปนะ แล้วตามพ่อมาแก้ไขให้เป็นที ๆ -*-


ส่วนแม่ไปหาดใหญ่ ไปเยี่ยมยายอิ้ง แกเป็นโรคมะเร็งในสมอง
วันที่เราจะไปร้องเพลงก็ไม่ได้ไปบ้านแก เพราะเค้าเข้าโรงพยาบาลกันนี่ล่ะ
เราไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมาก จนวันนี้ถึงได้รู้


ตา ยาย สองคน อยู่ด้วยกันตามลำพัง
ฉันว่าน่าเป็นห่วงจริงๆน่ะนะ
เฮ้อ... คิดถึงคุณย่า พรุ่งนี้ให้พ่อโทรหาคุณย่าดีกว่า -.-


 


 


 


Ps* แอบสงสัยชื่อบล๊อกตัวเอง
children มันเป็นพหูพจน์ แล้วใส่ 's มันก็ผิดดิเนี่ย


-*- ฮู้วววววว.. เซ็ง

วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2551

..ร้อนๆ ออกกำลังกาย..

ผ่านไปอีก1วัน ของการทำอะไรต่ออะไรหลายอย่าง
บ้างคือหน้าที่ บ้างคือกิจวัตรประจำวัน บ้างคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อปากท้อง
บ้างคือสิ่งไร้สาระที่ไม่ต้องทำ แต่ก็ยังทำ


บ้างทำไปด้วยความสุข
บ้างทำไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร (เฉยชิน)
บ้างทำไปด้วยแรงกระตุ้น จาก ego หรืออะไรสักอย่างนี่ล่ะมั๊ง


วันก่อนพิมพ์บทความเรื่องอะไรสักอย่าง(คนมันไม่ค่อยจะจำ)
มีอะไรเกี่ยวกับ ego และ superego กับทฤษฏีของคนโน้นคนนี้


พิมพ์จบ ลืมไปกับโปรแกรมที่ถูกปิดลง เหอๆๆ


..


วันนี้ตื่นนอนค่อนข้างเร็ว เพราะไฟดับตอนสาย
นอนไม่หลับแล้ว เหงื่อแตกซ่กๆ จะเป็นหมูอบดีๆ
เลยต้องลุก ตื่นๆๆ อาบน้ำ ไปทำงานก็ได้



ตอนเย็น ทำงานบ้านเสร็จ
ไปเล่นเครื่องออกกำลังกาย เปิดเพลงใส่หูฟัง หลับตา เดินๆๆ วิ่งๆๆ
เล่นไปจนเหงื่อไหลจากไรผม หยดมาเปียกหน้าเปียกตาหมด
ฟังเพลงไปหลายเพลง ลืมตาอีกที เกือบ 1 KM  เลยเดินต่ออีกหน่อย ได้ครบพอดี


-.- เลยต้องสระผมทุกวันเลย เฮ่อๆ


 

วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2551

..in my Garden..

วันนี้ไปทำไฮไฟว์ใหม่ เหอๆ
แต่ไม่ได้ใช้เมมเดิมแล้ว อะไรๆก็เอมิจะดีกว่า
ไม่มีอะไรพิเศษ ผ่านๆ



...


วันนี้กวาดถูโรงรถ ซึ่งก็คือร้านนั่นล่ะ
จะไม่ทำก็ใช่ที่นะ ปล่อยไว้นาน รอยล้อรถติดหนึบ พื้นหินขัดขาวๆเสียสวยหมด
ตอนไปซักผ้าหน้าบ้าน เจอยายเยาว์ เอาผักมาขาย
พ่อเหมาหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้อ่ะ แต่ชอบกินมากมาเลย เจ้าผักกูดเนี่ย


เสร็จแล้วก็ไปแบ่งต้นหางจระเข้ต่อ
อยากจะเอามะละกอกับพริกที่แตงมาให้วันก่อนลงดินนะ แต่พ่อเร่งให้เข้าบ้าน
หางานมากองให้ทำอีก เหอๆๆ
พ่อบอกว่าจะไปทำตอนหัวค่ำ แล้วก็ลืม -.-
พรุ่งนี้ไปทำเองก็ได้ เหอๆ



ชอบจังภาพนี้ ใบอ่อนมันหรือดอกหว่า-*- น่าจะใบแหละ
ยื่นมาอย่างกะตัวอะไร โฮะๆๆ



กล้วยไม้ของพ่อ(ของขวัญจากใครก็ไม่รู้)สวยได้สวยดี เชอะ อิจฉา



ดอกแก้วน้อยของฉัน ออกดอกสองรอบแล้ว



กระดุมทอง(ภาพเบลอไปนิดนะ เหอๆ ไม่นิดล่ะ)


 


...


อืม..ช่วงนี้ตอนเย็นๆ รดน้ำต้นไม้ตลอด
ดูจะสดชื่นกันไปทั้งสวนนะ แบบว่า โดนทิ้งขว้างซะนาน เหอๆ
พอรดที่สนาม ก็พลอยฉีดแรงๆ ขึ้นไปที่ระเบียงด้วย 555
แล้วต้นไม้ใบหญ้าที่ระเบียงก็พลอยงอกงาม ออกดอก ยังเหลือก็แต่บุหงาส่าหรีนี่ล่ะ
ยังนึกไม่ออกว่าจะทำไงดี ปุ๋ยก็ให้ หรือว่าต้องเปลี่ยนดินก็ไม่รู้นะ
มันจะเกือบปีแล้วล่ะมั๊ง



...


เมื่อคืนวานคุยกับแตงเยอะนะ
รู้สึกว่า เราสนิทกันมากๆ อาจเพราะเพื่อนกล้าที่จะเปิดเผยกันเยอะด้วยมั๊ง


ตอนหัวค่ำเจอพี่อ้วนในเอ็ม
แกว่า อ.โรสเลนโทรไปหาบอกว่า อาทิตย์หน้าจะไปภูเก็ต
ให้ทิชเชอร์ไปเจอก่อนล่ะกัน ส่วนฉันคงอีกนานเลย ฮือๆๆ..(แอบเศร้าล่วงหน้า)




เล่นกล้องแล้วถ่ายรูปตัวเอง กร๊าก
เมล์สนใจที่คาดผมนี่นะ เพราะหาที่ฝรั่งเศสยาก
แต่ว่า..มันซ้ำกันกับ ของแตง ของนิค ของ คนอีกเกือบครึ่งเมือง -.-
ส่วนพี่ชายเค้าว่า เหมือนเจ้าหญิง หุหุ ออกแนวราชินีหมูมากกว่า



เรื่อยเปื่อยดีนะเนี่ย วันนี้

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551

..ส่งท้ายงานกาชาด..

เมื่อวานไปงานกาชาดกับเพื่อนๆมาล่ะ
เป็นวันสุดท้ายของงานแล้วด้วย เลยได้ของแถมเล็กน้อย
จากร้านที่อยากจะขายๆๆ


ตอนเกือบสองทุ่มพี่ปัทมารับ
แตงเอาต้นมะละกอน้อยมาให้ด้วย ขอไว้อ่านะ 10 กว่าต้น
มีแถมพริกมาด้วยอ่ะ



ไปถึงก็ลากแตงไปเดินดูของ
พี่ปัทกับคนอื่นๆ ไม่ชอบเดินกันมาก เค้าชอบเสี่ยงโชคกัน
ปาลูกโป่ง อะไรทำนองนั้น
ซึ่งฉันไม่เอาด้วย ไปซื้อกิ๊บดีกว่า 555


ไปยืนเลือก ๆๆ แตงจ่ายไป20 บาทมั๊ง
แต่ฉันไปหลายร้าน กลับมาบ้าน นับแล้วก็ร้อยกว่าบาท -*-
บ้าจังเนาะ เหอๆ ทั้งกิ๊บ ทั้งที่คาดผม แหวน ต่างหูก็ไปเอามา(ใส่ซะที่ไหน)


....



เดินวนฝูงชนออกมา ก็มายืนรอไปจับฉลากกาชาดอีก
สาวแตงอยากได้ตู้เย็น ทีวี พัดลม(อะไรก็ได้ว่างั้น ที่ไม่ใช่ หวี ถ้วย จาน ชาม แก้ว)
แต่ก็ได้แก้วกลับไปอีกใบ เหอๆๆ
ส่วนฉันได้ถ้วย -.-




ก็สนุกดีนะ ใช้เวลาไปสองชั่วโมงกว่า ๆล่ะมั๊ง
แม่ฝากซื้อของกิน ก็ได้หมูสวรรค์กับ น้ำพริก แล้วก็ปลาข้าวสารมาฝากตัวเล็ก
น้ำพริก3ปุกร้อยก็เอามา คิดๆ อยู่ว่า จะส่งไปให้พี่ชายดีไหม แต่ว่า พี่เค้าปากแตกนี่หว่า เหอๆ
กินแล้วคงจะปากพอง กร๊าก อย่าเลยงั้น -.-




ก่อนกลับบ้าน แวะซื้อข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด มาฝากคนที่บ้าน
กับกินเองด้วยแหละ อืม ๆ ฉันกินข้าวมันไก่ทอดคนละครึ่งกล่องกับแม่เองนะ
อยากเปลี่ยนรูปดิสเพลย์แล้วอ่ะ กินก็น้อยลง มันดันลดแค่ครึ่งโล -*- อีกครึ่งต้องไปวิ่งใช่ป่ะเนี่ย



 

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2551

..Sleeping [not] Beauty..

วันนี้ง่วงจ้า ง่วงจริงๆ
เหมือนจะเป็นคนขี้เกียจ ขี้เซา เอาแต่นอนมันทั้งวันไปแล้ว(สิเรา)



แต่เมื่อเช้าก็ตั้งใจว่าจะรีบนอนน่ะนะ
เพราะวันอาทิตย์ต้องอยู่โยงตลอดวันอยู่แล้ว


ส่วนวันปกติก็จะพยายามนอนตอนตีสี่ ตื่นสักไม่เกินบ่ายสอง
พยายามให้อยู่ในช่วงนั้นตลอด อาจนอนช้ากว่านั้น แต่ก็จะไม่ให้ถึงเจ็ดโมงอีกแล้ว
เข็ดๆๆ  มันทำให้ตื่นซะเย็นย่ำ แล้วงานการก็ไม่เดิน สมองก็ไม่ปลอดโปร่ง


...



เมื่อคืนเลยไปนอนตอนตีสามกว่า
พอประมาณตีห้าครึ่งมั๊ง มีนโทรมา เหอๆๆ
ไม่ใช่ไม่อยากคุยกะน้องนะ แต่มึนอ่ะ แบบหัวหนักอึ้งไปเลย
เพราะไอตลอดกว่าจะหลับได้ (หวัดลงคอยังไม่หายดี)


ก็รับแหละ แล้วคุยกันพักนึง
บอกเรื่องที่เมลล์เค้าส่งไฟล์ประหลาดๆมา
กลัวว่าจะโดนแฮ๊คเข้าอ่ะนะ


แล้วก็หลับต่อ เก้าโมงครึ่งตื่น
แล้วก็อยู่ยาวจนบัดฉะนี้..แล..แล



...



เนื่องจากวันนี้มีแต่บ่นเรื่องการนอน ง่วง แล้วก็นอน
วนเวียนอยู่แต่ในห้องนอนนี่ล่ะนะ 555


 


 

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2551

..เจ็บกันอีกแล้ว..

เมื่อคืนนั่งตัดเสียงเรียกเข้า เพลิดเพลินกันไป
แล้วก็เลือกให้แต่ละสายที่โทรเข้าด้วยเพลงพิเศษ
ที่บันทึกไว้แล้วก็ไม่เปลี่ยนแปลง เพิ่มบางคนเข้าไปใหม่



หกโมงครึ่งก็ไปนอน ..พูดแล้วยังหาวอยู่เลย
นี่คงจะชะแว๊บแอบปิ๊งไปนอนไม่เกินตีสามอ่ะนะ



...


ตอนเที่ยงตรงตื่นมาเข้าห้องน้ำ
มองนาฬิกาเรือนสวยแล้วก็คิดว่า... ตั้งปลุกตั้ง เที่ยงยี่สิบ นอนต่อล่ะเด้อ
เพลงปลุกดังสนั่น ไม่สน จะนอนๆๆ


จนเสียงเพลง มีแต่คิดถึงดังนั่นล่ะ เลยตกใจตื่น
เพราะเพิ่งตั้งนี่หว่า ไหงทดสอบเสียงมาสายแรกเลย


พี่ชายตกหลังคา เดี้ยงค่ะเดี้ยง
หาหมอ เข้าเฝือกกันล่ะตอนนี้ เดินไม่ได้อีกพักใหญ่
ทำให้คิดถึงสองปีก่อน ที่ นายมดแดงมาตกหลังคาบ้านเรา -*-
แต่คนละสถานการณ์ เด็กซนกับผู้ใหญ่วูบ
นั่นก็กระดูกแตก เดินไม่ได้ไปเป็นเดือนๆ


ก็ต้องพักผ่อน กินยาตามหมอสั่ง แล้วก็หายไวๆนะคะ


...


ตอนลงมาข้างล่าง เห็นซองพัสดุจากพี่จัน
แกะออก กระเป๋าใส่มือถือ หุหุ สีม่วง (ต้องคิดว่าฉันชอบสีนี้แน่เลย ได้สองรอบแล้ว)
ของขวัญปีใหม่เค้าล่ะ



ตอนเย็นคิดว่าจะไปตลาดมือ2นะ
อยากจะไปหาเสื้อสีดำ -*- แบบไม่อยากได้ของใหม่ (งกง่ะงก)
แต่ว่า แตงไม่ว่าง ฉันก็เหนื่อยๆง่วงๆ ด้วย ฝนก็ตก เลยไม่ไป


หัวค่ำ นั่งคุยโทรศัพท์กับพี่จันเกือบชั่วโมง
ฟังแกเล่าสารพัดเรื่องในวันนี้ อิอิ ก็สนุกดี ปีนี้ชวนมาเที่ยวกระบี่อีก 555
ส่วนจะให้ฉันไปเที่ยวหาที่หาดใหญ่นั้น คงจะยากยิ่ง เหอะๆ



เอ้อ ได้ยินแตงเล่าว่า อ.โรสเลนจะไปภูเก็ตสัปดาห์หน้า
มาชวนแตงไปด้วย แต่แตงคงจะว่างแค่วันอาทิตย์
พอเล่าให้พี่อ้วนฟัง(ในเอ็ม) พี่อ้วนก็ชวนใหญ่เลย
เอาของกินมาล่อด้วย เหอๆๆ
ไม่ไหวๆ รู้จุดอ่อนเรานี่นา -.-



 

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551

..วันป่วนๆกับแหวนวงน้อย..

เมื่อวานเจ็บคอ ไอแค่กๆ เล็กน้อย
สงสัยเจอฝุ่นที่พ่อมาติดนาฬิกาเหนือห้องน้ำให้(เช็ดตอนเช้าก่อนนอน)
แต่มีอาการหวัดล่ะนะ กินยาแก้อักเสบ กินยาลดไข้ ฉีดยาในคอ



วันนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ลืมฉีดคอ ไปฉีดแป๊บ เดี๋ยวมาเล่าต่อ


โอเคล่ะ -.-


วันนี้ แม่ไปทำบัตรประชาชนใหม่ ที่เทศบาลหลังใหม่ นอกๆเมืองอ่ะ
ฉันก็อยู่บ้าน ทำพรีเซนเทชั่นให้พ่ออีกนิด แต่งภาพให้อีกอัน
ถึงชั่วโมงหรือเปล่าไม่รู้ เพราะหลังจากงานคอมพ์เสร็จ ก็ก้มหน้าถักกล่องของขวัญ
ที่จะให้มาดาม ทำต่อจากเมื่อคืนน่ะนะ


จนแม่กลับบ้าน เดินขากระเผกมาเลย -*-
ไปล้มที่หน้าเทศบาล ตอนทำบัตรเสร็จแล้ว
จากที่นั่งมอเตอร์ไซค์ไปกับพ่อ เลยได้นั่งรถยนต์กลับ เพราะเจ้าหน้าที่เค้ามาส่งให้ที่บ้าน


ตอนนี้ทายา(พยาบาลที่เทศบาลทำมาให้รอบนึงแล้วนะ) รอบสองแล้ว
แล้วก็เอาผ้าร้อนประคบเท้าไว้ เบาปวดได้มาก
หนีไปนอนนอกห้องแล้วล่ะ -.- เพราะเข้าห้องน้ำสะดวก



...


ที่เสียดายคือ ตอนเกือบดึก บ้านมาดามแวะมาเยี่ยมแม่ เอาผลไม้มาฝาก
ฉันก็เลยเอากล่องลูกปัดให้ไปเลย Happy Birthday ด้วย
เพียงแต่... ยังไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
แงๆๆๆ ทำหลายชั่วโมง ลืมถ่ายรูปไว้ -*-



ที่เพิ่งทำเสร็จอีกอัน คือ แหวนลูกปัด ถ่ายรูปแป๊บๆ


Four Flower


Four Flower



ได้มาล่ะ อิอิ ก็น่ารักดีนะ แต่แม่ว่า เอาไปทำเป็นเข็มกลัดดีกว่า
ผู้ใหญ่ไม่ชอบแหวนหัวเบ้อเริ่มน่ะ เหอๆ
ฉันก็หัดทำไป เพราะอยากทำอะไรที่ไม่เคยทำหรอก



.....จบเรื่องเล่าแต่เพียงเท่านี้ ....


จะไปล้างจานจ้า

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2551

..ตะลอนทัวร์..

เอารูปมาเล่าเรื่องบ้าง แล้วก็เล่าไว้บ้าง
(นี่บันทึกของฉันน๊า
แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองทำข้อมูลหล่นหายไประหว่างทางเส้นทางชีวิตหรอก)



..


ก็อย่างที่เขียนไปเมื่อวาน
ออกจากกระบี่ 8 โมงกว่า
และเพราะเป็นคนที่ต้องพาทุกคนไปเจอแตงเพื่อให้แตงพาไปบ้านพี่ปัท
(ถึงไม่ใช่คนขับ แต่ก็นำทางแบบกลายๆนั่นล่ะ)
จึงค่อนข้างเครียด เล่นเอากินข้าวกินปลาจากบ้านไม่ลงเลย



ขึ้นรถก็แทะแอ๊บเปิ้ล ที่ยาหยังให้
เป็นสโนไวท์แต่เช้าเลย 555 แล้วก็กินเลย์รสสาหร่ายโนริต่อ
(จำได้ เพราะนั่งส่องกระจก แล้วมันติดฟัน -*- เซ็งจริงๆ)


พอรถเลี้ยวเข้าถนนสาย southern ได้ ก็โล่งไประดับหนึ่ง
เนื่องจากตอนแรก อ.โรสเลนแกจะไปทางตรง


จนมาเจอกับแตง ตรงปากทางเข้า อ.นาสาร
ยืนรออยู่กับน้องสาว ที่ศาลา
ฝนก็ตกเนาะ คนก็ไม่ค่อยจะบายเนาะ แต่ก็ยังมา มีน้ำใจจริงๆเลย เพื่อนฉัน


พอจะถึงบ้านพี่ปัท เกิดอาการหลงทางอีกรอบ 555
แตงจำทางเข้าบ้านพี่ปัทไม่ได้น่ะ (มาหลายรอบแล้วน๊าเนี่ย)
ก็ เลี้ยวกลับกัน ไม่เป็นไร ๆ วันนี้วันพักผ่อน ไม่มีอะไรรีบเร่ง




ไปถึงบ้านพี่ปัท ราวๆ เกือบเที่ยงมั๊ง
กินข้าวเที่ยงกันพอดีแหละ


นั่งคุยกันอยู่พักนึง ถ่ายรูป ต้นไม้ ใบหญ้า
บ้านพี่ปัทมีต้นตะลิงปลิงด้วย(แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา)
เห็นแล้วคิดถึงบ้านคุณย่า เพราะปลูกไว้ในบริเวณบ้านแบบนี้เลย



พี่ปัทมีน้องแมวกับน้องหมาด้วย
เจ้าแตงกวา น้องหมาพุดเดิ้ล เชื่องมากมาย
แต่การต้องลูบหัวมันตลอดเนี่ย ก็ทำเอา อยากจะหนีเหมือนกันนะ เหอๆ



กินข้าวกันเสร็จก็ออกจากบ้านพี่ปัท ลาพ่อแม่พี่ปัท
แล้วไปที่ทะเล ใกล้ๆบ้าน
ใกล้จริงๆน่ะนะ ไม่ถึง1 กิโลเมตรหรอกมั๊ง
ลมแรงนะ คลื่นก็แรง มีแต่เสียงลม เสียงคลื่น



 



เดินต๊อกๆ ถ่ายรูป สักพัก ก็ไปน้ำตกกันต่อ
อันนี้ไกลบ้านอยู่สักหน่อยล่ะ
พอเลี้ยวรถจะเข้าไปน้ำตก พี่ปัทก็เกิดมึนขึ้นมา ห่วงว่า เค้าจะเก็บค่าเข้าป่าวหว่า
แต่เค้าก็ไม่เก็บหรอก เข้าฟรีๆๆ





รถจอดปุ๊บ ทุกคนก็เดินลิ่วๆกันไปเลย
ฉันมัวแต่อืดอาด ถ่ายรูปไปเรื่อย
เส้นทางก็ไม่ธรรมชาติแบบสระมรกตหรอกนะ เพราะเป็นอิฐปูไปตลอดทางอ่ะ
แต่ก็ขึ้นๆลงๆ แนวขึ้นเขา แหละ



ผ่านสะพานสองรอบ สะพานที่สองเนี่ย มีปลาอยู่เยอะมาก ก้มหน้าก้มตาถ่ายภาพ
เงยหน้ามาอีกที เค้าเดินกันไปไกลแล้ว


วันนั้น อากาศอึมครึม เพราะช่วงเช้าถึงสายมีฝนตก
ถึงพวกเราจะไปตอนบ่าย แต่ฟ้าไม่ค่อยเปิด เลยดูทึมๆ ไปหน่อย
แต่ว่านะ มองดีๆ ก็ดีนะ เพราะ อากาศไม่ร้อนไง เดินกันไกล ยังไม่รู้สึกเหนื่อย





พอไปถึงตีนน้ำตก เงยหน้ามองแล้วแบบ อู้ฮู้ว....
ไม่คิดจะเล่นน้ำอยู่แล้ว ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา แถมพกกล้องแบบนี้ ไม่เอาแน่ๆ
กะจะถ่ายรูปอย่างเดียว
พี่ปัทก็เลยชวนขึ้นไปด้านบนๆ แต่เป็นด้านข้างของน้ำตกนะ
ต้องปีนแง่งหินขึ้นไปอ่ะ มองซ้าย ขวา ที่ตัวกลมๆ ไม่ขึ้นกันสักคน
เห็นจะมีก็แต่ตัวข้าพเจ้านี่ล่ะ -*-




แต่ได้ภาพสวยๆ ก็คุ้มค่าจริงๆ
ชอบต้นไม้ใบหญ้าที่ดูจะสดชื่นร่าเริงริมน้ำตกจังเลย
แม้ว่าจะไม่เห็นไม้ดอก แต่สีเขียว ๆ ก็ทำให้เราสบายใจได้อย่างน่าอัศจรรย์



กลับจากน้ำตก ส่งพี่ปัทที่ตลาดใกล้บ้าน
เพราะนัดกับน้องสาวให้มารับแล้ว โบกมือลา แล้วมุ่งหน้าไป นาสาร บ้านแตงต่อ
นั่งรถไป คุยไปบ้าง งีบบ้าง แต่ออกแนว หลับมากกว่า
เพราะมึนๆ ตลอดทาง ออกจาก นครฯบ่ายสามล่ะมั๊ง หรือสี่โมงเย็นนี่ล่ะ
ไปถึงบ้านแตง ก็ห้าโมงกว่า ๆ แล้วอ่ะ
กินข้าวๆๆๆ ไม่พูดพร่ำทำเพลง -*- เพราะหิวจริงๆ





น้องสาวแตงทำอาหารเอง อร่อยมากมาย 555
รู้สึกฉันจะกินสองจาน ตลอดเลย -.- คนอื่นเค้ากินกันคนละจานเองนะ เหอะๆ
ไม่ค่อยได้คุยกะน้องๆ ของแตงหรอก
(หมายถึงตัวฉัน ตอนบ้านพี่ปัทก็ไม่ได้คุย เหอๆ)
พวกผู้ใหญ่จะคุยมากกว่า
ทานเสร็จ ก็ไปถ่ายรูป แล้วก็ดูมดดำเล่นตะกร้อกับคริสเตนสักพัก
แล้วก็กลับ แต่ไม่ได้กลับบ้านทันทีนะ ไปแวะบ้าน แม่เฒ่าของแตงอีกพักนึง



ไปถึงเค้าชวนกินข้าวอีก เหอๆๆ
ไม่ไหวแล้วค่า อิ่มมากมายแล้ว



พอจะกลับบ้าน ก็โบกมือลากันอีกรอบ



ออกจากนาสาร ประมาณ หกโมงครึ่ง
ถึงกระบี่ เกือบๆ สามทุ่ม


เป็นการเดินทางตะลอนทัวร์ที่สนุกและเหนื่อยมากมาย
อาหาร 3 มื้อ 3 จังหวัด ภายใน 1 วัน
จริงๆก็อยากนอนบ้านแตงนะ (ถ้าแม่ให้นอนก็คงจะดีเนาะ คิคิ)


 


....


ปิดท้ายด้วยภาพหลุด ๆ ของแต่ละคนค่า
อย่าหวังว่าจะมีรูปของฉัน 555



 








 



Happy New Year 2008

Related Posts with Thumbnails