“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

..จัดเต็ม..

หายต๋อมไปตั้งหลายวัน แบบว่าลืมด้วยแหละ
คือพอมีfb บางครั้งคิดว่าอัพภาพไปแล้วสงสัยจะอัพบล๊อกไปแล้ว (เพ้อเจ้อ)


แต่ไม่ต้องห่วง วันนี้มาแบบ "จัดเต็ม" ฮ่าๆๆ




เริ่มจากวันพุธที่ ๒๖ เค้ากลับจากพีพีกันเกือบเย็นนะ บ่ายสามกว่าได้
พอเค้ากลับมา ฉันก็รีบแล่นออกจากบ้าน .. ด้วยความรู้สึกมาตลอดว่า
"อึดอัด อยากเที่ยวว" ก็ไม่ได้เที่ยวอะไรนักหรอก แค่ไปเกร่สองร้าน
จ่ายเงินไปซะหลายร้อย ... ตอนจ่ายไม่คิดมาก กลับมาเปิดกระเป๋าดู เหงื่อตก =.=


ร้านแรกเป็นร้านกิ๊ฟชอป ตั้งใจไปหาสโนว์บอล .. มีแล้วลูกนึง อยากได้อีก
บางทีก็เพ้อเจ้อว่าเค้าจะมีสวยๆแบบที่เราอยากได้
แต่ไปดูๆแล้วก็ไม่ยักจะมี บางอันน่ารักแต่ลานก็เสีย บางอันสมบูรณ์ดีก็เพลงเดิม
แล้วตาหาเรื่องก็หันไปเห็นจักรเย็บผ้าอันจิ๋ว .. ก็ไม่จิ๋วซะทีเดียวหรอกนะ
แต่ย่อส่วนขนาดของตุ๊กตา ลองไปหมุนเล่นดู เพลงมันก็เพลงเดิมนะ
ไม่ได้ไพเราะอะไรนักหนาด้วย ... แต่อยากได้อ่า ..




อยากได้ก็ซื้อสิ เค้าขาย ๓๙๙ ต่อได้แค่ ๓๘๐ ก็ยังเอา
ตอนแรกคนขายจะเอาใส่ถุงพลาสติกให้ กล่องก็ไม่มี เลยถามหา
พี่แกก็เดินไปค้นหลังร้านสักพัก .. ตอนแรกมีแว่วบ่นว่า "คงเอาไปห่ออย่างอื่นหมดแล้ว"
เจริญนะคะแบบนั้น ไม่คิดเอาไว้ใส่กล่องให้ลูกค้าเรอะ?
แต่เค้าก็เจอ .. แล้วก็เอาใส่กล่องให้ จ่ายสตางค์ แล้วก็เดินออกมาอย่างตัวเบาหวิว..


อีกร้านแนวคล้ายกัน แต่เน้นขายส่ง ร้านหลังนี้ฉันจะไปหากระเป๋าฝากตู่
จริงๆรู้ระดับราคาอยู่แล้วว่า ร้อยกว่า แต่ได้ลายประมาณ cath kidston
คือฉันชอบลายหลายๆลายของแบรนด์นี้นะ
แต่อันนี้ก็ทราบล่ะว่าเป็นของก๊อป แม่ค้าก็โฆษณาเหลือเกิน
"ก๊อปเกรดเอนะคะ" (ต่อให้เกรดแซ่ด เจ๊ก็คงบอกเอ ฮ่าๆๆ)
เลือกหลายอันมาก เลือกนานจนแม่ค้าคล้ายจะหมดความอดทน
แต่ก็หยิบกลับมาสองใบ ได้ทรงประมาณกระเป๋าใส่เศษตังค์ แต่ใบโตกว่าหน่อย
น่าจะใส่พวกเครื่องสำอางค์ได้ สีฟ้า ลายดอกกุหลาบ
(ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ .. ให้เค้าไปแล้วด้วย) ใบนี้ ๑๕๐ ลดไปเก้าบาท (ราคาเดิมก็บวกเก้าไง)
อีกใบเป็นทรงกระเป๋าสี่เหลี่ยม มีหูหิ้วด้านบน .. ใจจริงนะจะซื้อมาใช้เอง
แต่ลายมันยังไม่โดนจังๆ (แล้วซื้อเพื่ออะไร??) เป็นลายลอนดอน สีมินท์เข้มๆ
ก็เก๋อยู่ พอเอากลับมาบ้านเลยเปลี่ยนใจยกให้แม่
ก็ไปยึดเอากระเป๋าใส่เหรียญของแอนนาซุยแม่มาเมื่อหลายปีก่อน
เอาอันนี้มายังทดแทนไม่ได้เลย เพราะก๊อปเกรดเอ เปิดออกด้านในใช้ผ้าบุเลวๆมาเย็บ
ข้างนอกดูสะสวย แต่ข้างในเย็บดูไม่แข็งแรง (แล้วให้แม่ไปทำไม๊ ..เหอๆ)
กะว่าแม่เอาไว้ใส่พวกใบเสร็จก็น่าจะโอเค อ่อ ราคาน้อยกว่าร้อยเก้าสิบเก้าไปสิบเก้าบาท
แม่ค้าเค้าลดให้สุดๆแล้วล่ะนั่น


ยอมรับว่า ล่องลอยไปซื้อ ก็เลยจ่ายไปแบบเบลอ ..เบลอ แต่เงินไปจริงๆนะ
ได้ของมาจริงๆด้วย เฮ้อ .......... จะจำไว้ว่า อย่าออกไปเมื่อ "อยาก"
แต่ไปเมื่อ "ต้องการ" จริงๆ =.=





ยังดีที่เอากลับมาบ้าน ถ่ายรูปกับลาเวนเดอร์แล้วดูเข้ากัน =.="(พยายามมองแง่ดี)
ตอนนี้ที่เหลือคือ หาที่จะวางให้ได้ก่อนเหอะ ฮ่าๆๆ




อ่อ .. ได้โปสการ์ดจากเมืองจีนด้วยล่ะ เซอร์ไพร้ส์มากมาย




เดี๋ยวๆ โหมดอาหาร ที่ทำเอง (อยู่กันเองก็ต้องทำเอง)
วันนั้นกับข้าวไม่ค่อยมี เลยเอาวุ้นเส้นไปผัดให้น้องหม่ำ
ใส่เครื่องไม่เยอะนะ แต่ก็ได้เต็มจาน แถมกินเกือบหมด .. ดีใจจัง




วันพฤหัสเค้าอยู่บ้านกัน เตรียมตัวเคลียรปัญหาบางเรื่อง
เหมือนเป็นอีกวันที่ฉันก็จำไม่ได้ว่าทำอะไรบ้าง .. เออ งงจริงๆ




วันศุกร์ เค้าไปงานไว้อาลัยที่ทุ่งสง ต้องออกจากที่นี่บ่ายสอง
ไปกันไกล ใช้เวลาร่วม สามชั่วโมง เลยต้องรีบไป
พิธีจะเริ่มตอนทุ่มนึง
พ่อเลยไปปลุกตั้งแต่เที่ยงกว่ามั๊ง
ลงมาก็มีขนมจีนไว้ให้กิน พ่อเค้าซื้อเอาไว้ให้ แต่น้ำยาของร้านจะหมดล่ะ
พ่อเลยทำไว้ให้เองอีกหม้อ(ไม่โตหรอก)




ตักใส่จานแล้วทำเป็นสร้างภาพ อิอิ แต่กินจริงๆ เติมอีกเท่าตัวอ่ะ
แถมไม่ใช่แค่มื้อเดียว ความที่มีแต่ขนมจีน (พ่อซื้อมาห้ากิโล)
เลยกินสองมื้อรวด ทั้งบ่ายและค่ำ ไม่อยากบรรยายต่อว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ฮ่าๆ
อยากบอกว่า อาหารอะไรก็ตามที ถ้ากินต่อเนื่องกันหลายมื้อ
สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่เรื่องของการเบื่ออาหาร แต่อาจจะหนักกว่านั้น




กลางดึก มุดราฟท์ภาพสาวชมดอกไม้จนเสร็จ
ก็ดีที่มีเจ้าหมีต้นเป็นที่ปรึกษาให้ ตอนแรกลืมวาดหน้าอก
ดูแล้วมันแหว่งๆ เหมือนอะไรหายไป เติมไปอีกนิด ดูปกติมากขึ้น








อ่อ แล้วก็นะ วันนี้ได้ของขวัญปีใหม่กะคริสตมาสจากหมีต้นด้วย
เป็นตุ๊กตาชุดสีส้ม ผ้าพันคอสวย แต่ชุดต้องปรับปรุง
กับสาสน์สุดเท่ห์ มีตราปั๊มบนเทียนซะด้วย เริ่ดดด
แต่ตอนนี้แตกหักหมดล่ะ ก็งั้นจะอ่านข้อความได้ยังไงล่ะเนอะ




ส่วนวันเสาร์เทเวลาไปกับการดูแลน้อง ก็อยู่ยาวตลอดนะ วันศุกร์เค้ากลับมากันห้าทุ่ม
เราก็ไม่ได้นอนหรอก อยู่ไปจนเช้า ง่วงเต็มที่หกโมงก็หลับ
(รู้สึกน้องจะดูแลเราซะมากกว่า เพราะทั้งดูและแลว่าเมื่อไหร่พี่มันจะตื่น)
กว่าจะตื่นก็โน่นเลย เกือบบ่ายโมง
คือวันเสาร์นี่เค้าไปเผาศพที่นครฯ ไปตั้งแต่เช้ามืด เพื่อให้ทันเก้าโมงเช้า






กลับมาถึงก็เหนื่อยล้า แยกย้ายกันไปพักหมด แต่ก็มีดอกไม้มาฝากด้วยนะ
เราซึ่งตื่นพอมีเรี่ยวมีแรงแล้วเลยไปทำกับข้าว .. ทำซุปมันฝรั่ง
ใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ แต่คงดีกว่านี้ถ้าเนื้อจะเป็นเนื้อไก่
แต่ก็ไม่มี เลยต้องใส่หมูสับแทน =.=
ดีที่รสมันอ่อน มีบ้างที่ต้องเติมเพิ่มความเค็ม
แต่โดยรวมทุกคนก็คงจะชอบนะ เพราะกินกันหมด อิอิ
เมนูนี้ทำออกมาไม่สวย แล้วก็เหนื่อยจนไม่อยากหยิบมาสร้างภาพด้วยล่ะ




ตอนเย็นมานั่งดราฟท์ภาพในหลวง สัญญากับป้าแจ๊วไว้
แต่ยังไปไม่ถึงไหน เพราะมาดราฟท์ภาพดอกไม้สำหรับการ์ดปีใหม่ออนไลน์




คือเคยถ่ายรูปตุ๊กตากับกล่องของขวัญบ้าง ไปเอารูปชาวบ้านมาบ้าง
ปีนี้อยากจะดราฟท์เอง ถึงฐานเป็นรูปชาวบ้าน แต่ก็ขอให้ได้มีอะไรที่เราทำบ้าง
งานยังไม่ละเอียดนักนะ แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นศิลปะ มีคนชอบกดไลค์เราก็ดีใจ
แต่เพื่อนที่แท๊กไปแล้วเค้าไม่กด ก็ไม่เป็นไร .. ไม่ได้มาขอไลค์ เพราะสะสมไว้แลกไข่ก็ยังไม่ได้




พออัพภาพแล้วก็แล่นมามุทำของสอนเด็กต่อ เป็นเซต nativity ซึ่งจริงๆต้องทำตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
กะจะสอนทำตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่ขอโทษ สารพัดงานที่รับ มันเยอะจนรู้สึกว่า
แม้งานง่ายๆ บางคนก็ยังโยนมาให้ฉันทำเลย (เราก็ยิ้มรับมาเองด้วยนี่นะ)
แถมวันอาทิตย์น้องก็ท้องเสียอย่างหนักอีก เป็นอันว่า เลยไม่ได้สอน










พออาทิตย์นี้ อย่างน้อยก็ยังอยู่ในเดือนธันวาคม
คิดว่าถ้าได้ทำ ก็สนุกด้วย ได้เรียนรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของวันคริสตมาสด้วย
ต้นแบบฉันจำมาจากเซตที่เคยทำตอนเรียนภาษาอังกฤษ
พอไปค้นดูในกูเกิ้ล ถึงพบว่า เค้ามีขายในอะเมซอนด้วยอ่ะ
แต่จำราคาไม่ได้แล้วนะ เป็นโฟมสีๆ มาเป็นชิ้นให้ประกอบแบบนี้แหละ
อันเราจะให้ก๊อบเค้าทั้งดุ้นก็ไม่อยากทำ เลยปรับแต่งนิดๆหน่อยๆ
ที่มันช้าก็ตอนตัดฟางนี่ล่ะ สองชิ้น ทำไว้ ๖ เซต มีตัวอย่างด้วย ก็รวมแล้วเป็น ๗
กว่าจะทำเสร็จ เกือบสายเลย รีบอาบน้ำ เดินถือตะกร้าออกไป เห็นคิมนั่งอยู่โต๊ะมีเดีย
เค้าหันมาบอก "ไม่มีเด็กเลย"
เอ่อ ......... แล้วไปไหนกันหมด เป็นอันว่า ปีใหม่ บ้างก็ไปเที่ยวกับพ่อแม่
บ้างก็ตามแม่ไปทำงาน บ้างก็ไปต่างจังหวัด


งั้นบ้างก็เดินถือตะกร้าเข้าบ้าน มาเลี้ยงเด็กต่อบ้างล่ะ .. ฮึ่ม!!


จริงๆวันนี้มีโหมดให้สับสน กล่าวโทษ เจ็บปวด ขมขื่น อีกนะ
แต่ขอไม่พูดถึงละกัน เพราะถ้าไม่ก้าวข้ามผ่าน ไม่ลืม ยังขืนเล่า อาจจะหนักกว่าเก่า
ก็ขนาดวันก่อนอ่านหนังสือสโลแกน "ฉันมีสมองเงินล้าน" แล้วเจอคำแนะนำข้อแรก
ให้เลิกบ่น ๗ วัน ฉันก็ตั้งใจจะทำ แต่แค่วันแรกก็นอนหลับฝันว่าเจอเรื่องให้ต้องบ่นแตก
วันที่สองคล้ายกับจะหลอกตัวเองด้วยการยิ้มให้มันทุกเรื่อง แม้ภายในจะเจ็บปวดซะเหลือเกิน
(เราไม่ได้เข้าใจจริงๆ แค่หลอกลวงตัวเอง) วันที่สามก็ไม่เหลือ บ่นแตกนับแต่บัดนั้น...


พ่อพูดถูกที่เตือนฉันให้เชื่อฟังพระวจนะ มากกว่าหนังสือที่มาจากความคิดมนุษย์
ไม่ได้ดูถูกปัญญาของมนุษย์ แต่มันก็มีข้อจำกัด เพราะการไม่บ่นแล้วถ้าเจอปัญหา
จะให้มองเป็นแง่บวกทุกอย่างในนาทีแรก เป็นเรื่องลำบากยากเย็นมาก
แต่ถ้า ขอบพระคุณให้ได้ในทุกเรื่องไม่ว่าดีหรือร้าย .. อันนี้คือจะผ่าน


ฉันอยากเป็นเพชรนะ ไม่อยากเป็นแค่ถ่าน(อัลคาไลน์ป่าวหว่า??)

 

 

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

..A cheerful heart makes good medicine..

หกโมงเช้าของวันที่26ธันวาคม
กำลังพยายามไปยื้อแย่งการ์ดเพลงกับน้อง ไม่ได้หวงหรือไม่อยากให้ฟังนานๆหรอก
แต่กลัวพี่ท่านจะไปแทะไม่ก็แคะดึงจนการ์ดพังไปซะก่อน(ก่อนถ่านหมด)


อันที่จริงฉันก็แอบหวงนะ .. พวกของใช้ใส่ถ่าน ปกติจะไม่อยากให้เล่นนานๆ
กลัวถ่านหมด (แล้วมันก็หามาเปลี่ยนยาก ..พูดง่ายๆคือแพง)
แต่คิดอีกที หมดก็หมดไปเหอะ จะเก็บไว้ชั่วกัลปาวสานรึ..ก็ไม่
ที่สำคัญ คน สำคัญกว่า วัตถุ ถ้าน้องชอบก็ให้น้องฟังไป
เราไม่รู้หรอกนะ ว่าวันพรุ่งนี้ใครจะอยู่หรือจะไม่อยู่แล้ว
วันนี้เป็นของขวัญ ลมหายใจยังมีอยู่ก็เพื่อทำสิ่งที่ดีใช่ไหมล่ะ?
ถ้าจะทำให้เด็กพิการคนนึงมีความสุข ให้เค้ายิ้มได้ .. ไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ทำไปเถอะ



source pic : tumblr

และถ้าเผื่อว่า การ์ดเพลงจะช่วยให้น้องเพลินไปได้สักสามสี่ชั่วโมง
พี่จะได้สลบสักหน่อย ฮ่าๆๆ (แผนการณ์ชั่วร้ายมากกก กร๊าก)


....

วันนี้วันคริสตมาส(หมายถึงเมื่อวาน) เค้าออกเดินทางกันก่อนบ่ายสาม
เพราะนัดไว้ที่ท่าเรือตอนบ่ายสาม
ฉันกับน้องก็เฝ้าบ้าน แต่ครั้งนี้เฝ้าไม่ธรรมดา


จะบอกก่อนว่า คืนคริสมาสอีฟ ช่วยแม่รีดผ้า จัดข้าวของ
แล้วก็พากันทำซ่า กินยาคูลท์ที่หมดอายุไปแล้ว 10วัน
(อ่านไม่ผิดหรอก .. หมดไปแล้วสิบวันจริงๆ)
คือ คิดว่าคงไม่เท่าไหร่ แม่น่ะอยากระบาย ส่วนฉันก็คิดเหมือนๆกัน
แม่กินไปสองขวด ฉันกินขวดเดียว
ผลคือ แม่อาการไม่ดีตั้งแต่เช้ามืด ทั้งอาเจียน ทั้งท้องเสีย
ส่วนฉัน มาออกอาการตอนบ่าย คือพะอืดพะอมน่ะมีตั้งแต่เช้ามืดแล้ว
แต่มันออกอาการรุนแรงเลย เมื่อกินเยลลี่บุกไปแก้วนึง


เค้าออกเดินทางกันไปแล้ว โดยที่ไม่รู้หรอกว่าฉันเดี้ยงอยู่ที่บ้าน
อาเจียนหลายรอบนะ ที่กินเข้าไปนิดหน่อยนั่นก็ออกหมด
กินยาธาตุน้ำขาวเข้าไปก็ออกอีก .. ปวดท้องจนแทบเป็นลม
ท้องเสียก็หลายรอบ ดีที่น้องหลับตลอดบ่าย ตื่นอีกทีก็เกือบตีสอง
คิดว่าน้องคงเพลียจากป่วยวันอาทิตย์ เพิ่งมาหลับสนิทดีวันนี้
ฉันที่ได้พักไปหน่อยช่วงบ่ายจนเย็น พอตื่นมาเกือบค่ำ เลยรีบอาบน้ำ
พยายามทำตัวให้สดชื่น เล็งๆดูก่อนว่าอาการปวดท้องหรือพะอืดพะอมยังมาเยือนอยู่รึเปล่า
พอรู้สึกว่าคงไม่เท่าไหร่แล้ว ก็ถึงกินข้าว
พ่ออุตส่าห์ทำกับข้าวเอาไว้ให้ มีแกงจืดกับผัดเผ็ดปลา
กินไปมื้อแรก ยังหวั่นๆ แต่ก็ไม่อาเจียนแล้ว ..โอเค ผ่านๆ
แม้จะยังมีอาการปวดท้องเรื่อยๆ แม้ตอนนี้ก็ยังเป็น
ยังท้องเสีย แต่ก็ไม่ค่อยเพลียมาก ขนาดที่เที่ยงคืนฉันก็ยังกินข้าวได้อีกมื้อ
เจริญอาหารจนนึกอยากออกไปเอาเฉาก๊วยในตู้ข้างนอกมากินด้วย
แต่คิดอีกที กลัวน้ำตาลจะกระตุ้นให้ท้องเสียไม่หยุด ก็เลยเว้นไว้ก่อน


ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าอาการทั้งหมดจะจบลงเมื่อไหร่
ฉันไม่ได้กินน้ำเกลือแร่ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรืออะไร
แต่ตอนแรกกินอะไรก็คงออกหมด ท้องเสียน่ะไม่เท่าไหร่ แต่อาเจียนนี่มันสุดๆ
ก็คิดว่า ถ้าทานอาหารได้ก็ทานไป เพราะต้องอยู่กับน้อง ต้องการพลังงาน
ที่สำคัญ ฉันเข้าใจแล้วว่า การสร้างความรู้สึกแง่บวกให้ตัวเอง
ปรับเปลี่ยนความคิดและท่าทีลบๆ ซะ ไม่บ่น (ที่เล่ามานี่แค่เล่านะ ไม่ได้บ่น)
ทำตัวให้สดชื่น แม้ร่างกายจะรู้สึกไม่ไหว ถ้าใจเรามันไหวซะอย่าง อย่างไรก็ไหว
อย่างที่มีบอกไว้ "ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี"
ก็มีบ้างที่จะรู้สึกเหงาวูบๆ แอบน้อยใจอะไรแบบนี้ แต่ก็ปัดๆไป ไล่ความรู้สึกไร้สาระพวกนั้นไป
ที่แน่ๆ คือ ไม่ต้องพูดถึงหรือคิดถึง หรือย้ำคิดย้ำทำเรื่องที่ทำให้รู้สึก




อย่างน้อยคืนคริสตมาส ฉันก็มีน้องนอนอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อน ไม่เหงา
ได้คุยโทรศัพท์กับแม่นิดหน่อยตอนหัวค่ำ
แชทกับเจ้าหมีต้นกับเหมือนฝันอีกคนละหน่อย
คุยโทรกับนาฬิกาปลุกไปอีกนิด
ที่จริงก็อยากโทรหาเพื่อนๆอีกหลายคน แต่ติดตรงที่ .. ยังไม่ได้เติมเงิน 555


...

อ่อ เอาของขวัญอีกชิ้นมาอวด อิอิอิ
ปลื้มนะปลื้ม เพราะคนให้เป็นเพื่อนที่น่ารักอีกคน
เค้าเล่าให้ฟังตั้งแต่วันก่อนแล้วว่าอยากจะซื้อให้ แต่ยังไม่มีจังหวะ
สงสัยว่าวันนี้คงจะได้แวะซื้อให้แล้วมั๊ง เอิ๊กๆ




เป็นทูตสวรรค์ตัวน้อยที่แลดูอ่อนน้อมดีจัง
เข้ากับเทศกาลเนอะ เลยจับไปวางไว้ในหมู่คณะตุ๊กตาฉลองคริสตมาส


...

ก่อนจะไปนอน(ถ้าได้นอนนะ) เอาอิลลัสล่าสุดมาแปะ
อยากดราฟท์ภาพสาวสวยให้เสร็จ มีโปรเจคที่รับปากป้าแจ๊วไว้อีกหลายเลย
แต่วันนี้ก็ยังปั้นอารมณ์ทำไม่ได้จริง ๆ ไม่รู้ว่าจะอ้างว่าปวดท้องอยู่
หรือยังไม่มีอารมณ์จริงๆก็ไม่รู้นะเนี่ย ..




เอาเป็นว่า จงให้ความสุขวันคริสตมาสอยู่กับคุณทุกวัน นะคะ
(ยืมคำมาจาก มานาประจำวัน .. ล่ะ)

 

 

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

..Fri till Mon..

ผ่านไปแล้วสำหรับวันฉลองวันคริสตมาสในโบสถ์
แต่วันที่25เพิ่งจะมาถึง ..
ด้วยการรับรู้ในการเตรียมการจัดงานนั้น ฉันได้ทำเต็มที่
แต่ก็ไม่ได้ร่วมในทุกกิจกรรม


แครอลลิ่งก็ไม่ได้ไป .. ตามที่เข้าใจกัน ต้องมีหนึ่งคนเฝ้าบ้าน
และฉันก็อาสารับเอง เพราะรู้ดีว่าบ้านแรกและบ้านสุดท้ายที่จะไป
ต่างก็ต้องการให้แม่ไป ทั้งเรื่องของความสนิทสนม ภาษา
และไปเพื่อให้กำลังใจ หนุนจิตชูใจ




อีกอย่าง ดีซะอีก เพราะฉันได้จัดมุมแสงไฟคริสตมาสให้น้องด้วย
เช็ดฝุ่นชั้นกันใหญ่โต เพราะถ้าไม่ทำ น่ากลัวจะไม่ต้องหาหิมะปลอมที่ไหน
(ฝุ่นหนาได้ใจมาก ฮ่าๆๆ)


คืนนั้นก็เลยอยู่กับน้อง ก็ไม่ดึกมากหรอก เพราะออกไปตอนทุ่มครึ่ง
ตีหนึ่งก็กลับกันมาแล้ว..
ที่ขำก็คือ พยายามจะเอาเค้กที่ป้าหยินให้พ่อ ตอบแทนน้ำใจที่ไปช่วยซ่อมชักโครกให้แก
แล้วเป็นเค้กครีม เราไม่กินกันหรอก จะเอาให้พวกเด็กๆที่ไปร้องเพลง




แต่ก็ความกลับดึกกันนี่แหละ .. ยัดไม่ลงกันสักคน
เป็นอันว่า แช่ตู้เย็นไว้ เอามาเลี้ยงวันอาทิตย์ ฮ๋าๆๆ .. อิ่มอร่อยกันครบ


...

วันเสาร์เป็นวันจัดเตรียมสถานที่ อันนี้ฉันไม่ค่อยได้ช่วยนัก
จะเน้นที่มุมเด็กๆซะมากกว่า ก็ต้นคริสต์มาสกระดาษวันก่อนไง ..






สำเร็จเรียบร้อยแล้ว มีกล่องของขวัญแล้วอ่ะ อิอิ


แล้วก็แค่ออกไอเดียทำให้ข้างหน้าประตูเป็นฉากคริสตมาส หารั้วมาวาง
กะว่าให้ออกแนวประมาณคอกสัตว์ (จะดูเหมือนป่าวนะ..)
จริงๆช่วยพ่อติดตั้งตั้งแต่วันก่อนแล้ว (เอารูปมาลงยังอ่า..? จำไม่ได้เลย)
โอเค ไปย้อนดูบล๊อกล่ะ ยังไม่ได้เอามาลง






อยากบอกว่าภาพนี้ดูตอนกลางคืนจะไม่ค่อยชัด อาจเพราะเราติดตั้งไฟกันไม่ค่อยเป็น
แม้ว่าพ่อจะปรับปรุงการเดินสายไฟเพิ่มขึ้นอีก
แต่สำหรับฉัน .. กลางวันชัดสุด สวยสุด
ดูได้จากภาพของเด็กๆ ในช่วงต่อไป..นะจ๊ะ


คืนวันเสาร์เน้นไปทางงานพาวเวอร์พอยท์
แล้วก็อยู่กับน้องจนเช้า ..และเช้าวันอาทิตย์นี่แหละ
ที่มีเรื่อง..


...

เช้าวันอาทิตย์ฉันอาบน้ำแล้วกะของีบสักนิด
กลายเป็นว่า น้องที่นอนอยู่ข้างฉัน ท้องเสีย ก็พาไปจัดการล้าง
เอามาเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ อีกสักพักก็ถ่ายอีก ..อีก ..อีก


แต่ฉันน่ะ อยู่แค่2รอบแรก หลังๆ หลับไปแล้ว
ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ช่วยกันจนจะเป็นลมแล้วมั๊ง
เพราะพ่อว่า น่าจะร่วม10รอบ
และถ้าขืนยังอุ้มไปล้างที่ห้องน้ำกันแบบนี้ คงหมดสภาพกันทุกคน
สักเก้าโมง ฉันก็ลุกมารับช่วงต่อ
แต่เปลี่ยนวิธีแบบที่ต้องเอาผ้าเปียกมาคอยเช็ดแล้วเอาไปซัก
เป็นหาถุงพลาสติกมาวางรอง มีทิชชู่รองซับเอาไว้
คือ ไหลออกมาเมื่อไหร่ ก็เปลี่ยนถุงทิ้งไปเลย เอาถุงใหม่ ใส่ทิชชูใหม่
ทำความสะอาดก็ใช้วิธีชุบน้ำเช็ด แต่แบบอยากให้สะอาดจัด
เอาแอลกอฮอลไปฉีดก้น เล่นเอาน้องสะดุ้งโหยง
ก็ถ่ายไม่รู้กี่รอบ แสบไปหมดแล้ว -.-
ระหว่างที่อยู่กับฉัน ตั้งแต่เก้าโมง จนบ่ายโมงหรือบ่ายสองนี่แหละ
ก็7-8รอบ มาหยุดสนิทเลยก็ตีสองล่ะมั๊ง
เพราะตอนหัวค่ำ (หลังจากเค้าเสร็จงานฉลองอะไรๆกันหมดแล้ว )
แม่ไปซื้อยามาให้ คือตอนแรก ตอนเช้า ไปซื้อเกลือแร่มาชงให้กิน
เป็นห่วงว่าถ่ายมากจะเสียน้ำ กลัวจะช๊อค
แต่มารู้จากเภสัชกรทีหลังว่า การให้กินน้ำเกลือแร่นั้น ต้องค่อยๆป้อน
เหมือนจิบๆ ไม่ควรกินรวดๆพรวดๆ ไม่งั้นอาจไปกระตุ้นให้ถ่ายอีกเรื่อยๆ
แล้วแม่ก็ซื้อยามาใหม่ เป็นยาเม็ด บอกตรงๆว่าลืมชื่อไปแล้ว
รู้แต่ .. ขมจนน้องกินแล้วอาเจียนออกมา 2 รอบ หลังจากนั้นก็ไม่ถ่ายอีก


ก็เลยสรุปกันว่า คงอาหารเป็นพิษ แล้วที่อาเจียนออกมานั้นก็เป็นอาหารที่ไม่ย่อย
เน่าค้างอยู่ในกระเพาะลำไส้ ถ้าเค้าไม่อาเจียนออกมา คงจะทรมาณไปอีก


เพราะน้องป่วยนี่ล่ะ แผนที่จะไปร่วมฉลองคริสตมาสของฉันก็เลยเป็นอันยกเลิก
แต่ก็ได้กินเลี้ยงกะเค้าล่ะนะ เค้าทำสุกี้ก็ได้ไปตักมากิน
ฝากพ่อไปจับฉลากของขวัญ แอบแว๊บเอาของขวัญไปให้เด็กๆ












ได้ทำประมาณนี้ ไม่เยอะแยะอะไร
มีอีกรอบเลยก็เก็บข้าวของตอนเค้ากลับไปกันหมดแล้ว


นี่เหลือน้ำเชื่อมที่ใส่เฉาก๊วยซะหลายเลย (วันนี้ลืมกินนะเนี่ย)



อ่อๆ ได้ของขวัญคริสตมาสกะเค้าด้วยนะฉันเนี่ย อิอิ
เป็นการ์ดเพลงจากคุณบอย มีการบอก "เปิดกว้างๆเลยครู เอ้า อ่านให้ฟังด้วย "
ขำดี เพลงก็ดังถูกใจน้อง




จากพ่อเป็นโคมไฟ คือรีเควสไปเอง แต่ลืมระบุว่าสีอ่อนกว่านี้
แต่เอาเหอะ ชมพูเหมือนกัน (มันจะหวานล้ำไปถึงไหนเนี่ย 555)
อันนี้จะเอาไว้ใช้บนห้อง นี่ก็กะว่าจะค่อยๆเก็บเงินเปลี่ยนผ้าม่านใหม่อยู่นะ
อาจจะเอาสีโทน ลาย ที่ชอบ แต่ก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน




ส่วนแม่ให้ช๊อคโกแลต จริงๆแม่บอกว่า เห็นกล่องมันมีคำว่าคริสตมาส
เลยซื้อมาให้ .. ก็จะเอามาแบ่งกันกินนั่นแหละ (ตามสไตล์บ้านฉัน)




คืนวันอาทิตย์ก็เลยขำๆ สนุก และเบาใจไป เพราะอาการน้องดีขึ้น


...

เช้าวันจันทร์ ความที่เหนื่อยและง่วงสุดขีด เลยตะกายไปตั้งแต่หกโมงเช้า
นอนหลับไปสองตื่น ลงมาบ่ายสามกว่าได้มั๊ง
ลงมานั่งกินข้าว แล้วก็คุยกับแม่
แม่เค้าได้โปรโทรฟรี80นาที .. พิเศษเฉพาะเบอร์แม่ด้วยนะ
เดากันไปว่า คงเพราะนิ่งมานานแล้ว ไม่มีโทรออก หรือรับสาย


ระหว่างนั้นแม่ก็นั่งเช็คข้อความ แล้วเลยได้ข้อความจากอ.สมาน
ว่าให้อธิษฐานเผื่อเพื่อนผู้รับใช้ท่านนึง ซึ่งมีอาการประมาณหัวใจวาย
หรืออะไรทำนองนี้(ฉันไม่แน่ใจ เพราะอาจฟังแม่มาไม่ถนัด)
กำลังปั๊มหัวใจ อยู่โรงบาลทุ่งสง แล้วก็ยังย้ายโรงพยาบาลไม่ได้


อ่านแล้วก็เลยรีบอธิษฐานกัน
หลังจากนั้นแม่ก็โทรไปหาอาจารย์อีกท่าน ที่เป็นผู้นำจังหวัดของที่นั่น
แล้วก็เลยทราบข่าวว่า .. เสียชีวิตแล้ว
ตอนนี้ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก คงต้องมีพิธีศพ แต่จะเมื่อไหร่ อย่างไร
ต้องรอให้ทางโน้นติดต่อมา
ข่าวนี้ทำให้เรารู้สึกเศร้าใจ .. การจากไปไม่ได้ร่ำลา เป็นใครก็คงต้องรู้สึกไม่ต่างกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันถามพ่อ .. "งานของเค้าเสร็จแล้วใช่ไหม?"
พ่อตอบกลับมาว่า "น่าจะเสร็จแล้ว เพราะเค้าทุ่มเทมาก"
ชีวิตคริสเตียน เรารู้ว่า ถ้าหมดลมหายใจบนโลก ก็คือเราได้ไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว
ได้พักแล้ว .. ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีคำว่า ไม่รู้จุดหมาย
แต่ที่เราโศกเศร้าและเสียน้ำตา เพราะเราจะไม่ได้เจอกันในสภาพความเป็นมนุษย์อีกแล้ว


ที่ยังเป็นห่วงก็คือ งานคริสตมาสของที่นั่นจะจัดวันที่30
(ฉันจำได้ดีเลย เพราะตอนเค้าประชุมกันที่บนแพ ฉันนั่งอยู่ไม่ไกลเลยได้ยิน)
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ฉันรู้ว่าพระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา
ยิ่งใกล้วันที่พระองค์จะเสด็จมา เรายิ่งรู้ว่าโลกบาปไม่น่าอยู่เลย
การข่มเหงและภาระปัญหาจะประดังประเดเข้ามา ..
คงเหมือนในพระคัมภีร์ที่ว่า ..
" แต่ผู้ที่ทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด"


ปล. เราไม่รู้หรอกนะ ว่าจะมีการสูญเสียหรืออะไร
แต่ที่รู้ คือความเศร้ามันมีมาหลายวันแล้ว ..
ฉันรู้สึกว่า เป็นเดือนสุดท้ายของปีที่แสนเศร้าเลยซะด้วยซ้ำ

 

 

Related Posts with Thumbnails