“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..Last Day 2009..

ระแวงว่า จะเป็นหวัดรับปีใหม่
เพราะเริ่มเจ็บคอ


แต่ไม่เป็นไร ดื่มน้ำให้มากๆ
หลบๆพัดลมหน่อย



วันสุดท้าย ส่งท้ายปลายปี เป็นวันที่รู้สึกดีมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา
เพราะเป็นวันที่ทำงานอย่างสุดจิตสุดใจ
เหนื่อยมั๊ย..ก็เหนื่อย แต่ดีใจที่ห้องพักเรียบร้อยไปตามที่ต้องการ


แล้วครอบครัวก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา กินข้าวด้วยกันทั้งสองมื้อ
(ปกติอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้กินด้วยกันบ่อยๆหรอกนะ)
มีความขัดแย้งบ้าง ขุ่นเคืองใจกันบ้าง แต่ก็จบลงได้ด้วยดี
เพราะถ้าทุกคนต่างรับผิดชอบงานของตัวเองเต็มกำลังและช่วยอุดทุกจุดบกพร่อง
ปัญหาก็ไม่เป็นปัญหายากเย็นอีกต่อไป



เอาของขวัญ ของฝากจากเพื่อนๆที่ส่งมาเมื่อวานนี้มาให้ดู
เป็นเพราะเมื่อวานมัวแต่เห่อถ่ายรูปน้องกับหลินปิง
เลยลืมลงรูปกิฟท์ที่เพิ่งได้รับ ^^



ชิ้นแรก พวงกุญแจแพนด้าจากสาวเหนือ
น่ารักนะ กำลังชอบแพนด้าอยู่เลย 555
อีกอันก็ปฏิทินจากผึ้งสวย มีรูปคนรับกับคนให้อยู่ด้วย
น่ารักทีเดียว ^-^  มีให้ฉันตัดแบ่งเพื่อนๆได้ต่อด้วย-0-
เดี๋ยวต้องส่งให้พี่จันด้วย 555 ..ในฐานะที่รับหลังชาวบ้านหมด เหอๆ



อ่อ พี่แอนชวนไปเที่ยวสระมรกตพรุ่งนี้
แต่เวลาไม่แน่นอนแฮะ เห็นพี่เค้าว่าประมาณ10โมง
ไปสายเลย กว่าจะไปถึง กว่าจะเดิน กว่าจะกลับ 555
ที่แน่ๆ คือยังไม่รู้เลยว่าไปกันกี่คน
แต่ก็นะ ขอฉันนอนก่อนล่ะกัน ลุกไหวอาจไปด้วย
แต่ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้ากะการขัดห้องน้ำและถูตึกชะมัด เฮ่อ



อื้ม..อ่านมานาประจำวันเมื่อกี้ ทำให้คิดอะไรหลายอย่างนะ
เป็นเรื่องของความรู้สึกในคืนวันสิ้นปี เราอาจหวาดกลัวอนาคตเนื่องจากเหตุการณ์ในอดีต
หรืออะไรก็ตาม ยิ่งรู้ว่าเวลาเดินไวลแะผ่านไปเร็วแค่ไหน ยิ่งทำให้รู้สึกหวั่นไหว
แต่...... เรามั่นใจและไว้ใจได้ว่า อนาคตของเราถูกกำหนดไว้โดยพระเจ้าผู้เป็นนิรันดร์
ชีวิตจะทุกข์หรือสุข พระเจ้าทรงเฝ้าดูอยู่เสมอ
ปีที่ผ่านมา ฉันรู้สึกว่า ความทุกข์มันแช่อิ่มอยู่ในร่างกายฉันนานกว่าความสุขนะ
นั่นอาจเพราะว่าฉันตอบสนองความทุกข์และปัญหาต่างๆอย่างผิดๆ
ฉันรู้ว่าพระเจ้าส่งทุกอย่างเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อสอนเรา
การทูลขอให้ปัญหาหลีกไปไกลจากชีวิตเราเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
แต่เราควรขอพระเจ้าให้เราเข้าใจในปัญหาต่างๆที่ผ่านเข้ามา
และสามารถไว้วางใจพระเจ้า เชื่อในพระสติปัญญาของพระองค์
ที่จะถ่ายทอดมาถึงเราให้เราเข้าใจและแก้ไขทุกความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในชีวิตเราได้


ถ้าให้ฉันนับความสนุกที่พระเจ้าอวยพรให้ฉันได้ทำ ได้ไปที่ต่างๆ
คงจะมีหลายครั้ง .. กลางๆปี ได้เดินทางไปไกลถึงนครปฐม
การเดินทางที่ยาวนานและเหน็ดเหนื่อย แต่ได้รับพระพรและเห็นพระคุณมากมาย
ได้เห็นว่า พระเจ้ามีแผนการณ์อันดีทุกอย่างต่อชีวิตเรา
ถ้ารถเราไม่เสียที่ชุมพร เราก็คงจะไม่ได้ไปพักที่โรงเรียนสอนเสริมสวยของพี่น้อคริสเตียน
และแม่ก็คงจะหลงทางอยู่ในความมืดหารถของเราไม่เจอ
แต่เพราะเรานั่งรถของโรงเรียนเสริมสวยไปจากร้านอาหารที่เราจอดรถทิ้งไว้
ถึงจำรถคันนั้นได้ ........ มันเหมือนเรื่องบังเอิญ
แต่สำหรับพระเจ้า ชีวิตของเราทุกอย่าง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ


การได้ไปเกาะพีพีที่ผ่านมา
เป็นการเดินทางไปปฏิบัติภาระกิจที่ค่อนข้างบีบคั้นเรื่องเวลา
เพราะวันที่24 พ่อมีพันธกิจในคุก แม่ก็ไม่ค่อยสบาย
วันที่25 เราต้องขึ้นเกาะ และบ่ายวันที่26หลังจากเสร็จพิธี
เราต้องกลับมาจัดเตรียมสถานที่ เพื่อจัดงานฉลองวันคริสต์มาสวันที่27
แต่..... พระเจ้าประทานกำลังให้พวกเรา
ปัญหามีมั๊ย.. คำตอบคือมี ปัญหาความคิด ปัญหาความไม่เข้าใจกัน
และเมื่อบางครั้งมีการร่วมมือแต่ไม่ร่วมใจ ความท้อใจมันก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน
แต่พระเจ้าก็ทรงมีเรื่องหนุนน้ำใจเราตลอด ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่มีคนมาเกินความคาดหวัง
และเกือบ10คนได้ต้อนรับพระเยซูเป็นพระเจ้าในชีวิตของเค้า
หลังจากนั้น ตอนเย็นค่ำ ฉันที่กำลังจะแบตหมดและวีนแตกเพราะไม่ได้นอน
เหนื่อยมาก เพลียมาก มึนมาก พวกเราทุกคนอยากจะพัก
แต่ก็มีพี่น้องอีกกลุ่มนึงที่เพิ่งจะเดินทางมาฉลองคริสตมาสเอาตอน3ทุ่ม(หลงเวลา)
ขนมจีนยังเหลือ น้ำยายังมี ผลไม้มี1ถาด ..เป็นส่วนที่บ้านฉันแบ่งเก็บเอาไว้ทานกัน
ส่วนใหญ่จัดแบ่งให้พี่น้องและเพื่อนบ้านไปจนหมด
ขอบคุณพระเจ้าที่เรายังไม่ได้หลับไปซะก่อน เพราะคนที่มาทีหลังคงจะเสียใจแย่
ขอบคุณพระเจ้าที่อาหารที่เก็บเอาไว้ก็ได้เอาออกมาเลี้ยงคนอีกกลุ่มหนึ่ง
กลายเป็นว่า อาทิตย์ที่ผ่านมา เราจัดคริสตมาส 2 รอบ
แล้วก็ได้รับการหนุนน้ำใจอีก เมื่อมีอีก10คน ต้อนรับพระเจ้า
พอวันจันทร์ ผู้ถูกคุมฯที่มาทำงานเก็บชั่วโมง ก็มาฟังเรื่องพระเจ้า
และต้อนรับพระเยซูอีกคน


กลายเป็นอาทิตย์สุดท้ายของปี อาทิตย์ที่เหนื่อยหนัก
อาทิตย์ที่มีความทุกข์ยากลำบากหนักใจ
แต่พระเจ้ามีวิธีชูใจเรา หนุนใจเรา อย่างที่เราคาดไม่ถึงเลย ^-^




ที่สุดของของขวัญมีหลายชิ้น ไม่อยากตีค่าว่าอันไหนสำคัญที่สุด
แต่...... มิตรภาพที่ได้รับสำคัญยิ่งกว่าสิ่งไหน


:)

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..My Bro VS Linping

เวลาไทย เข้าวันสุดท้ายของปีแล้ว
แต่นี่ฉันอัพบล๊อกเมืองนอก แถมใช้เวลาเค้าอีกต่างหาก


ยังไม่ได้ทำรูปเซตวันคริสตมาสเมื่อวันอาทิตย์
แต่ก็มีการ์ดปีใหม่(อีกใบ)มาแปะล่ะกั๊น -0-



เมื่อเช้ากะว่าจะโทรหาพี่จัน(ระหว่างพี่เค้าเดินทางไปทำงาน)
แต่ติดอะไรหลายอย่าง กว่าจะได้นอนก็แปดโมงครึ่งมั๊




นั่งทาเล็บก่อนนอนอีกต่างหาก -.- เล่นสีทองขวดเดิมนั่นล่ะ
อยากได้สีอื่นอีกบ้างจัง >< (บ้าบอล่ะ ทาเล็บแต่หน้าตาซีดเซียว)


นั่นล่ะ.. เลยไม่ได้โทรหาพี่จัน เมื่อกี้ตอนห้าทุ่มก็กำลังคุยโทรฯกะพี่อ้วน
พี่จันโทรมาอีก 3สาย ไม่ได้รับ  จะโทรกลับ เจ๊ปิดเครื่องไปแล้ว -.-


เลยไม่ได้บอกเลยว่า พี่เค้าเป็นเพื่อนที่จะรับของจากฉันเป็นคนสุดท้าย
เพราะของคนอื่นส่งหมดแล้ว -.- นึกดูนะว่า หาน้ำพริกมันใช้เวลานานขนาดไหน
นี่ก็ยังเขียนจ่าหน้าไม่เสร็จสักที -*- แต่ไม่เป็นไร ขอส่งหลังปีใหม่เลยล่ะกัน



ช่วงนี้แม่กำลังเก็บรวบรวมเอกสารรายละเอียดต่างๆ
แม่จะยื่นขอรับเงินของคนพิการให้น้อง ไปเอาฟิล์มเอ็กซเรย์มาแล้ว
นี่ยังต้องจับเด็กถ่ายรูป กับลงลายเซ็นต์มอบอำนาจอีก
แม่แอบงงว่า แล้วให้เซ็นต์ไงอ่า ..อ่อ ก็ใช้นิ้วโป้งปั๊มลายนิ้วมือนี่เอง
ถ้าเรียบร้อยก็จะได้เดือนละ 500 บาท แม่ว่า .. เอามาซื้อเพิร์สสักห่อกับขนมนะ
^^ เพราะจริงๆมันไม่ค่อยพอทั้งหมดหรอก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้


...สิทธิของคนพิการตัวเล็กๆน่ะ



แล้วนี่ก็คือ.. การ์ดปีใหม่ จากใจเด็กข้างบ้านกับหมีแพนด้าตัวน้อยของเค้า
ของให้พี่ๆ ลุงๆ ป้าๆ(มีด้วยเรอะแถวนี้) มีความสุขกันมากๆนะคร๊าบ


 


 

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..Tsunami Remembrance Day[after 5 years]..

มาแล้ว มาแล้ว..วันนี้จะอัพเรื่องไปพีพีล่ะนะ
หายปวดหัวแล้ว เพราะใช้คอมพ์แต่น้อย
เล่นกับน้องมากขึ้น .. ไม่เครียด .. แจ่ม -0-



เริ่มจาก วันศุกร์ที่25
จริงๆฝากคนบางคนโทรปลุกนะ แต่เค้าลืม
อืม..... จำไว้ !!


พ่อเป็นคนปลุกตอนบ่ายโมง
โงกเงกมาอาบน้ำแต่งตัว ลงมาข้างล่าง
ซ้อมเพลงกันพอสมควร แล้วก็ออกเดินทางไปท่าเรือตอนบ่ายสามเกือบครึ่ง
อ่อ.. มีบางเพลงที่ต้องใช้ในพิธีที่ฉันร้องไม่เป็น
แม่ก็เลยต้องร้องอัดใส่ MP3ไว้ให้ไปหัดร้องด้
วย




ไปยืนรอด้านหน้าท่าเรือสักพัก
พ่อติดต่อเจ้าหน้าที่อบต.คนที่จะนำเราไป แต่ยังมาไม่ถึง
พวกเราก็เลยเดินเข้าไปรอด้านในหน้าห้องเช็คตั๋ว
ไม่นานนัก ก็ถึงเวลาเรือจะออก พากันเดินตามทางเดินเล็กๆไปถึง
ท่าน้ำ



 


ครั้งนี้เราเดินทางด้วยเรือด่วน(แต่ไม่ด่วนจี๋)
จากที่คิดว่าจะใช้เวลาเยอะ ก็ไม่มากมาย ราวๆ ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว
ระหว่างทาง ในห้องโดยสารเปิดทั้งเพลงและหนัง
แต่วิวทะเลแจ่มๆแบบนี้ ไม่ให้ออกไปชื่นชมได้ไง..



ว่าแล้วก็ออกไปเดินรอบเรือสักรอบ ปีนไปบนดาดฟ้า
แล้วก็วนกลับมาที่หัวเรือ อยากบอกว่าเดินรอบเรือไม่สนุกมากนัก
ออกทางเสียวไส้ -.- แต่ก็ชอบนะเอ้อ 555




ไปถึงราวๆห้าโมงครึ่งได้มั๊ง แดดร่มลมตกพอดี
รอเจ้าหน้าที่รีสอร์ทมาช่วยเข็นรถขนสัมภาระไปที่พักกัน
ตอนแรกที่เค้าชี้ให้ดูทิศทางที่จะไป แอบตกใจเล็กน้อย(เหมือนจะไกลเลยอ่ะ)
แต่เดินไปเรื่อยๆ ก็คุยโทรศัพท์กับแม่ไปสักครึ่งทางล่ะมั๊ง
หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยอีก เลยไม่รู้สึกว่าไกลมากมาย
นัก



แล้วจากท่าเรือไปถึง.. พีพีอันดามันรีสอร์ท
เมื่อยเท้าพอดี(ไหนว่าไม่ไกล 555)
เป็นอันว่า พักที่เดียวกัน 3ห้อง แยกไปพักอีกที่แต่ใกล้ๆกัน
อีก1



พอขนของไปไว้ที่ห้องพักแล้ว ก็ออกไปที่ร้านอาหารกัน
มื้อนี้ ทานกันที่ร้านอามิโก้ จานแรกคือปอเปี๊ยะทอด ตามด้วยพิซซ่า
ตามด้วยกับอีกหลายอย่าง ทานกันจนอิ่ม(จานเดียวก็อิ่มล่ะนะ เห
อๆ)



ขากลับมีนซื้อไอติมกิน เลยขอชิมนิดนึง -0-
รสแบบเหมือนไอติมปั่นเอง เดินไปถึงหน้ารีสอร์ท
ก็วนกลับมาเดินเล่นกับมีน เบลส อีกรอบ
เดินจนเมื่อยขา แวะนั่งพักที่ม้านั่งริมทะเล..(อย่างกะในเรื่องสั้นที่แต่ง)
แต่นั่งเพลินไม่ได้ เดี๋ยวเผลอหลับตรงนั้นล่ะยุ่ง 555


กลับมาก็อาบน้ำ โทรฯคุยกับแม่พักนึงก็นอน
หลับไปเกือบห้าทุ่ม พอจะตีหนึ่งตื่นซะงั้น
แล้วก็หลับไม่ค่อยดีเลย ตื่นตามเสียงปลุกแบบเป๊ะๆ
(ทีอยู่บ้านล่ะปลุกไปเห๊อะ 555)





อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมาเก็บภาพบริเวณที่พักนิดนึง
ก็พากันไปที่ห้องอาหารของรีสอร์ทด้านใน เดินไม่ไกลหรอก เทียบกับบรรยากาศแล้ว..
..คุ้มจริงๆ สวยมาก วิวสวยสุดๆ



 


ทานกันเสร็จเกือบแปดโมงก็ออกเดินทางไปที่ลานพิธี
ใช้จุดเดิมเหมือนที่เคยไปเมื่อ 2 ปีก่อนนะ
ระหว่างรอประธาน(ผู้ว่าฯ) พ่อก็อ่านพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษ
ช่วงนั้น บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สึนามิก็ทยอยกันมานั่ง
ส่วนใหญ่ที่มานั่งเต็นท์ของศาสนาคริสต์ก็เป็นชาวต่างชาติทั้งนั้น
เป็นพวกยุโรปเสียส่วนใหญ่ สำเนียงเวลาพูดก็แปลกๆแตกต่า
งกันไ



อ่อ  มีนักข่าวทีวีไทยมาสัมภาษณ์ฝรั่งที่มาร่วมพิธีด้วย
แต่เค้าพูดอังกฤษไม่เก่งมั๊ง เลยให้มีนเป็นล่ามให้
เลยได้เห็นข่าวอันนี้นิดนึงตอนทุ่มกว่า



ลำดับรายการก็เป็นการนมัสการพระเจ้า
กล่าวไว้อาลัย และอธิษฐานหลายหัวข้อ
คนก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆตลอดรายการ อยู่ตลอดบ้าง กลับไปก่
อนบ้าง




เสร็จแล้ว ก็ทานข้าว .. หลังมื้อเที่ยงมีเวลาก่อนเรือจะออกชั่วโมงครึ่ง
เดินเล่นแถวนั้นล่ะ ทั้งไปดูอ่าวโละดาลัมด้วย พ่อไปรอบนึง(แอบให้พ่อไปถ่ายรูป 555)
ส่วนฉันก็ไปอีกรอบ แต่ได้รูปไม่สวยเท่าของพ่อ




พอถึงเวลาก็ขึ้นเรือกัน
เด็กสามคนกับแม่เค้านั่งข้างหน้า เลยชะโงกหน้ามาโชว์ให้ถ่ายรูปซะหลายอยู่
ตอนแรกก็นั่งมึนๆ นึกอยู่ล่ะนะว่า จะเมาเรืออีกป่ะเนี่ย -*-
พอคว้าแว่นตาดำมาใส่........ ฮ้า แจ่ม นี่ล่ะ วิธีป้องกันเมารถและเรือ
เรือวิ่งไวตามประสา(แบกหนักใช่ย่อย คนเยอะกว่าจำนวนที่รับอีกนะนั่น เหอๆ)
แล้วก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ...... *-*



เล่าเยอะบางเรื่อง ย่อบางเรื่อง
ก็นะ เล่ามากไป มันเมื่อยมือ 555



นั่งทำรูปตั้งแต่เกือบเที่ยงคืน กว่าจะอัพบล๊อกเสร็จคงเกือบตีห้า
=.= อะไรมันจะช้าขนาดนั้น


ไปก่อนล่ะ เด็กข้างบ้านหิวข้าวแล้วววว

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..ปวดหัวจั๊ดนัก..

มาปัดฝุ่นบล๊อกนิดนึง
ช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย คงไม่ได้อัพอีกหลายวัน
ยังไม่ได้แต่งภาพที่ไปเกาะ - คริสต์มาสเลย


=.=


...


ข่าวไม่ค่อยดี ปวดหัวมาก
นั่งทำรูป กะจะไว้อัพบล๊อกตัวเอง+ของโบสถ์
แต่......... จะตีสาม ยังไม่ค่อยไปถึงไหน
ในขณะที่ยังพยายามจะแค่นทำ
ดันปิดกระดานแต่งรูปของตัวเองไปเฉยเลย


T^T .. ไม่ทำต่อล่ะ
ไว้ค่อยต่อใหม่วันพรุ่งนี้


...


สังเกตไหมว่า ฉันเพิ่งจะเว้นการอัพบล๊อกหลายวันแบบนี้
ส่วนใหญ่อาจเพราะไม่ได้อยู่บ้าน หรือคอมพ์เสีย หรือเนตเน่า
แต่นี่ทุกอย่างปกติ ยกเว้นสังขารมันชักเสื่อม T-T


ปวดหัวมากกกกกกกกกก ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
คิดว่านอนเยอะแล้วนะ นอนตีห้ากว่า ตื่นเกือบบ่ายสาม
มากไปกว่านั้นก็ไม่ดีล่ะ มากไปชวนปวดหัวได้
แต่นี่ก็ยังปวดอีก


อยากไปนอนสระผมที่ร้านจัง ให้เค้านวดหัวให้ซะหน่อย..
แต่นะ ช่างมันเต๊อะ ไปเล่นกะเด็กข้างบ้านล่ะ วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อน

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..Christmas eve..

ง่วงจัง

เมื่อวานปั่นเชอร์รี่อีกชุดให้แม่

แล้วก็ช่วยแม่รีดผ้าด้วย 



ตอนเช้าช่วยแม่ทำกับข้าว

(จริงๆกะรอกินขนมจีน -0-)

วันนี้มีพันธกิจประกาศในเรือนจำ

กว่าจะไปนอนก็สิบโมง ตื่นสามครึ่งมั๊ง

ถึงได้ง่วงหงั่กๆอยู่ตอนนี้ไง พรุ่งนี้ไปบ่ายสองครึ่งอ่ะ
แต่เห็นว่า เรือออกจริงๆ 4โมงเย็น =.=
ถึงมืดตึ๊ดเลยล่ะแบบนี้






ตื่นนอนแล้วออกไปร้านรองเท้ากับแม่

แม่แวะเอานาฬิกาไปเปลี่ยนถ่านด้วย

ไปเลือกรองเท้าอยู่พักนึง เกือบสอยADDA แบบแม่มาแล้ว

แต่ก็เปลี่ยนใจ คว้ารองเท้ายางสีน้ำตาลมาแทน -..-

คลาสสิคดี ..แม่ว่างั้น ก็เอาน่ะ ลายขาวน้ำตาล โอล่ะๆ

เพราะวันก่อน เล่นควิซ เค้าก็ว่า ฉันเนี่ยเหมาะกับสีน้ำตาล -0-






กลับมาก็เจอขนมจากสาวพลอย ของขวัญคริสต์มาส

ยังไม่ยอมกินนะ กลัวหมดไว 555





แต่เมื่อกี้ซัดไปสองอย่าง มารชเมลโล่กับเยลลี่ >< หอมดี

อย่างอื่นเอาไว้ให้แม่ ^^ แบ่งกันๆ เป็นของขวัญคริสต์มาสชิ้นแรกของฉันเลย

ขอบใจน๊าหนูพลอย ^-^ 






อ่อ ลืมไปว่า เมื่อเช้าถ่ายรูปต้นคริสต์มาสเอาไว้
เอ๊ะ..ใน FV เค้าเรียกอะไรหว่า -..-



อ่อ.. Poinsettia ดอกจริงๆน่ะสวยนะ(ที่อื่น)

แต่อันนี้ ดูไกลๆก็สวยดี แต่พอซูมแล้วดูแปลกๆ 

แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็สวย พี่อ๋อยซื้อมาแต่งห้องประชุม

สำหรับงานฉลองวันคริสต์มาสอาทิตย์นี้ล่ะ



จะตีสามแล้ว น้องก็หลับ แม่ก็กำลังจะไปนอน

ฉันไปนอนบ้างดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นไว



ยังเป็นห่วงแม่อยู่ดีนะ - -

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..God is so good..

เมื่อวานอยากจะอัพบล๊อก ก็ไม่ได้อัพ
คือตอนมีเวลา(เนตยังใช้งานได้ ก็ต้องทำงานอื่น)
พอจะอัพขึ้นมา เนตเน่าต่อไม่ติดซะงั้



พอล่วงเลยจะเข้าวันที่สาม
เรื่องเล่าที่สะสมเอาไว้มันก็เริ่มเกิดอาการ
"คร้านจะเล่า" -..- แย่เนาะ นิสัยขี้เกียจเนี่ย ไม่ดีจริงๆเลย



แต่เล่าดีกว่า -0- ทำรูปไว้ล่ะด้วย
เย็นวันอาทิตย์ไปถนนคนเดินกับแม่ ไปซื้อการ์ดเพิ่ม
เค้าขาย 10+1 ในราคา 10




ก็โอล่ะนะ แต่แอบได้ยินพ่อว่า พ่อน่าจะวาดรูปทำการ์ดขายบ้างเนาะ
พ่อวาดรูปสีน้ำเก่งนะ สมัยก่อนชอบวาดไว้จัง แต่หลังๆมาไม่ค่อยได้ทำ
ถ้ามีเวลา กับอุปกรณ์ และอารมณ์ศิลปินสักหน่อยคงจะวาดได้แหละ


แล้วก็ไปแวะเยี่ยมป้าแพท ยืนคุยกันจนเมื่อยขาไปหมด
ฟังป้าแพทแกเล่าอะไรหลายเรื่อง ความทุกข์ก็มาก
แต่เรื่องอัศจรรย์ของแกที่เล่านี่สิ ทำให้ฉันต้องเล่าต่อในวันนี้ล่ะ
ไม่เล่าไม่ได้เลยเชียว..


ป้าแพทเล่าว่า .. หลายวันก่อน แกเผาหญ้าที่สวนหลังบ้าน
คือไม่คิดว่ามันจะลามไหม้อะไร เพราะด้านบนมันเป็นสีเขียว แต่แกไม่รู้ว่าด้านล่าง
มันแห้งและไวไฟ  .. ไฟลุกไหม้ไวมาก ควันขโมงลอยขึ้นฟ้าอย่างน่ากลัว
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ มันลามไปทางป่ายางของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดๆกันแล้ว
แกตกใจมาก กลัวจะโดนจับเข้าคุก เงินก็ไม่มี แก่แล้ว สุขภาพก็ไม่ดี ..
แกวิ่งไปเอาสายยางที่ไม่ได้ใช้งานมานานเป็นปีมาต่อน้ำ น้ำก็ไหลหยดๆ ไม่ช่วยอะไรเลย
แกกลัวจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็เลยเงยหน้าขึ้นฟ้า ตะโกน ..
"พระเจ้าช่วยลูกด้วย อย่าทิ้งลูกเลย ลูกไม่อยากเข้าคุก
ลูกไม่มีเงิน ลูกตายแน่ๆเลย ช่วยลูกด้วย"


ถึงตรงนี้ ฉันกับแม่คิดว่า ฝนจะตกลงมา
แต่ป้าแพทบอกว่า  "ไฟมันดับไปเอง ก่อนจะไปถึงที่ดินของเพื่อนบ้าน"
ตอนนั้นแกเหนื่อยจนแทบจะเป็นลม ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น
ไฟเล็กไฟน้อยเผาเสื้อนอนแกขาดเป็นวง ๆ แต่กลับไม่ทำอะไรกับผิวของแกเลย


งานนี้พระคุณพระเจ้าล้วนๆ พระเจ้าเมตตาป้าแพทจริงๆ
ก่อนจะกลับ เราอธิษฐานเผื่อป้าแพทแล้ว แกยังบอกให้อธิษฐานเผื่อแกด้วยนะ



เมื่อวานไม่ได้อัพ ก็อย่างที่บอก นั่งพิมพ์เพลงไปเล่นเกมส์ไป(เจริญจริ๊ง)
เพลงพิมพ์ไม่ทันเสร็จ เนตเน่าแบบยาวนาน
แต่ก็พิมพ์ได้อ่านะ เพราะเป็นเพลงที่ร้องได้


วันนี้ทำป้ายชื่อต่อ มีสองแบบ หลักๆ
ไว้ค่อยเลือกกันอีกที หรือจะออกแบบใหม่ก็แล้วแต่
ฉันเนี่ยนะ เวลางานการจริงๆ ทำไม่ค่อยได้เรื่อง
แต่เล่นๆล่ะ ทำไปได้เรื่อย (ดีไม่ดีไม่รู้ไง)



อยากได้รูปตุ๊กตาถือกล่องของขวัญมาหลายวันล่ะ
ต้นคริสต์มาสก็มีแล้ว ประดับเรียบร้อย เสียแต่ไฟมันไม่ดี
นานๆจะแว๊บแสงออกมาซะที -*- พ่อซื้อของไม่ดีมาอ่



ส่วนอีกชุดที่แม่ซื้อ สงสัยเพราะฉันรื้อไปรื้อมามากนัก
กะจะเอามาพันที่ต้นใหญ่ก่อน (อยากถ่ายรูป) แล้วพอเสียบปลั๊ก ไฟก็ไม่ติด
แท้จริงคือ..สายไฟมันขาด แล้วฉันก็ยังบื้อแหย่มันกลับเข้าไปในปุ่มปรับ
ผลคือ...ระเบิด .. -*- ดีนะ มันไม่ระเบิดใส่หน้า
เสียหมดเลย T^T



แต่ก็ยังจะแถถ่ายรูปจนได้อ่ะนะ -*- ประมาณว่า กดแช่ไว้ พอไฟแว๊บก็กดเลย
ภาพเลยไม่ค่อยจะแจ่ม เฮ่อ.. เหมือนว่า ปีนี้เป็นอะไรที่ วุ่นวือจริงๆ



ไปล่ะ พาท่านน้องรับประทานอีก
เอ้อน่ะ ..แล้วก็นัดมีนไปโลตัสมาตั้งหลายวัน แต่ไม่เคยจะได้ไปซักกะที -..-

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..2Day-2Cards..

ว่าจะไม่อัพล่ะนะ

จริงๆนี่ก็จะตีสามแล้วด้วย

แต่อุตส่าห์อุ่นข้าวรอน้องตื่น ก็ไม่ยอมตื่นซะงั้น -.-



เลยมาอัพบล๊อกก่อน 

ถ้ายังจะยืนยันนอนยันว่าจะนอนต่อไป

ก็จะไปนอนมั่งล่ะ 






วันนี้เพิ่งจะได้เจอแตง 

มาตั้งหลายวันแล้ว เพิ่งจะแวะมาบ้านฉันเนี่ย

พรุ่งนี้เค้าไปทะเลกันแล้วก็กลับสุราษฯล่ะ 



ก็เพราะว่างไม่เคยจะตรงกันเลยนี่ล่ะ

วันนี้ก็ยังมีอะไรต้องทำเยอะแยะ 

ไหนๆแตงก็แวะเข้ามาเลย เลยหางานให้ช่วยทำซะ 555

ให้ช่วยห่อของขวัญ ห่อไวมาก มาบ่ายสามกว่ามั๊งหรือก่อนนั้นไม่แน่ใจ

พอห้าโมงแตงก็ไปรับพี่เดือน จริงๆเค้าจะชวนไปถ่ายรูปด้วย

ไปถ่ายรูปปู -..- ปูที่เทศบาล(หรืออบจ. ? หรืออบต.? เออ แต่จะอะไรก็ช่างเหอะ)

สร้างขึ้นมา ทำเป็นรูปปั้นที่ระลึก อยู่ตรงแถวถนนเจ้าฟ้า

(ลืมแล้วอ่า ว่าตรงนั้นเรียกอะไร -*-)



แต่.. ฉันไม่ได้ไปด้วยหรอก พอแตงออกไป

ก็มาช่วยแม่ขัดพื้นต่อ

วันนี้พี่แอนพาผู้ถูกคุมประพฤติมาทำประโยชน์เก็บชั่วโมง

คนนั้นเค้าตั้งใจจะทำให้ครบ7ชั่วโมงเลยนะ คือต้องทำทั้งหมด 20ชั่วโมงไง

มาตั้งแต่เช้า พ่อเลยให้เค้าทาสีด้านในของร้านที่ตอนนี้ทำเป็นห้องประชุม

[คือ ..ย้ายมาจากที่เดิม อาทิตย์นึงล่ะ

ก็ยังไม่ได้ที่ใหม่ที่ไหน เลยใช้ที่นี่ก่อน

แม่บอกว่า การที่โบสถ์มาใช้ที่บ้านเรา ก็คือเราได้รับพระพรด้วย

พระเจ้าจะอวยพรบ้านเรา ]



แต่แม่ไม่ได้ให้เค้าทาสีคนเดียว แม่ไปช่วยทำด้วย แนะนำด้วย

งานใหญ่ๆก็ให้เค้าทำ แต่เก็บรายละเอียดแม่ไปทำหมด

แล้วตอนกลางคืนก็เมื่อยซะ -.- ปวดแขนปวดขาไปหมด เหอๆ

เลยเพราะงี้ เราก็เลยทุ่มทำความสะอาดให้เกลี้ยงกันไป

เห็นมีนเดินลงมาคุยด้วย ก็ให้มีนช่วยขัดอีกคน -0- 

พอเสร็จก็ไปป้อนข้าวน้อง กว่าจะออกไปถึง เค้าก็กินอาหารเสร็จพอดี

กะไปเดินอย่างเดียว ..ที่ไหนได้ พอไปถึงฝนตกปรอยๆลงมาอีก



เจอป้าแพท ไปทัก ป้าแพทก็ว่าฉันพาฝนมา

เจอแตง แตงก็บอกเหมือนกันเด๊ะ -..- ป่าวซะหน่อย ฝนตามมาเอง 555

แต่ลงแป๊บเดียวนะ พักเดียวอ่า



แล้วก็ได้เดินเที่ยวหน่อยนึง

เสียค่าชาเขียวไป 15 บาท

เดินไปหาอาหารจิ๋วๆ ชอบอ่า อยากได้มาอีก ><

แต่......หมด -..- 

หมดได้ไง แม่ค้าเลิกทำแล้วหรืออย่างไร เหอๆ

ที่แน่ๆ ดอกไม้เต็มลัง แม่ค้าทำแต่ดอกไม้เหรอเนี่ย -.-





เลยเดินผ่านไปเจอการ์ดภาพวาด สวยดีนะ

มีรูปทะเลด้วย คือใจจริงอยากได้โปสการ์ดสวยๆไว้ส่งให้เพื่อน

แต่ไม่เอารูปทะเลแล้วได้ป่าว -..- ที่มีขายตามร้านหนังสืออ่ะ อย่างเบื่อ

ก็สอยมา 2อัน อยากได้มากกว่านั้นหรอกนะ แต่พกเบี้ยไปน้อย

เลือกมาสองอัน เอากระบี่หมดเลย 555

ลืมความคิดที่จะไม่เอาทะเลไปซะงั้น ก๊าก



เดินต่อมาอีกหน่อย เจอเพื่อนๆอยู่ร้านขายของถัก

กระเป๋าใส่มือถือ กิ๊บติดผม  ที่คาดผม

แต่ฉันเอาผ้ารัดผมมา และแน่นอน..ลายเชอรี่ -0-

(กำลังชอบ 555)



แวะไปร้านน้ำหอมอีกล่ะ เอากลิ่น Nook ของ Pias มา

แต่กลับมาดูรูปขวดในกูเกิ้ลไม่เจอนะ ไม่เข้าใจเลยว่าไม่ดังหรือไง

แต่กลิ่นหอมอ่อนๆดี ได้อารมณ์แบบแป้งเด็ก (เหมือนไม่ใส่น้ำหอม -.-)



แล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน... เจอกันอีกทีเมื่อชาติต้องการ

พกกล้องไปด้วยไม่ยักกะขอถ่ายรูป

ชอบคิดว่า .. เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกมั๊ง ..คิดงี้ทุกทีล่ะ




ก่อนถึงบ้านแวะมาเธอร์ เอานมมาแพคนึง
ไว้จับฉลากอาทิตย์หน้า ..







เล่ายาวล่ะ ไปอาบน้ำนอนดีกว่า ชะเอิงเอย

พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า เดี๋ยวก็แปดโมงอีกจนได้ -*-


วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

..Repentance..

เคยมั๊ย ..ที่ยังไม่ทันทำอะไรก็เหนื่อยแล้ว
มันไม่ใช่เหนื่อยกายนะ แต่เหนื่อยใจ


ฉันหงุดหงิด ฉันสับสน ฉันแทบจะคลุ้มคลั่ง
อารมณ์ที่ทั้งเศร้า เครียด อิจฉา น้อยอกน้อยใจ
มันตีกันมั่วไปหมดในสมองและจิตใจฉัน


เพราะพูดแล้วแต่ไม่ใช่ทุกคนจะฟังเราได้ทุกเวลา
แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดหรอก..


ฉันพบสาเหตุนั่นแล้ว


นั่นเพราะฉันคิดว่าฉันเหนื่อยหนักหนา
การไม่ได้นอนทั้งคืน แต่กลางวันก็นอนยาวเหยียด
ชนิดที่พ่อจะฝากดูน้องมันก็มานอนเฝ้าน้อง
จนพ่อที่ต้องออกไปส่งแม่ทำธุระต้องกลับมาดูน้องเอง


-*- แล้วฉันที่ตื่นขึ้นมาก็ปวดหัว เอาแต่บ่นๆๆ
พูดแต่แง่ลบ เพราะแค่ไม่ได้ทำอย่างที่ใจต้องการ
แต่ความจริงมันมีเบื้องลึกมากกว่านั้น..


ไม่ใช่มาจากคนอื่น
ไม่ใช่มาจากสถานการณ์แวดล้อม
ไม่ใช่เพราะการกระทำของคนรอบข้าง


แต่.. เพราะฉันไม่ได้ใช้เวลาเข้าเฝ้าและใกล้ชิดติดสนิทกับพระเจ้า
ฉันอยากได้เวลาวันละ 30ชั่วโมง
ในขณะที่ฉันใช้เวลากับการทำเรื่องไร้สาระมากกว่า 12ชั่วโมงต่อวัน
นั่นไม่ใช่การเล่นแต่เกมส์หรือแชท ดูหนัง ดูการ์ตูน คุยโทรศัพท์
นั่นเป็นแค่กิจกรรม เพราะความจริงมันก็แค่นั้น
การจัดแบ่งเวลาและให้ความสำคัญของฉันมันผิดเพี้ยนไป
เพราะความคิดที่ว่า........


"ต้องการอะไรทดแทน"
ฉันทดแทนการไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอก ไม่ได้ไปช๊อปปิ้ง
ไม่ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรก็ตามที่ตามใจตัวเอง
ที่ออกไปให้ห่างจากบ้าน จากงาน จากคนในครอบครัว


และฉันทดแทนมันด้วย .. การใช้เวลาผิดๆ
เล่นเกมส์เรื่อยเปื่อย ใช้เวลากับการดูโน่นนั่นนี่
เมื่อปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นคนไร้ปัญญา
การจะกลับไปติดสนิทกับพระเจ้า กับพระปัญญาของพระองค์ ก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องแบ่งเวลา


แบ่งเวลา !!! จากเรื่องไร้สาระน่ะนะ ????


ช่างน่าละอายซะเหลือเกิน



ฉันเป็นคนอ่อนแอ ฉันเป็นคนบาป และปรารถนาจะเหมือนพระเยซูมากขึ้นในทุกวัน
แต่แม้ภาษาอังกฤษ เราก็ต้องใช้เวลากับมันและฝึกฝนจึงจะเข้าใจมากขึ้นและเก่งได้
การที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราที่มันหมองหม่นให้ถวายพระเกียรติพระเจ้า
ให้สมกับที่พระองค์ได้ทรงเสียสละพระชนม์ไถ่ฉันจากความบาป รอดจากความตาย
มันต้องยอมตายต่อตัวเอง .. ตายตัวบาป ละทิ้งตัวเก่า ตัวที่ชอบทำตามใจตัวเอง
ตัวที่ให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางทุกสิ่ง ตัวที่เห็นแก่ตัว ตัวที่รักสนุกแต่ไม่รักพระเจ้า


ขอบคุณพระเจ้าที่วันก่อนพ่อบอกว่าให้ท่องข้อพระคัมภีร์ เอเฟซัสบทที่1
พ่ออยากให้ท่องได้ทั้งบท ไม่ใช่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง
ไม่ใช่ท่องไปเพื่ออวดคนอื่นว่าเราเก่งความจำดี
แต่ท่องเพื่อให้เรารับรู้ถึงความจริงที่พระคัมภีร์บอกเรา


แล้วพอวันนี้ วันที่ฉันรู้สึกเหนื่อยใจ
ฉันก็เสาะหาข้อพระคัมภีร์ที่จะหนุนใจตัวเอง
แต่เจอพระคัมภีร์ที่บอกเตือนอย่างตรงไปตรงมาให้ฉันกลับใจใหม่


"ถ้าแม้ท่านได้ฟังเรื่องพระองค์
และได้รับการสอนโดยพระองค์ตามความจริงซึ่งมีอยู่ในพระเยซูแล้ว
ท่านจงทิ้งมนุษย์เก่าของท่านซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย
 อันจะเสื่อมเสียไปตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง
และจงให้จิตวิญญาณของท่านเปลี่ยนใหม่
และให้ท่านสวมมนุษย์ใหม่ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า
 ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง


เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และ `จงต่างคนต่างพูดความจริงกับเพื่อนบ้าน'
เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน
`โกรธก็โกรธเถิด แต่อย่าทำบาป' อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่
และอย่าให้โอกาสแก่พญามาร
คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีๆกว่า
 เพื่อจะได้มีอะไรๆแจกให้แก่คนที่ขัดสน
อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย แต่จงกล่าวคำที่ดี
และเป็นประโยชน์ให้เกิดความจำเริญเพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยินได้ฟัง
และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย
 เพราะโดยพระวิญญาณนั้นท่านได้ถูกประทับตราหมายท่านไว้จนถึงวันที่ทรงไถ่ให้รอด


จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดเสียดสี
กับการคิดปองร้ายทุกอย่าง อยู่ห่างไกลจากท่านเถิด
และท่านจงเมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน และอภัยโทษให้กันเหมือนดังที่
พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้ท่าน เพราะเห็นแก่พระคริสต์"


                                                             เอเฟซัส4:2132


 


เพราะเมื่อเราเริ่มคิดว่าตัวเองพอแล้ว สมบูรณ์ดีแล้ว ไม่ต้องการอะไรแล้ว
นั่นคือ ...... ความว่างเปล่า เปล่าเลย ไม่ใช่เลย
เพราะแท้จริงเราขาด สิ่งที่สำคัญที่สุดไป
เพราะเมื่อเราหันหลังให้ความสว่าง ความดำมืดก็คืบคลานเข้ามาแทนที่



แผนที่ตั้งใจขึ้นใหม่
- เขียนตารางเวลา
- ใช้เวลากับเรื่องสนุกสนานแต่ไร้สาระให้น้อยลงที่สุด
- กลับใจใหม่ทุกวัน
- อธิษฐานมากๆๆๆขึ้น
- คิดถึงเวลาวันสุดท้ายให้มากขึ้น คิดถึงคนอื่นมากขึ้น อธิษฐานเผื่อเค้า
-สุดท้ายที่คิดได้ตอนนี้ .. อย่าคิดแง่ลบกับใครทั้งนั้น
อธิษฐาน ถ้าจะมีคำพูดหรือความคิดแง่ลบหลุดเข้ามา

Related Posts with Thumbnails