“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

..Red Polka dot & Suphan Buri Trip..



นี่ก็กลับมาจะเข้าวันพุธอีกครั้งแล้วนะ
ก็พุธที่แล้วไม่ได้หลับไม่ได้นอน ช่วยแม่เตรียมของจนเช้าเลย
เป็นวันที่เดินทางไปสุพรรณบุรี 
พ่อแม่มีประชุมกับเข้าค่ายดาวิดด้วย
แต่ฉันกับน้องน่ะ .. ไปนอนอยู่แต่ในโรงแรม
(แบบนี้มันลงตัวกับทุกฝ่ายนะ )


ก่อนจะเล่าเรื่องเดินทาง เอาไดอารี่สั้น ๆมาแปะก่อน..
ก็วันจันทร์น่ะสิ  วันหยุดของฉัน
เลยขึ้นห้องไปนอน ไปแบบคนไม่มีโทรศัพท์ใช้
เอ๊ะ... มีนี่ แต่ยกบีบีไว้ให้น้องฟังเพลง
ส่วนตัวเองพกโซนี่เครื่องเก่าที่เป็นเบอร์แม่
กับไอแผสของน้องโนอาห์เนี่ยล่ะ...
แหม มันช่างคุ้ม ให้1ได้มา2  คุ้มเว่อร์ .. 555



เช้านั้นนอนตื่นเกือบบ่ายสอง (ก็ปกตินะ)
แต่ไม่ยอมลงข้างล่าง เพราะตั้งใจสุด ๆ ที่จะเย็บผ้า
จะทำของขวัญไว้ให้พี่เค้า วันเกิดเดือนหน้า







ขนาดถ่ายรูปพวกนี้ไว้ กะไว้ให้คนลองทายว่า
“รู้ไหม กำลังทำอะไร”  แต่ผลสุดท้าย เย็บเบี้ยวไป
จากปกหนังสือต้องแปลงร่างเป็นกระเป๋าไปแทน เหอๆ
แถมจะเอาให้เค้าก็คงไม่โอเคด้วย -.-




ถึงงั้นก็ชอบนะ ลายมันน่ารักอ่ะ
ไม่ใช้เอง ก็แม่ใช้ .. มีอยู่สองทางเลือกนี่แหละ
ค่อนข้างดีใจที่ใช้ผ้าได้คุ้ม เป็นเศษที่เหลือจากตัดเอี๊มให้โยลิน
อันที่จริงมันควรจะมีมากกว่านั้น แต่เจอร้านตัดเบี้ยว
เซ็งไปเลย  แต่ก็นะ .. 40 บาท ครึ่งหลา ได้ชุดนึง
ได้อีกใบนึง .. ก็ยังโอเค
แต่ให้ดีอย่าตัดเบี้ยวได้มั๊ย
!!
(พอก่อน  ออกจากงานฝีมือน่ารักของตัวไปด่าร้านผ้าล่ะ)

...

เย็นวันอังคาร .. ไม่ถึง24 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง
ไปรดน้ำต้นไม้  เลยไปส่องต้นถั่วพูซะหน่อย
คราวก่อนได้กินด้วยนะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอวด
เหตุเพราะกล้องแบตหมดพอดี๊ 





คราวนี้แหละ .. จัดมาเลย 
แต่ยังเล็กอยู่เนาะ ยังอ่อนอยู่เลย
ก็เลยปล่อยไว้ นับๆ ไว้แล้วมี3ฝัก
(จำไว้น๊า  เดี๋ยวจะเล่าช่วงไปอยู่สุพรรณฯ
แล้วจะกลับมาอัพเดตไซส์ล่าสุดอีกที 555)
...

เช้าวันพุธออกเดินทางจากกระบี่
ตั้งใจกันว่าจะออก6.30 แต่ไม่ทันนะ
จำเวลาไม่ได้ น่าจะเกือบ8โมง
ดีที่รถไม่ติดมาก



ตลอดทั้งคืนไม่ได้นอน พากันจัดกระเป๋า
จัดของที่ต้องเอาไป แม่รีดผ้า ฉันเก็บของน้อง
วุ่นกันจนเช้าเลย .. จำไม่ได้ว่าแม่ได้งีบมั๊ย
แต่ฉันนี่ไม่ได้สักงีบเลย  เป็นพวกติดนอนเยอะด้วย
ถ้าได้นอนนิดเดียวจะพาลปวดหัวเอา
งั้นเลย ไม่นอนดีกว่า 
แถมตอนนั่งรถไปก็ไม่ค่อยได้หลับ
เป็นห่วงพ่อนะ  นั่งรถใครไม่เคยสนใจ
แต่ไปกับพ่อจะห่วงพ่อมาก อยากนั่งคุยไปด้วย
สงสารพ่อ ขับรถให้เรานั่งหลับไป .. เลยพยายามไม่หลับ
มีจะงีบบ้างช่วงเส้นเซาเทิร์น เพราะรถมันวิ่งได้เร็ว
แล้วก็ยังเช้าอยู่   พ่อยังไม่ล้ามาก


เอาเจ้าแยมโรลไปด้วย  กลัวไม่มีอะไรให้เล่น
ตลกตัวเอง  เอาเข้าจริง ๆไม่ได้เล่นอะไรหรอก
ไม่มีจะเหงาเลยด้วย  ลุ้นกันตลอด
ยิ่งช่วงก่อนถึงหลังสวน ผิวถนนเสียเยอะมาก
พ่อขับเร็วอีก รถกระแทกจนกระจกด้านข้าง
ของแคปหล่นหายไปเลย 


เลยต้องปิดแอร์ขับรถ  พอไปเขตหลังสวน
พ่อก็ไปเลาะหาที่ซ่อม เสียเวลาเยอะมากเลย
ออกจากประดับยนต์ไปหลงในตลาด
จะหาร้านเครื่องเขียน พอเจอก็ทำไม่ได้
บอกอุปกรณ์ไม่มี แนะนำไปร้านทำป้าย
กว่าจะเจอ .. เจอก็ทำไม่ได้อีก 
สรุปว่า เสียเวลามาก  ร่วมชั่วโมงกว่า
ก็นะ มัวแต่คิดกันว่าน่าจะต้องเป็นแผ่นพลาสติกอัดกาวเท่านั้น
ฉันคิดว่า แผ่นฟิวเจอร์บอร์ดกับกระดาษกาวก็น่าจะพอแค่นไปก่อน
แต่เค้าไม่คิดว่ามันจะทนไหว    แต่ไงก็หาร้านไม่ได้
เจอร้านที่ทำพวกนี้ก็ไม่มีอุปกรณ์จะทำให้อีก
สรุปว่า นั่งแบบตากลมไปถึงสุพรรณฯเลย
ข้อดีก็มีนะ คือ ความร้อนไม่ขึ้น
แล้วก็ไม่ค่อยง่วง เพราะลมตีตลอด



เลยมีสติดี พอผ่านซานโตฯ หยิบกล้องมาแชะ
นั่งมองดวงอาทิตย์ลอยต่ำใกล้ร่วงแถวชะอำก็อีกแชะ
แต่มุมภาพอาจไม่งามล้ำ ด้วยเพราะพ่อขับเร็ว
ไปถึงนครปฐมก็หลงทางอีก (ประจำเล้ย)
ตรงนั้นหลงทุกรอบอ่ะ  ต้องเลี้ยวหน้าโรงพยาบาลสนามจันทร์
ฮาไม่ฮา เคยเลี้ยวไปพระราชวังสนามจันทร์มาแล้ว 555
แต่ไม่เสียเวลาเยอะ เพราะกลับตัวเร็ว ..
แล้วก็ตรงไปสุพรรณฯต่อ
โห.. ถนนเค้า ต่างกับที่เพิ่งผ่านมาลิบ 
จังหวัดที่มีนายกฯ เนี่ย เจริญจริง ๆนะ
ถนนคอนกรีตตลอดสาย  มีไฟเกือบตลอดทาง





ไปถึงที่โรงแรมก็เกือบห้าทุ่มมั๊งนะ ลืมอ่ะ
ไปนั่งรอเค้าที่ล๊อบบี้ก่อน ระหว่างพ่อเอาของมาใส่รถ
ฉันมานั่งกับน้อง   หันไปอีกที เต็มรถเลย  ขำมาก
รถเข็นสำหรับขนของ ของโรงแรมอ่ะนะ
แถมต้องเอาขึ้นไปทีหลังอีกต่างหาก
เพราะลิฟต์ตัวเล็ก ขึ้นได้ทีละรอบ
คนเลยไปก่อน 
ห้องพักโดยรวมก็โอเคนะ  เค้าตกแต่งแบบกึ่งโบราณหน่อย ๆ
เป็นเพราะโรงแรมเก่าด้วยมั๊ง 
ไปถึงฉันรีบอาบน้ำก่อนเพื่อนเลย 
คืนนั้นเปิดคอมพ์แล้วเห็นว่าต่อ
wifi ได้
ดีใจจนแทบจะน้ำตาไหลเพราะเสียดายค่าโปรบีบี
แถมบื้อซื้อเนตไปก่อนล่วงหน้าแล้วก็ใช้ไม่ได้อีกต่างหาก




ก่อนนอนหยิบหนังสือมานั่งอ่านพลาง ๆ ระหว่างรอผมแห้ง
จะไดร์ผมก็เกรงใจ  ชาร์ตมือถือกันจัง
สุดท้ายหลับไปยังไงไม่รู้  รู้แต่นอนข้างเตียงน้อง



เปิดแอร์นอน25องศา เป็นปกติเนาะ
แต่พอเกือบเช้าแม่ไปเพิ่ม30 ห้องก็ยังเย็น
น้ำแอร์รั่วอีกต่างหาก ไอน้ำเต็มหน้าต่างเลย
ก็เลยต้องปิดแอร์เปิดหน้าต่าง ..
แปลกดี อยู่ในสภาพนั้นหลายชั่วโมง ยังไม่รู้สึกร้อนเลย





ตอนเช้าพ่อออกไปซื้อของกินมาไว้ให้
ที่จริงก็มีที่พกมา ซื้อมาระหว่างทางด้วย
เอาเข้าจริง ๆ คนกินหลักเป็นน้องแหละ
เค้าซื้อข้าวมันไก่มาให้2กล่อง ขาหมู1
ท่านน้องซัดไป2กล่องครึ่ง  คือ ฉันกินที่เหลือ
ช่วงที่อยู่ที่นี่เลยเน้นกินผลไม้ (ผิดปกติตัวเองมาก 555)


มาตอนบ่ายไฟดับอีก  ที่จริงเค้าแจ้งไว้แล้ว
แปะป้ายไว้ที่ลิฟต์ แต่พ่อลืมบอก
ฉันก็งงอยู่นาน ชั่วโมงนึงผ่านไป มันก็เริ่มจะร้อนเนาะ
(แต่ดีที่ตอนนั้นเปิดแอร์ไว้แล้ว เลยไม่ร้อนมาก)
พอเข้าชั่วโมงที่2เลยพยายามโทรหาแม่
เพราะหาเบอร์โรงแรมไม่เจอ 
ลองโทรจากเบอร์ที่ค้างอยู่ในเครื่อง
ก็ไม่รับแฮะ...  วันนั้นยังได้คุยกับมีนนิดนึง
แต่เมโวยวาย  เลยต้องหยุด
ช่วงเช้านี่หมดเวลาไปกับการดักจับน้อง
ไม่ให้ตกเตียง .. เออ คิดไม่ออกนะ
ว่าถ้าไม่ให้ตกเตียง ก็เอามานอนพื้นสิ ..จบเรื่อง
แต่ขอบอก ตอนเช้าโหม่งพื้นมารอบนึงแล้ว
หัวไม่โน แต่ปากเลือดออก -*-
ที่ไม่ได้คิดจะเอามานอนพื้น เพราะพื้นมันแข็ง
เทียบกับที่นอนไม่ได้เลย  แต่ก็นะ พื้นก็พื้น
ตอนเย็นเค้าแวะกลับมาแป๊บนึง
เอาผัดไทยกับหอยทอดมาให้
มีก๋วยเตี๋ยววุ้นเส้นต้มยำด้วย
ซื้อมาอย่างละ 4 กินกันจนวันสุดท้ายอ่ะ เหอๆ


นั่งดูดวงอาทิตย์ตกลับหลังคาตึกข้าง ๆ แป๊บนึง
ก็ปิดม่าน อยู่กับน้องต่อ ..
รู้สึกวันนั้นอ่านหนังสือได้ไม่เยอะหรอก
ออกไปทางดูหนัง ช่อง
GTH นี่ดูไปซะหลาย
เรื่องที่ชอบก็ดูตั้งแต่ต้นเลย ดูแล้วคิดถึง... ชะมัด -*-

วันรุ่งขึ้นเป็นวันวาเลนไทน์ แต่น้องตื่นสาย
พี่ก็สายไปด้วย ฮ่ะ ๆ  เช้านั้นอุ่นอาหารที่ซื้อมาเมื่อวานกิน



วันนี้เริ่มเก็บจัดของบ้างแล้ว เพราะเช้าวันเสาร์ก็จะกลับแล้ว
แต่ที่พับผ้าเนี่ย.. ของพ่อ   พับแล้วคิดถึงคำพ่อสอน
พ่อสอนว่า “พับผ้าให้คนอื่น จะมีความสุขไปทั้งวัน”
คนอื่นที่ว่า ก็คนในบ้านล่ะเนอะ ...
ฉันฟังมาตั้งแต่เด็ก ทำมาตลอด
คิดอีกที เป็นกุสโลบายจะให้เราเรียนรู้มีน้ำใจสินะ


ตอนแรกไม่คิดว่าตอนเที่ยงจะกลับมากันแล้ว
เพราะของกินเต็มตู้ อุ่นแล้วก็ยังกินกันไม่หมด
ขนาดน้องกินครั้งละ2อย่างขึ้น ยังไม่หมด
แต่ก็ดีนะ อิอิ เพราะพ่อซื้อข้าวหน้าเป็ดมาฝาก
ถูกด้วยอ่ะ  จำราคาไม่ได้แฮะ ไม่แน่ใจว่า 35 หรือ40
แต่ถูกแหละ ถ้าเทียบกับกระบี่   แถมอร่อย ยกนิ้วให้เลย

พ่อไข้ขึ้น เลยขอพัก  อีกอย่างภาคบ่ายเป็นแบบชมรม
เค้าไม่ซีเรียสอะไรกันมาก  


เค้าเอาของฝากมาให้ด้วย หนังสือที่ฉันอยากอ่านมากมาย
เปิด ๆ นิด ๆ แล้ว น่าอ่านจริง ๆ
(แต่ถึงวันนี้แล้วก็ยังอ่านไม่จบเลย)


อ่อ วันนี้ลากอิลลัสมาอัพวันวาเลนไทน์หน่อย
เล่นมุขมักง่าย คือแบบมีรายละเอียดก็มี
แต่ฉันคงมีเวลาไม่พอ  แค่ทำเท่านี้น้องก็เรียกจังแล้ว


พอเช้าวันเสาร์ ที่กะจะออกแต่เช้ามืด
ก็ทำได้แค่แปดโมง เพราะหมดแรงกัน ลุกไม่ขึ้น
แต่ก็เก็บของกันเร็วมากนะ พ่อยังงงว่า เก็บกันยังไงเร็วมาก
อันที่จริงไม่ได้กินข้าวนะ  เพราะเมื่อคืนเค้ากลับมาตั้งตีสองแล้ว
แม่มีธุระคุยอยู่จนดึกเลย  เลยกินอาหารกันเวลานั้น
ตอนเช้าก็อาบน้ำแต่งตัวออกเดินทางเลย


ลงมาเลยเพิ่งเห็นกระจกรุ่นตัดแปะของพ่อ
แหม... นึกแล้ว ว่าแบบนี้ก็น่าจะทำได้นะ
ไม่มีใครเชื่อฉัน สุดท้ายก็ต้องทำ เพราะเราทำเองได้จริงๆ
แต่ก็โดยพระคุณพระเจ้าจริง ๆ นะ ที่มันมาถึงบ้านได้
ลมตีหลายรอบ พ่อก็จอดแล้วคอยไปลูบ ๆ ปิด ๆ แปะ ๆ




ออกมาจากตัวเมืองสักหน่อย เห็นทุ่งนา
พ่อเลยแวะไปถ่ายรูปให้    หยุดอยู่เกือบ5นาทีมั๊ง
จนจะโดนแซวอยู่แล้ว  “อยู่กลางทะเลรึไง?”


พอเข้าเขตอ.อู่ทองก็เจอปั๊ม ที่มีถ่ายน้ำมันเครื่อง
เข้าไปรออยู่สักพัก  พอช่างลงมือทำให้ก็เร็วนะ
แล้วเค้ากระตือรือร้นมาก แนะนำให้เปลี่ยนล้างระบบ
อะไรหลายอย่าง เติมลมก็แนะนำว่าแบบไหนเหมาะประหยัดน้ำมัน
อาจเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนทำงานบริการทำ
แล้วสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้จริง ๆ




หยิบกล้องอีกทีก็แถวเพชรบุรี
พอเข้าเขตชะอำ แถวแหล่งท่องเที่ยว
เลยหยิบมากด ๆ สักหน่อย 
แต่ขำดี ที่ถ่ายชิงช้าสวรรค์ของซานโตฯไว้ก็จริง
แต่ดันสนใจเจ้าม้าแคระฝั่งตรงข้ามมากกว่า









ความจริงอยากแวะฟาร์มแกะ ไมได้จะดูแกะหรอก
จะซื้อของน่ะ  แต่ด้านหน้าเค้าโล่งมาก
ไม่มีจุดจอดที่ร่มๆ บ้างเลย  เลยอดจอด
ไปจอดที่ปั๊มน้ำมันติดกันนั่นเอง เหอๆ
ซื้อทั้งขนม แวะ7ตรงนั้นด้วย กินกาแฟเย็น
ตบท้ายด้วยไอติมปั่นอีก ... อืม
เที่ยวไป กินไป จริง ๆ

กลับถึงบ้านเกือบห้าทุ่ม 
พระเจ้าเสริมกำลังพ่อจริง ๆ นะ จะไม่ไหวหลายรอบแล้ว
นี่เพราะเวลามันจวนแจหรอก
ถ้าจะเดินทางไกลแบบพัทยา คงต้องพักกลางทางบ้าง
.
...
อ่ะ ๆ เห็นอัพซะยาว ไม่ลืม1อาทิตย์ผ่านไปนะจ๊ะ
และนี่ก็คือ ขนาดที่เปลี่ยนไปของถั่วพูฝักน้อย ๆ





มองเห็นแค่สองฝักก่อนนะ
แต่สุดท้ายก็เจอฝักใหญ่สุด เกือบไม่เห็นแน่ะ...
กรอบ อร่อย (บอกตรง ๆว่าชอบตอนมันเล็ก ๆ มากกว่า)


...


เอ๊ย ปิดท้ายด้วย หนูน้อยซอร์ ลูกสาวพี่โอ๋กับตู่
คลอดวันเสาร์อ่ะ  ตอนเข้ามืดเลย





ฉันเพิ่งจะว่างไปเยี่ยมวันอาทิตย์ตอนเย็น
เค้าน่ารักดีนะ  เหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นตัวเล็ก ๆ
ร้องไห้จังเพราะหิวๆๆ 
เดี๋ยวคงได้อัพเดตกันอีกเรื่อย ๆแหละ -0-






..มุมเด็ก ๆ..


 เรื่องต่อมา .. งานประดิษฐ์ของหนู ๆ ล่ะจ้ะ
รวบยอดเล่าทีเดียว2อาทิตย์เลยเนาะ


อันนี้ของอาทิตย์ที่ 9 ก.พ.
วันนั้นสอนเรื่อง หอบาเบล
ก็เลยให้เค้าประดิษฐ์หอบาเบลในแบบของตัวเอง
แต่เพราะอุปกรณ์มีจำกัด ก็เลยไม่ได้ทำครบทุกคน
จะมีบางคนที่ต้องช่วยน้อง ๆทำ
ผลงานก็ประมาณนี้ล่ะจ้ะ...






อุปกรณ์ก็ แกนกระดาษทิชชู ถ้วยกระดาษ
กระดาษสี กรรไกร กาว ที่เหลือคือ..
ความคิดสร้างสรรค์






งานนี้ต้องย้ำว่า ทำแล้วเอากลับบ้านด้วยนะ
คือ ไม่ใช่อะไรหรอก ..
ครูเหนื่อยเก็บซากที่ไม่เอากลับทิ้งตลอด -.-
จะให้เก็บไว้เป็นผลงานโชว์ก็ไม่มีที่ตั้งอ่ะ


...
ส่วนอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันยอมรับเลยว่าเตรียมไม่ทัน
ทำเครื่องบินกระดาษเอาไว้ แต่ไม่ได้จะสอน
เพราะอุปกรณ์ไม่พร้อม











ไหน ๆ ก็เข้าช่วงวาเลนไทน์ด้วย เลยให้ทำการ์ดหัวใจ
จากสองมือเราซะเลย (ลอกฝรั่งมาชัด ๆ555)
สงสารก็แต่คนอยากทำของเล่น เค้าไม่ชอบทำการ์ด
ดีที่ขอแรงเอสมาช่วยน้องได้นะ ไม่งั้นน้องกายท้อเลย
แต่นะ เด็ก ๆ พอชักชวนให้ทำ บอกว่า
ให้เอาไปให้คนที่เรารักม๊ากมากนะ ..  เค้าก็เอาไปให้แม่
ก็หวังว่า หากคุณแม่ ๆ ได้เห็นความตั้งใจของคุณลูกแล้วจะดีใจ




Related Posts with Thumbnails