“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันศุกร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Girl's Day..

ไม่มีไรจะเล่า เหอๆๆ
คือ มันไม่มีอะไรพิเศษ พิศดาร มหัศจรรย์ ไง


-.-



แค่ไปเล่นเวปpupe แล้วเห็นว่า เค้าจัดหน้าบ้านแปลกไป
ก็คงจะเป็นช่วงเทศกาลเด็กผู้หญิงของญี่ปุ่นล่ะมั๊ง
(เคยอ่านเจอกับดูการ์ตูนนี่นา)



มีตุ๊กตาเจ้าหญิง เจ้าชาย มาแต่งบ้าน
ก็น่ารักดี (น่ารักจัง ไม่รู้ความเป็นมาของเขาหรอก เหอๆ)



.....


วันนี้ทำ PP แบบเร่งด่วน แต่ก็เสร็จแล้วนะ
ไม่ยาวอ่ะ รอแค่พรุ่งนี้จะมีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า
หรือ เพลงไหนต้องซ้ำ อะไรต้องแก้ไข อะไรทำนองนี้



หารูปไป ก็แว๊บไป wallcoo อยากได้วอลเปเปอร์covergirl ชุดใหม่
แต่เหมือนเวปเค้ามีปัญหา เซฟแบบเต็มรูปไม่ได้ ได้แค่ 750 มันเล็กไป ความละเอียดก็ต่ำ


-.- ไว้ค่อยไปใหม่



.....


หัวค่ำ โทรคุยกับแตงนิดหน่อย
แตงกลับไปบ้านแล้ว กลับแบบนี้ทุกอาทิตย์ต้นเดือน


นึกแล้วคิดถึงกล้วยที่เพื่อนอุตส่าห์แบกมาฝาก
พ่อมาบอกเมื่อเช้าว่า มันตายแล้ว


-*- เจ็บปวด พ่อว่า รากมันสั้นไป เหมือนจะรากขาดด้วย
จะให้ไปขอเค้าใหม่ ฉันบอกตรงๆเลยว่า เกรงใจเพื่อน ไม่อยากให้เค้าเสียความรู้สึก
ไม่เป็นไร เหอๆ  ก็ถือซะว่า ปลูกไม่ได้ กินนางพญาต่อไป - -"



[ยังคงชอบรูปแบบนี้ หุหุ]


 


Ps* ฝนยังคงตกไม่หยุด หุหุ ไม่เป็นไร ออกจากบ้านลำบาก ประหยัดตังค์ไว้

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..What r u doing?..

เมื่อบ่ายลงมาก่อนจะเข้าห้อง เห็นเด็กวัยรุ่นคนนึงทำท่าจะเดินเข้าประตูมา
แต่ก็ถอยออกไปเมื่อเห็นฉัน
มันรู้สึกผิดสังเกตุน่ะนะ เพราะพอคนนั้นหลบวูบไป อีกคนก็มาชะโงกมอง
เห็นเงาสะท้อนในกระจกอ่ะ


ชักไม่ไว้ใจ พอเข้ามาในบ้านเลยบอกให้พ่อดูให้
แต่พ่อก็กำลังจะออกไปข้างนอก - -"
แม่ก็ไปยืนดูตรงประตู เห็นล่ะว่า 2คนนั่นเข้ามานั่งตรงโต๊ะที่พ่อจัดไว้ให้ลูกค้านั่ง
ครั้นจะไปไล่ที่ก็ไม่ดีหรอกนะ  เราจัดไว้สำหรับลูกค้าก็จริง
แต่ฝนก็กำลังจะตก ไปไร้น้ำใจกับเค้าก็คงไม่ดี


ที่คิดแน่ๆว่า คงไม่ได้มาติดต่อคนบนนี้ เพราะมานั่งเปิดหนังสือเล่น
คนนึงหันข้างออกไปด้านนอก อีกคนก็หันคุยกับเพื่อน
ไม่ได้มีท่าทีเงยมองไปทางบันได หรือเหมือนรอใครเลย


มันเหมือน.. รออย่างอื่นมากกว่า
หรือรอคนจากที่อื่น ไม่ใช่คนที่นี่


 


สักพักล่ะมั๊ง อยู่ใน10-15นาที
แทนที่แม่จะไปยืนเฝ้า กลายเป็นไล่ฉันไปยืนเฝ้าดูที่ประตูแทน


- -"


รู้สึกเหมือน เป็นยามจริ๊ง 555


แล้วอยู่ๆ 2 คนนั้นก็ลุกออกไป ตอนแรกคนเสื้อส้มไปนั่งที่ฟุตบาธก่อน
แล้วเสื้อลายก็ตามออกไป นั่งด้วยกัน


ก็คิดว่า เออไปแล้ว ไม่ต้องเฝ้าแล้ว


แต่ว่า ไม่ทันไร เสื้อลายก็ข้ามไปอีกฝั่งถนน
ที่รถมอเตอร์ไซค์เด็กนักเรียน เอามาจอดกันเป็นแถวเป็นแนว
มันนั่งยองๆ ใกล้ล้อรถคันหนึ่ง หยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าหลังออกมา


ฉันก็เลยเปิดประตูพรวดออกไป
พอมันเห็น ก็ชะงัก ลุกขึ้น ทำหน้าเสียๆ แต่ก็ยิ้มแหะๆ กับเพื่อน
ฉันหันไปบอกแม่ในบ้านว่า เรียกตำรวจ เรียก191


ตอนนั้นพ่อขี่มอไซด์กลับมาพอดี
พวกมันพากันชิ่งหนีสวนกับพ่อไปอย่างเร็วเลย



- -



เป็นพวกขโมยแน่ แต่อาจไม่ได้คิดขโมยตัวรถ
อาจเป็นอุปกรณ์อะไรบางอย่าง
หรือมากลั่นแกล้ง เจาะลม หรืออะไรสักอย่างนี่ล่ะมั๊ง


เพราะมันไม่ได้เล็งฟีโน่รุ่นสวยๆ ที่ติดกันเลย
กลับเตรียมไปจัดการรถที่เก่ากว่า(ลืมดูยี่ห้อ )


 


เฮ้อ..... ถ้าเป็นขโมย อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่มีรถใครเป็นอะไร
และยิ่งเป็นการยืนยันว่า เราให้ลูกค้าจอดรถด้านในร้าน นั่นก็ดีที่สุดแล้ว


 


....



วันนี้ฝนตกเป็นวันที่3แล้ว
ก็ดีนะ อาทิตย์ก่อนร้อนแทบละลาย พอฝนตกอากาศก็เย็นขึ้นเยอะ
แต่ก็ทำให้คนนอนหลับสบายบนเตียงแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลย


ตัวขี้เกียจเกาะกุมซะอย่างนั้น เหอะๆ


 



ตอนหัวค่ำ ลองทำภาพแบบนี้ตามเวปหนึ่งเค้าสอน
จริงๆก็ไม่ยากอะไรเลย (พอทำได้แล้วไง อิอิ)
อยากจะทำรูปคนอยู่เหมือนกัน แต่หน้าตัวเองมันยังไม่ได้มุม หุหุ


 


......


เกือบดึก นั่งฟังปัญหาของเพื่อน ฟังเพื่อนบ่น
ดึกแล้ว คุยกับแม่ถึงปัญหาชีวิตของใครหลายคนและตัวเอง.. อีก
ไม่ได้เอาพี่จันไปเล่าให้แม่ฟัง แต่ฟังแม่เล่าเสียมากกว่า



 

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..ไปข้างนอกกะครอบครัว..

วันนี้แม่ชวนไปสุสานหอย ตอน4โมง แต่งานพ่อไม่เสร็จ
จน5โมงไปแล้ว ก็เลยตกลงว่า ค่อยไปวันพรุ่งนี้หรือวันหลังแทน


วันนี้ไปนั่งรถเล่นรอบเมืองกันแทนล่ะกัน
พ่อไปวนที่ท่าเรือใหม่แล้วจอดให้ลงไปถ่ายรูป
แช๊ะ ๆ ประภาคารมา 2-3 รูป แต่ไม่เอาลง เพราะไม่สวย
คือ ตอนเล็งก็รู้สึกแล้วว่า มันมีอะไรเด่น(ว๊ะ?) แต่ก็ยังอุตส่าห์กดถ่ายไป


-.- มีเวลาน้อย ในหัวไม่มีเรื่องจะสื่อสารนัก
ส่วนภาพดวงอาทิตย์เกือบจะลาฟ้าเนี่ย เหมือนจะฟลุคซะมากกว่า
คือ อยากจะถ่ายตรงท่าเรือยที่เป็นสะพานทอดยาวไป
แต่ว่าไม่ได้อยู่ตรงมุมที่จะได้ภาพแนวโค้งตามสะพาน
ไปได้มุมตรงกลาง ตรงๆ ว่างั้นเถอะ
กดไปแล้วครั้งนึง เงยขึ้นมองเห็นแสงดวงอาทิตย์สวยดี เลยลองกดถ่ายดู หุหุ
2 ภาพนะ สำหรับดวงอาทิตย์ แล้วก็ใช้ได้ 1 รูป



 


ครั้งนี้ไม่ใช่ถ่ายกันบูดกันเน่า แต่เป็นความพยายามจะเล็งให้ภาพออกมาดูดีที่สุด
แล้วก็พอจะโอเค ^^ คุณครูเค้าให้ผ่านแหละ คิคิ


.....


พอกลับมาก็ออกไปตลาดซิตี้กับแม่
หิวข้าวมากๆๆๆ แต่ก็อยากได้พวกขนมให้น้อง(ให้น้องเด้อ ไม่ได้กินเอง จริงๆนะ -.-)
ได้กำไลสีชมพูอันละ10 กลับมาอันนึง เหอๆ


ขำพ่อนะ ตอนกลับมาบ้าน
พ่อมาเปิดดูถุงของที่ซื้อมาแล้วก็ร้อง โอ้โห นึกไว้ว่าอยากกิน ได้กินทุกอย่างเลย
ข้าวโพดก็ได้ ไก่ทอดกับข้าวเหนียวก็ได้ กล้วยหอมก็ได้



Ps* ที่ซื้อมาอ่ะ ฉันกินแต่ผักต้มกะน้ำพริกนะ -*- มีจิ๊กๆข้าวเม่าสองคำ

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Life is Wonderful Journey..

เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ฉันนอนฟังเพลงแล้วหลับไป
ฟังแบบเสียบหูฟังคาหูไว้อย่างนั้นเลยน่ะนะ


การเดินทางที่แสนพิเศษ-ดา


ไม่ได้เพลียจนหลับไปเองหรอก
แต่รู้สึกชอบเพลงนี้จัง สามารถฟังแล้วหลับไปได้เลย


^-^


....


ตอนแรกที่ตื่นมาทำงาน ทำไปก็คิดไปว่า
เขียนเรื่องสั้นกับเพลงนี้ดีป่าวนะ
แต่พอมานั่งหน้าจอก็เปลี่ยนใจ


เค้าโครงเรื่องมันแตกแยกไปหลายทาง
อยากจบแบบดีๆ แต่ก็ไม่เข้ากับเพลง(จะกลายเป็นลงเหมือนเพลงอื่น)
อยากจบแบบร้าย ๆ ก็ไม่ได้เข้ากับอารมณ์เพลงเลย


ไม่แต่งล่ะ ไม่มีอารมณ์


.....


จริงๆแล้ว อาจเพราะฉันไม่ใช่คนชื่นชอบการเดินทางมากนักก็เป็นได้
เป็นคนติดบ้าน แบบออกไปแว๊บๆ คงพอได้


การออกเดินทาง แม้ว่าจะมีจุดหมาย แต่ระยะทางที่ยาวไกล
และความเหนื่อยล้าที่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึกไม่ชอบการเดินทาง




แต่สำหรับการเดินทางอันยาวไกลในเส้นทางชีวิต
ทางแยกมากมายหลายครั้ง ที่บ่อยครั้งก็หันมอง อยากจะลองก้าวไป
ลองหันออกนอกเส้นทาง(ที่ถูก) หกล้ม ขวากหนามบาดเนื้อให้เป็นรอยแผล


ความรู้สึกแรกคือ แย่มาก ไม่อยากเจอเลย ทำไมต้องเป็นฉันด้วยนะ
ทำไมฉันต้องเจอหลุม ทำไมฉันต้องหกล้ม ทำไมหินก้อนนั้นต้องบาดฉันด้วย
แต่เมื่อลุกขึ้นเดินได้อีกครั้ง ก้าวต่อไป ก็ทำให้ระวังมากขึ้น
และได้เรียนรู้ว่า ชีวิตต้องเจออุปสรรค การเดินทางที่ไม่ราบรื่น
คือรสชาติที่แท้จริงของชีวิต..


ฉันเชื่อคำที่ว่า "ประสบการณ์จะสอนให้เราโตขึ้น"



......



ห่าง.. ห่าง.. เพื่อนจังเลยนะพักนี้
อยากโทรหาพี่อ้วน แต่ก็คิดว่า พี่เค้าจะยุ่งหรือเปล่า
อยากโทรหาแตง แต่ก็เจอช่วงยุ่งๆอยู่เรื่อย



ไม่ได้ไม่คิดถึงหรอก เพียงแต่ช่วงนี้ เหมือนแมวป่วยเลย
เงียบเหงา ขี้เซาได้ทั้งวัน -*-



......



 

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Resentfully..

ฉันไม่ชอบมีปัญหา ไม่ว่ากับตัวเอง หรือกับใครๆ ก็ตาม
ฉันไม่ชอบเครียด ไม่ว่าเครียดเรื่องตัวเอง หรือเครียดเรื่องคนอื่น


แต่.. ที่ไม่ชอบน่ะ ทำประจำ



555


-*-


 


วันนี้จิตตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
มันเกินความควบคุมของฉันนี่นะ การตอบสนองของฉันกลับเป็นอะไรที่แรง
ไม่ได้แรงประทุออกไป แต่แรงอยู่ในอกเนี่ยล่ะ


ถอนหายใจยาว..ยาว.. สักตั้ง
แล้วก็ หลับตาอธิษฐานซะ
อย่าไว้วางใจในตัวเองให้มันมากนัก เพราะตัวเองมันไว้ใจไม่ได้


- -"



....


วันนี้ฝนตกสมใจอยากแล้ว โอ้เย้
ลมเริ่มแรงตั้งแต่ฉันตื่นนอน คือ บ่ายโมง
ลมแรงพัดเสียม่านกระพรือ ประตูระเบียงที่ไม่เคยล๊อคก็เริ่มเอี๊ยดอาด


ฉันนอนหลับนานเกินไปสินะ เหงื่อเริ่มซึมตามไรผม
อาจเพราะอากาศที่อบอ้าวก่อนฝนจะตก


หลังจากอาบน้ำแล้ว ก็มานั่งร้อยลูกปัดให้ลูกค้าจนเสร็จไป1เส้น
แค่ซ่อมแซม เปลี่ยนเอ็นกับstopper ใหม่เท่านั้นเอง
เป็นลูกปัดหินรูปหัวใจที่สวยดี ใส่แล้วคงเย็นดี


Stone Hearts


 


Stone Hearts


สักพักล่ะ ถึงลงมาข้างล่าง
มื้อแรกกับมื้อสุดท้าย อาหารเมนูเดียวกัน
แต่มื้อสอง กินข้าวกับส้มตำ -.-
นึกๆอยู่ว่า เค้าใส่อะไรลงไปป่ะนะ ทำไมกินได้ทุกวี่ทุกวัน
พรุ่งนี้ต้องหยุดกินบ้างซะแล้ว ไม่งั้นจะกลายเป็นติดไปซะก่อน ไม่ดีๆ ไม่ชอบๆ



.....


ตอนหัวค่ำ พ่อกับแม่ไปทานข้าวข้างนอก
อยู่บ้านก็ทำงานบ้านไป แว๊บมาเล่นเกมส์ Dream Day Honeymoon
เน้นเรียนศัพท์กับฝึกสายตาไวมากกว่า
สนุกดีนะ เล่นจนเกือบติด ต้องละ บ้าง เพราะเล่นนานจะตาลาย



.....


เกือบดึก นั่งถ่ายรูปกะเว็บแคมเล่น
ไม่มีอะไร วันนี้ก็แค่ใส่ชุดดำทั้งชุด ชอบง่ะ ใส่แล้วดูไม่ค่อยอ้วนมาก 555
แต่ภาพที่เอามาแปะ มันดูโหดดี หุหุ




ประมาณว่า.. ใครบังอาจทำให้ฉันแค้น ก็ระวังให้ดี หึหึ

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Hot Day..

วันอาทิตย์ร้อน ๆ  เงยหน้ามองฟ้าแล้วคิดแต่ว่า
"ฝนจ๋า..อยู่ไหนจ๊ะ มาตกแถวนี้บ้างสิ"


ร้อนจริงๆนะเออ



...


ขึ้นห้องไปตอนตีห้าล่ะมั๊ง ตีสี่ครึ่งไปแล้วอ่ะ
อาบน้ำแล้วรีบนอน ง่วงมาก


ตื่นตอนเก้าโมง พ่อมาปลุก (ตั้งปลุก8.20แต่ไม่ได้ยินเสียง)
ลงมาอยู่จนบ่ายกว่า แม่กลับมา ก็ยังไม่ไปนอน
รอดูโปเยโปโลเย -*- (เพิ่งจะมาอยากดูหนังจีนตอนนี้)
ดูไม่ทันจบหรอก พ่อลดเสียง เลยเซ็ง ปิดเลย เล่นเกมส์อีกนิด
แล้วขึ้นไปนอนตอน 4โมงเย็น



ตื่นอีกที 6 โมง
ปวดหัวอ่ะ ตอนนี้นะ สี่ทุ่มจะห้าทุ่มเนี่ย
สงสัยยังไม่ได้สระผม แล้วอากาศมันก็ร้อนมากๆ


....


อ่านมานาประจำวัน ตอนหัวค่ำ
เรื่องบอลลูน


"จะลอยขึ้นได้ ต้องยอมทิ้งไป"


จริงๆนะ ถ้าไม่ทิ้ง ก็ลอยขึ้นไม่ได้

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Gymnastics..

วันนี้ตื่นเช้าเกือบที่สุดในรอบปี 555
เพราะตื่นตั้ง7โมงกว่า จริงๆตั้งปลุก7.20
แต่พ่อมาเรียกตอน7โมง สมองมันเบลอๆ แต่ตื่นแล้วอ่ะ
นอนจน7.20 ก็ลุกอาบน้ำ ลงมาข้างล่าง


เป็นอันว่าแม่ไม่ไป แม่ไปไม่ไหว ไอมาก ไม่ได้หลับเลย
พ่อไปคนเดียว - -"


...


พ่อกลับมาบ่ายสองกว่า
เอารูปลงคอมพ์แล้วก็ ขึ้นไปนอนตอนบ่ายสามกว่า
อาบน้ำแล้วก็นอน หลับจริงๆเลยนะ
จนห้าโมงครึ่งอ่ะ ยาหยังโทรมาหา นัดว่า 6.15 จะมารับ


เลยลุกมาอาบน้ำ แต่งตัวแล้วลงมาข้างล่าง
ไม่ได้รอเลย รถตู้ก็มาถึง


แล้วก็ไปดู"กายกรรมจีนจาก มณฑลซานตง"กันล่ะ
มาดามซื้อตั๋วVIP ใบละ 500 บาท ดูได้2คน
มาดามซื้อ 3 ใบอ่ะ ก็เลยไปกะเค้าด้วยได้ หุหุ
มาดามนั่งกับอ.โรสเลน โรน่านั่งกับคริสเต็น ฉันนั่งกับยาหยัง ส่วนมดดำฟรีๆ




ไปตั้งแต่เกือบทุ่ม รอจนทุ่มครึ่งล่ะ กว่าจะได้ดู เพราะนั่งรอประธานเปิดงาน
รอไปก็คุยไป กินป๊อบคอร์นไปพลางๆ


เพิ่งรู้ว่า ฟิตเนตเซนเตอร์ที่ยาหยังไปใช้ เค้าคิดงี้
8.00-15.00 ทุกวัน เดือนละ 500 บาท
15.00-22.00 ทุกวัน เดือนละ 800 บาท
แต่ถ้าไปเวลา 8.00-22.00 ไม่ทุกวัน วันละ 100 บาท


-.- อย่างนี้จ่ายเดือนละ500 ดีกว่าใช่ไหมล่ะ
นึกแล้วอยากไปวุ้ย เหอๆ
ไม่คิดเรื่องจ่ายตังค์หรอกนะ แต่คิดว่า จะลากสังขารไปตอนไหนดีนั่นล่ะ
เพราะเวลาไม่เคยจะปกติได้ซักวัน ถ้าปรับเวลานอนได้เวลาเดิมๆทุกวันก็น่าสนนะ
เพราะเค้ามีระบบการออกกำลังกายให้.. เอ่อ.. แล้วเครื่องวิ่งที่บ้านล่ะหว่า -*-



เอาล่ะ เข้าเรื่องกายกรรมต่อ
พอประธานมา เราก็นั่งดูๆๆๆ
ดูไปถ่ายรูปไป มีทั้งหมด 16 ชุด
แต่เอารูปมาแปะไม่หมดนะ
ชอบทุกชุดนะ ดูสนุกดี ไม่น่าเบื่อ



 



 



 



 



 



 




เค้ามีเว้นวรรค5นาที ขายโสมด้วยล่ะ
ต้นละ 200 บาท จริงๆไม่ใช่ไม่รู้ว่าจะมีขาย
ก็เคยมาดูกับแม่แล้ว เมื่อหลายปีก่อน อยากจะซื้อเหมือนกัน
แต่คนแนะนำเค้าบอกว่า เหมาะกับ ผู้เฒ่าผู้แก่ หนุ่มสาวและเด็กๆอย่ากิน เดี๋ยวคึก เหอๆๆ
แล้วอีกอย่างพอจะโทรหาแม่  สายก็ไม่ว่างอีกแน่ะ ก็เลยไม่ซื้อล่ะ



ดูจบ กลับบ้าน สี่ทุ่มกว่าพอดี ง่วงจังง่ะ
แม่บอกตีสองไปนอน 555 ยังไม่ได้อาบน้ำกะอัพบล๊อกเลย แง้วๆๆ


แปะก่อน จะชิ่งได้หรือไม่ ต้องดูอีกที

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..In the Past..

เมื่อวานเข้าเวป pupe แล้วเห็นเค้าจัดฉลองครบ1ปีเวปกัน
มีของขายล่ะนะ โฮะๆๆ (อาการช๊อปแตกแหลกกระจายยยย)


ซื้อไปหลายชิ้นเหมือนกัน(เงินปลอมนะจ๊ะ ใช้ริบบิ้นง่ะ)
ได้มา2ชุดที่หรูซะไม่มี
ใส่แล้วอย่างกะนางนพมาศ - -"
(ประมาณว่า ถ้าชีวิตจริง มันราชินีช้าง กะตุ๊กตาก็หยวนๆน่า)


สนุกดี แต่จ่ายไปแยะ ^^


....


กำลังจะแต่งรูป
แต่ปวดหัวหมดล่ะ ทำ PP ซะหลายชั่วโมง
หาข้อมูลในเนตด้วย
ปวดตาหมด


ไปวิ่งสักพัก เดี๋ยวมาแต่งรูปกับเล่าต่อ..


วิ่งแล้ว 300 เมตร 555
ทำงานบ้านต่ออ่ะ
ไปวิ่งต่อๆก่อน - -



เอี๊ยดดด... พอล่ะ จะเป็นลม
ถ้าวันนี้วิ่งไม่ถึง ก็ช่างมันล่ะ ทำงานอย่างอื่นก็พอจะผลาญไปบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี


-.-


.....


ตอนทำ PP หาเนื้อเพลงไป
ได้ยินเพลงที่เคยฟังตั้งแต่เด็ก คิดถึงอดีตหลาย ๆเรื่อง



แล้วก็ยิ่งย้ำเรื่องหนึ่งให้เด่นชัดขึ้นมา
เมื่อพ่อซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝากเจ้าน้องเล็ก


เห็นห่อก๋วยเตี๋ยวแห้ง แล้วคิดถึงตอนบ้านเราทำร้านอาหารกัน
ตอนนั้น พ่อแม่เปิดร้านอาหารตามสั่ง ขายไอติมด้วย
เวลามีคนสั่งข้าวกับบ้าน แม่จะใช้คล้ายๆกระดาษไขอ่ะ แต่ไม่ใช่
เหมือนถุงพลาสติกแหละ เป็นแผ่นกว้างๆ แล้วมีกระดาษหนังสือพิมพ์รองข้างล่าง
ห่อแล้วมัดยาง เอาน้ำปลาพริกใส่ถุงอันเล็ก มัดแล้วก็ใส่ไปด้วยกัน


มันไม่เหมือนห่อก๋วยเตี๋ยวแห้งซะทีเดียวหรอก
แต่ก็ทำนองเดียวกัน คล้ายๆกัน


มันทำให้คิดถึงว่า ตอนนั้น ที่เป็นเด็ก ๆ
เวลาเอาข้าวไปกินที่โรงเรียน แม่ก็มักจัดใส่กล่องสีสวยให้
แต่ก็นึกในใจอยู่ล่ะนะ ว่าอยากใส่ห่อแบบนั้นไปมากกว่า มันดูเท่ห์ดี(คิดเอง)


แล้วก็คิดถึง รายการอาหาร ที่จำสับสน
ในบางวันที่อารมณ์ดีๆ จะเปิดเมนูอาหารแล้วก็สั่งให้พ่อทำให้กิน
มักสับสนระหว่าง ผัดน้ำมันหอย กับ ผัดเปรี้ยวหวาน
เห็นชื่อ แน่ล่ะ อย่างหลังน่ารักกว่า (ความคิดส่วนตัวของฉันนะเออ)
แต่จริงๆ ชอบผัดน้ำมันหอยมากกว่า
แล้วก็สั่งผิด เป็น ผัดเปรี้ยวหวาน อย่างนั้น เสียร่ำไป


- -" ได้มาก็ต้องกิน กินไม่หมด เดือดร้อนโดนดุ
แล้วก็ไม่เคยจำ สั่งผิดอยู่เรื่อย


ไป ๆมาๆ  กลับไปอาหารจานหลักดีกว่า
ไข่เจียวหมูสับ..... ^-^



คิดถึง แต่ไม่ได้นึกอยากจะกินหรอก แค่คิดถึงช่วงเวลานั้น
และรู้สึกว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน พ่อกับแม่ก็ยังรักฉันเหมือนเดิม..
ไม่เปลี่ยนไปเลย จริงๆ

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..New Life..

วันนี้อารมณ์ดี ดี๊ ดี ล่ะ
เพราะได้ทำงานที่ตั้งใจไว้ แม้จะไม่ตามเพื่อนไปเที่ยวก็ตามที
ขัดบันไดแล้ว แต่ไม่เสร็จหมดนะ แค่ครึ่งชั้น -.- เอาวันละนิดเนาะ



ยังไม่ได้ทำ PPเลย ไม่เห็นส่งรายการมาเลยอ่า
สงสัยต้องทำพรุ่งนี้ซะล่ะมั๊ง


...


ตอนบ่ายที่ไปล้างพรมดักฝุ่น
เลยเดินไปสำรวจสนามหญ้า
มองไปมองมา เห็นกิ่งต้นบุหงาที่แตกยอดใหม่
ดีใจสุด ๆ วิ่งกลับเข้าบ้านไปเอากล้องมาถ่ายไว้ทันที ฮ่าๆๆ




(ส่งให้เจ้าหมีต้นดูแล้วนะ เหมือนว่าวันหลังต้องปรับปรุงกว่านี้อีกหน่อย)


ตอนแรก ที่ขนลงมา ใบมันสีส้มแดงหมดแล้วอ่ะ
ฉันไม่คิดว่ามันจะตายหรอกนะ เพราะผู้รู้เคยบอกไว้ว่า
ใบมันจะเป็นงี้ล่ะ ที่แน่ๆ คงต้องเปลี่ยนดิน แล้วก็ริดใบจนหมด
ที่มั่นใจว่ามันจะไม่ตายน่ะ เพราะลองหักกิ่งดู เห็นว่ากิ่งยังสดอยู่


ยังมีชีวิตอยู่.. ไง
แต่ก็เป็นอาทิตย์ล่ะ กว่าจะแตกยอดใหม่



....


ตอนห้าโมง ง่วงนอนมาก
กลับขึ้นไปบนห้อง ไม่ได้ไปนอนหรอก
ไปร้อยเปลือกหอยต่อ ได้แค่ไม่กี่อัน ไม่ไหวเลย
มันร้อยยากใช้ได้เลยนะ แล้วฉันก็ปากหนัก ไม่บอกพี่เค้าสักคำว่า ทำยากมาก


- -"


สงสัยว่า อีกเส้นจะเสร็จก่อน เพราะแค่ร้อยลูกปัดกับคริสตัล
ไว้ค่อยกลับไปเก็บงานอีกนิดหน่อย ก็เสร็จล่ะ
ที่เหลือก็ปล้ำกับเจ้าเปลือกหอยต่อไป - -"

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Stay at Home..

ง่วงอ่ะ ไม่อยากบ่นว่าง่วงตอนเริ่มเล่าเรื่องเลยนะ
แต่ง่วงจริงๆอ่ะ



-.-


....


เมื่อเช้าชิ่งไปนอนตอนตีสามกว่า ๆได้
ตื่นอีกทีสิบเอ็ดครึ่ง
แล้วก็ลงมา กินขนมจีนกับไก่ย่าง
แล้วไปทำงานต่อ หมดไปเกือบ 2 ชั่วโมงกับงานแม่บ้าน
ก็ดีนะ ไม่ได้ล้างมุ้งลวดซะนาน พอไปแกะปุ๊บ ตัวยึดแตกปั๊บ
- -" ซึ้งซะไม่มี มันนานแล้วน่ะ


เออ เดี๋ยวจดก่อนว่าต้องไปเปลี่ยนให้ห้องไหนบ้าง
-*- ลืมแล้วนะเนี่ย แง่ว ๆ


 


อ่อ..
ตอนเย็น แตงโทรมา ไม่ได้รับ
โทรกลับ เค้าถามชื่อ คริสเต็นว่า เขียนยังไง
แล้วก็เขียนการ์ดเอาของขวัญไปให้ แหม ช่างน่ารัก อิอิ


แล้วก็คุยกันพักใหญ่ๆ
แตงชวนไปน้ำตกร้อนห้วยโต้ พรุ่งนี้อ่ะ
ฉันก็รีบปฏิเสธเลย จริงๆอยากชวนไปโลตัส งิงิ อยากไปเดินช๊อปปิ้งเฉยๆ-*-
จะได้ซื้อหรือไม่นั้นอีกเรื่อง อยากเที่ยวแหละ แต่ไม่อยากไปทรหดอดทน -.-
เพราะรู้ดีว่า กลับมาต้องอยู่จนเช้าอีกเหมือนทุกวัน


วันนี้งานเยอะด้วยมั๊ง นี่ทำเอาง่วงตั้งแต่หัวค่ำเลยอ่ะ




ฮือ... ไอ้อยากไปก็อยากไปนะ
ไม่เคยไปสักที อยากไปถ่ายรูป กับเอาน้ำกลับบ้าน กร๊าก
เอาไว้ล้างผมหลังสระ -.- ประมาณว่า  ล้างความเป็นด่าง กรด อะไรทำนองนั้นแหละ
แต่งานเยอะวุ้ย ล้นมือเลย นี่ยังไม่ได้ทำ PP ของอาทิตย์นี้เลยอ่ะ เฮ้อออ...



.....



ตอนนี้ปวดท้อง ปวดมากๆๆๆๆ
เหมือนอาการแสบกระเพาะจะกลับมารบกวนอีกครั้ง
ทั้งที่ก็กินเผ็ดได้ติดต่อกันมาตั้งหลายวัน


หรือเพราะวันนี้ ฉันกินแต่เผ็ดตลอดวันก็ไม่รู้
เที่ยงกินขนมจีน ยังเคี้ยวพริกสีขาวตามไปอีกหลายเม็ด-.-
(ชอบจังกะพริก เคยคิดขนาดว่ามีลูกจะให้ชื่อ พริก เล้ย ก๊าก)


ตอนห้าโมง กินส้มตำเจ้าข้างบ้าน เค้ามาเปิดใหม่อ่ะ
แทนที่คนขายของกิ๊ฟช๊อปที่มีเรื่องร้ายๆ เมื่อปีที่แล้ว
จะว่า ไปส้มตำปูปลาร้าของเค้าอร่อยนะ แซ่บอีหลี 555


แล้ว แซ่บๆ เนี่ย ก็ทำปวดท้องอีกรอบ



ฮือ..ฮือ...ปวด..


 


 



 

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..React..

ช่วงนี้ไม่ค่อยมีรูปถ่ายประกอบมาก
(รูปอื่นที่ไม่ใช่ฉันน่ะนะ)
ไม่ค่อยมีเวลาด้วยมั๊ง งานเยอะ จนบางครั้งก็รู้สึกว่า ..


เวลาว่างของฉันอยู่ตรงไหน?




-.- คิดมากไป ไร้สาระ


(เพราะมันว่างนี่ไง ถึงได้อัพบล๊อกได้ 555)


....


วันก่อนอ่านเรื่อง 90/10
คือ สภาพแวดล้อมรอบตัวเรา 10% ที่เราควบคุมไม่ได้
อีก 90% ที่เหลือ คือการตอบสนองของเราต่อสถานการณ์ต่างๆ


ถ้าตอบสนองแบบ ใส่อารมณ์ ก็จะบ้าไปตามนั้นแหละ
แต่ถ้าไม่ นิ่งซะ คิดก่อนจะเอ่ยปาก
ที่แน่ๆ คำพูดก็ไม่ทำร้ายใครเข้าก่อนเป็นอย่างแรก
ที่ตามมา คือ เราจะมองแง่มุมดีๆ ได้เห็นมาก
เพราะไม่เอาใจไปขุ่นกับอารมณ์ร้อนๆ




เพราะงี้ เวลาที่รู้สึกว่า กำลังจะวีนแตก
ก็จะหุบปากไว้ และมองว่า 90% นั้นอยู่ที่ฉันนะ
ถ้าแหกปากไป อะไรมันจะดีขึ้น จิตก็ตก ใจก็เสีย คนรอบข้างก็เซ็ง
มีแต่แย่กับแย่


....


ช่วงนี้ แม่ดูแลครอบครัวเพื่อนครัวหนึ่ง เป็นแม่กับลูก3คน
สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหา สามีไปมีคนใหม่ เรื่องเจ็บปวดและเสียใจ
 มันไม่ใช่จะหายง่ายๆ
ต้องการเวลา เพื่อน และกำลังใจ


คงจะอีกพักใหญ่ๆ ล่ะนะ กว่าจะผ่านไปได้จริงๆ


 



 

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Seriously..

วันนี้ตั้งใจจะทำงานให้ได้เยอะที่สุด
ตื่นสิบเอ็ดครึ่งล่ะมั๊ง มีสายเข้า มองเห็นว่า เบอร์ส่วนตัว
ตอนแรกคิดว่า เหมือนฝัน แต่ไปมาๆ หรือจะเป็นนายน้องชาย
ก็เลยรับ ......


แล้วก็เป็นโปรโมชั่นของ โทรต่างประเทศ โทรไปอเมริกา นาทีละ 1.50
แล้วได้แถมโทรฟรีทั่วโลก 30 บาท ... แต่ยังไม่ทันฟังเงื่อนไขอะไร
เค้าจะให้กด 1 ฉันกดวางหู


-.- ง่วง โทรมาเสนออะไรตอนนี้
แต่ทีหลังก็นึกเสียดายนะ น่าจะฟังเค้าพูดก่อน -*-
นิสัยเสีย เป็นงี้ซะเรื่อย อะไรดูไม่เข้าที(ตรงไหน?) ตัดสายหนีตลอด เหอๆๆ
...


ลงมาก็เที่ยงกว่าแล้ว
แต่ไม่มีข้าวกิน พ่อเพิ่งอุ่น ใส่น้ำเข้าไปเต็ม เหอๆ
เลยไปรอข้าวอุ่นด้วยการกวาดร้าน (หรือโรงรถ)
ทำเสร็จ กลับเข้ามาในบ้าน ข้าวร้อน ก็วิ่งไปทำงานต่อ


แบบนี้..อย่างนี้.. วนไปวนมา จนกินข้าวแล้วก็ไปทำงานต่อ
ก็ดีนะ ได้กวาดได้ถูโรงรถซะบ้าง หินขัดดำรอยล้อรถหมดแล้ว -*-


เหลือขัดบันได ทำไปไม่กี่ขึ้นเอง ปวดหลังชะมัด เหอๆ
งี้แหละ หนักพุง -.-


.....



ที่ทุ่มเท ทำงานทั้งหมด และตั้งใจจะทำให้มากแบบนี้ทุกๆวัน
ก็เพราะอยากจะผลาญแคลอรี่ซะบ้าง งานในบ้าน บางทีมันน้อยนิด คือล้า แต่ไม่มีเหงื่อ ไม่เวิร์คๆ
อีกอย่าง เค้าบอกว่า ทำงานบ้าน 20 นาที ผลาญได้ 100 กิโลแคลอรี่(ป่าวหว่า)
ก็ทำมันซะวันละ 2 ชั่วโมง ที่เหลือทำอย่างอื่น ก็น่าจะได้แหละ


คิดอยากไปวิ่งที่สวนฯ ก็คงไม่ได้ ช่วงนี้ พ่อแม่มีธุระออกนอกบ้านตอนเย็นเกือบทุกวัน
ที่ติดๆกันเนี่ย ทุกวันเลยมั๊ง -.- อยู่เฝ้าบ้านน่ะไม่เป็นไร หาอย่างอื่นทำก็ได้
วิ่งกะเครื่องวิ่งก็ได้ 555 ........(แต่หล่อนหยุดไปสองวันแล้วนะยะ -*-)



อีกอันที่เพิ่มเข้ามาอย่างจริงจัง คือน้ำ
รู้สึกผิวแห้งมาก จะเพราะอยู่ในห้องแอร์มากไปไหมก็ไม่แน่ใจ ก็คงใช่แหละ
แต่ฉันดื่มน้ำน้อยไปจริงๆ  ตั้งงบวันละ 10 แก้ว
วันนี้ยังดื่มไปแค่ 6-7 แก้วเลย -.-



ไปดื่มต่อล่ะ

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Howsoever..

เมื่อคืนลืมไปว่ายังไม่ได้อัพบล๊อก
คิดว่าพิมพ์ไว้แล้วซะอีก 555


เบลอจัด -.-


นอนตีสามกว่า
แต่ซึ้งจริงๆ อาบน้ำเย็นนอนเนี่ย มันไม่ช่วยให้หายร้อนเล้ย
ต้องอาบน้ำอุ่นซินะ -*- ในคืนร้อนๆ ต้องอาบน้ำอุ่น ฮึ่มๆ จะจำไว้


ตื่นแปดโมง ลงมาอยู่โยงจนสี่โมงเย็น
ก็ดีนะ ไม่ค่อยง่วงมาก แต่ซึม ๆ


..



อืม.. วันก่อนพ่อถามขึ้นว่า จะขายจักรมั๊ย
เค้าจะไปฝากบอกพี่เก๋บอกขาย (คิดขาย5พัน แกจะเอากำไรเท่าไหร่?-*-)
ซื้อมา 3-4 ปีแล้วมั๊ง เกือบๆ 4 ปีแหละ
8,000 ไม่ค่อยถ้วน เพราะซื้อหลอดไฟมาใส่ทีหลัง


ที่แน่ๆ ใช้ไม่คุ้ม เพราะฉันขี้เกียจรบกับข้าวของกลางบ้าน
ถ้าจะลากมาใช้แต่ละที แทบจะต้องเก็บที่นอนของแม่เลย -*-
ไอ้ครั้นจะแบกขึ้นไปบนห้อง แม่ไม่เห็นด้วย100% เพราะไม่ได้ใช้เวลาบนห้องมาก


จริงๆแล้ว มันไม่ใช่ใช้หรือไม่ใช้เลยนะ สำหรับฉันอ่ะ
ที่อยากได้ ปล้ำขอให้แม่ซื้อ ก็เพราะอยากจะมีเป็นของตัวเอง
รู้สึกว่า สำคัญ และอยากจะทำงานด้านผ้าได้จริงๆ
แต่พอมีจริงๆ มันกลับตรงกันข้าม ดันบ้างานลูกปัด ซึ่งก็บ้ามาก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว
อาจเพราะ ไม่ใช่งานที่ต้องนั่งกับที่มั๊ง คือมันเป็นงานชิ้นเล็ก แบกไปไหนมาไหนได้
ทำขายปุ๊บ ได้เงินเลย แล้วการประดิษฐ์เครื่องประดับมันก็เป็นอะไรที่ฉันชอบด้วย


แต่.. การมีจักร มันทำให้ฉันคิดเรื่องงาน แตกออกไป เหมือนที่แม่พยายามส่งเสริม
เรื่องไปเรียนตัดเย็บให้เป็นเรื่องเป็นราว มันก็มีนั่นล่ะ
อาจเข็ดกับครูคนที่สาม ซึ่งก็ไม่ควรเป็นสาเหตุหลัก


ฉันอาจต้องใช้เวลาทบทวนตัวเอง
อยู่นิ่งๆ สงบใจอธิษฐานซะบ้าง
การวางแผนชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ ที่แม้บางครั้ง เร่งไม่ได้ ก็ไม่ควรปล่อยให้ช้าเกินไป
มันจะกลายเป็นเฉื่อย และสับสนเสมอ กับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ



- -

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..ตามใจตัวเอง..


ปกติแล้วที่นี่จะใช้ บีจีสีดำเสมอใช่ป่ะ
ประมาณว่า พื้นหลังกลมกลืนกัน
แต่จากที่เคยเขียนมาในระยะเวลาอันยาวนาน ยอมรับว่า ตัวเองชอบสีขาว
เพราะวางรูป ภาพง่าย ยิ่งพวกการ์ตูนแล้ว ง่ายมากๆเลย
ส่วนภาพที่แต่งเอง พอใส่ Drop Shadow ยิ่งดูมีมิติเพิ่มขึ้นอีก(คิดเองมั๊งอ่ะ)


พอหันมาใช้สีดำสนิท ก็สบายตาดี อ่านง่าย มองมากๆ ไม่ละลานตา
(แต่ของตกแต่งข้างบล๊อกมันก็ชวนอ๊วกแล้วววว...-.-)


 


....


จริงๆ วันนี้ไม่มีอะไรพิเศษ
ฉันแค่สับสน คิดว่าเป็นวันเสาร์
แล้ววันนี้ก็ตื่นบ่ายมาก ปาไปบ่ายสองครึ่ง
ตื่นมาปวดหัวหมดเลย ฝันเลอะเทอะ เยอะแยะ (เพราะกินงานเลี้ยงเยอะไปป่าวนะ)


แต่เรียกได้ว่า ตื่นสายมาก เพราะพ่อขึ้นมาปลุกบนห้อง
ส่วนแม่ก็โทรมาตามซะไม่รู้กี่สาย


-.-


พอลงมาก็เลยรู้ว่า ต้องเฝ้าบ้านน่ะนะ จะไม่มีคนอยู่บ้าน เหอๆ


....


พอล่ะ พ่อเอางานพิมพ์มาให้กองเบ้อเริ่มเลย เยอะจริงๆนะเออ
-*- บอกว่าไม่เร่ง แต่ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แถมด้วยประโยค


"พ่อรู้ว่าลูกทำได้เร็วกว่า นั้น"(นั้นที่ว่า คือ เสร็จวันมะรืน)


-.- คอยดูสิ จะไปเก็บค่างานจากแม่ ฮ่าๆๆ
(รังสีความงกแผ่กระจาย เอิ๊กๆๆๆ)

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Welcome Dinner..

แปะเนื้อเพลงเสร็จแล้ว ในPPอ่ะนะ
ยังเหลือใส่รูปกับก๊อบท่อนที่ซ้ำกัน


โอย เมื่อยคอ ง่วงนอน อ่อนล้า 555
แต่ต้องไปล้างจาน กะอยู่ไปจนกว่าจะถึงเวลานอน
-.-



เสร็จล่ะ แต่งานยังไม่เสร็จ พรีเซนเทชั่นกับงานพิมพ์
ดีนะ พ่อไม่เร่ง -*- แต่ก็ถามบ่อยๆแหละว่า เสร็จยัง เหอๆ


...


ตอนเย็นที่โบสถ์มีงานเลี้ยงต้อนรับดอนน่ากับอ.เดฟ
แกมาถึงเมื่อวานตอนหัวค่ำ แม่ไปรับอ่ะ พ่อก็จะไปแต่รถเต็ม
- -"


วันนี้เค้ามีงานเลี้ยงตอนทุ่มนึง
โทรไปชวนแตงตั้งแต่บ่ายสอง
แล้วก็โดนแคนเซิลตอนห้าโมงเย็น
แล้วก็โทรมาบอกว่าไป หลังจากนั้น -.-


เอาน่ะ เพื่อนไปด้วยสุดจะน่าสนุก หุหุ


ไปรับตอนหกโมงสิบห้า แต่แตงอยู่ในเมือง ไปส่งพี่แพงที่โรงพัก
ระหว่างรอแตงกับพี่ปัท ก็เลยเดินไปคุยกับคริสเต็นแล้วก็มาดาม กับ มดดำ
มดดำเพิ่งหายไข้ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลวันจันทร์เองมั๊ง
วันอังคารก็กลับมาไออีก ดูผอมลงไปเลยอ่า
พอยื่นถุงขนมให้ ก็เลือกกินใหญ่ 555 เด็กน้อยชอบขนมไส้สตอร์เบอรี่
จะจำไว้ๆว่า ถ้าจะซื้อขนมแบบนี้จะเลือกไส้รสนี้ไปฝากล่ะ



พอแตงมา ก็ขึ้นรถกันไป
ไปถึงก็ยืนคุยกับ เพื่อนของดอนน่าอยู่พักใหญ่ๆ 555
อังกฤษ สายพันธุ์มั่วนิ่ม ลอยละล่องเต็มเหยียด -*-
แบบว่า บางคำนึกไม่ออกเลย แล้วที่ฟังเค้า บางคำมันเป็นศัพท์เฉพาะ(หรือเปล่า?)
แล้วฉันก็มึนแล้วมึนอีก แต่น่าสนุกดีนะ หันมองหน้าพี่ปัทกับแตง คิดว่า เข้าใจกันแหละ
แต่ไม่ค่อยจะเปิดปากพูดเลย - -" (หรือเราจะแย่งเค้าพูดหมดก็ไม่รู้)




ตอนกินก็ไม่พูดพล่ามอะไรมาก เหอๆ
อร่อยดี วันนี้กับข้าวเยอะ 
จริงๆถ่ายรูปไว้นะ แต่ไม่มีแรงเอามาเล่าในบล๊อกแล้ว เหนื่อยจังง่ะ


กินเสร็จก็ไปนั่งคุยกับยาหยัง ยาหยังตามมาทีหลัง หลังจากเรียนเสร็จ
ล้างจาน กลับมาคุยอีกรอบ โม้ๆ เล่าๆๆ ฟังๆๆ



กลับบ้าน ..โอ้เย้



....



ปัจฉิมลิขิต วันนี้วาเลนไทน์เนาะ
ได้ข้อความหนึ่ง ซึ่งทำให้มึนไปครึ่งวันว่า แปลว่าอะไร
ภาษาไทยนี่ล่ะ แต่ก็คิดว่า หยอดไปงั้นๆล่ะมั๊ง 

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

..Lady’s Slipper Fair..

เพราะเมื่อวาน คุยกับแม่ไว้ว่าจะไปงาน "เหลืองกระบี่บาน"
เป็นงานประกวดดอกกล้วยไม้น่ะ
วันนี้ก็เลยรีบตื่นเร็วหน่อย จับของฝากใส่ซองเอาไว้ด้วย
ทำแหวนไว้อีกวง แต่ยังไม่ได้ส่งให้หรอก เก็บสะสมไว้ก่อน



ลงมากินขนมจีน
แล้วก็ออกจากบ้านบ่ายสองครึ่งได้มั๊ง เกือบๆบ่ายสามแล้วล่ะ
ด้านนอกงานมีต้นไม้ขายเยอะมาก ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผลก็มี
(แต่ไม่ได้เดินดูนะ เข้าไปด้านในก่อนอ่ะ)


เดินดูสินค้าหลายร้าน ผ่านไปที่เต๊นท์ของกรมประมง กับสถานีวิจัยพันธุ์ข้าวด้วย
ถ่ายรูปไว้แหละ แต่ไว้ค่อยแปะวันหลัง
วันนี้ขนรูปกล้วยไม้หลากสายพันธ์มาให้ชม(หรือจะติดีกัน)


 


 


*คำเตือน โหลตกระจายนะค๊า ฮาๆๆ 41 รูปน่ะ


 



[พ่อบอกว่า พันธุ์แวนด้า (ถ่ายจากร้านหนึ่งด้านหน้า]



[พันธุ์ไรว้า.. 555 แต่น่ารักดีนะ]


 



[คัทลียา แต่ต้นนี้จะ100นึงหรือเปล่าก็ไม่รู้]



[ไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบพันธุ์ แต่น่ารักดี ]



[นางเอกของงานล่ะ รองเท้านารี ก็ Lady' Slipper นี่ล่ะค่ะ อันนี้ เหลืองกระบี่นะ]



[ชอบดอกนี้มากมาย เหมือนพลาสติกเลย แต่ของจริงนะ]


 



[ต้นนี้อ่ะ ชอบสุดๆ อยากเลี้ยง เหอๆ พันธุ์ไรยังไม่รู้จักเลย-*-]


 



[สีสดจริงๆ แม่ชอบแบบนี้ด้วย แต่สีนี้ปวดใจไปนิด 555]


 



[น่าร๊ากกกกก]


 



[ไม่มีคำบรรยาย ]


 



[ลอกด้านบนอีกที "ไม่มีคำบรรยาย" ]


 



[ชอบสีนี้ด้วย ขรึมดี ดูจริงจัง ..พูดถึงต้นไม้หรือนี่?]


 



[ลักษณะคล้ายผีเสื้อ น่ารักมากๆเลย พวกช้างๆ หรือเปล่าหว่า หรือจะหวาย -*-]


 



[คัทลียาค่ะ งดงาม งามแท้ๆ อยากได้ๆๆ]


 



[คัทลียาอีกสี อันนี้ก็สวย โอ้ววว ช๊อบบบ]


 



[ชอบกลีบ สีเหลืองก็สวยดี แต่ ไม่โดนใจเท่าไหร่]


 



[คัทลียา อีกสี (เยอะจังหว่า พันธุ์นี้ หามาหลายสีแล้วน่อ)]


 



[นี่ก็ชอบ ชอบฟอร์มของมัน ]


 



[คัทลียาอีกสี เหอๆ สวยนะ มีหลายสีในดอกเดียวเนี่ย]


 



[ชักจะเอียนเองล่ะ คัทลียาอีกล่ะ เหอๆ สวยดีหรอก -.-]



[สวย จัง ]


 



[สวยจัง (มีคำอื่นไหมหว่า จะชมให้แปลกๆไป ยังอีกหลายรูปเลย]


 



[เป็นแถว เป็นแนว เค้ามีป้าย ห้ามจับดอกไม้ด้วยนะ มีทหารเฝ้าด้วยอ่ะ เหอๆ]


 



[อันนี้อะไรไม่รู้ ช้างแดง หรือเปล่าหว่า คืออ่านชื่อบ้าง ส่วนใหญ่วิ่งตามแม่ชี้แล้วถ่ายตาม]


 



[ไม่รู้จักชื่อ แต่สวย -.-]


 



[ไม่มีคำนิยาม (หลังๆจะก๊อบอันนี้ไปแปะล่ะ -*-)]



[สีน้อยหน่อย แต่สวยล่ะ ]


 



[ไม่มีคำนิยาม (เอาแล้วไง555 เดี๋ยวต้องมีแบบนี้อีกแน่ๆ)]


 



[ถ้าใช่ช้างกระ ฉันก็ไม่หน้าแตกที่คิดแบบนั้น ]


 



[หรือจะหวาย ..หว่า 555 เศร้าจริง ถ่ายแต่รูปไม่จำชื่อไว้ซะบ้าง]


 



[พันธุ์นี้เป็นพวงยาวย้อยถึงพื้น สวยค่ะสวย]


 



[ดอกมันมีกลิ่นหอมด้วยนะ (แบบใกล้ๆของรูปบน)]


 



[ต้นนี้แม่ชอบเป็นพิเศษ สีขาวด้วยมั๊ง ฟอร์มก็สวยด้วยล่ะ]


 



[ฉันชอบสีนี้ เพราะทำให้คิดถึงกุหลาบวาเลนไทน์ที่เพื่อนเคยให้]


 



[เริ่มเป็นรองเท้านารี พันธุ์ต่างๆแล้ว มีหลายพันธุ์อ่ะนะ ]


 



[ดูนางเอกของงานอีกครั้ง(ทำไมไม่เรียกพระเอกล่ะ)ถ้าต้นขายในร้านไม่สวยเท่า ต้นละ500]


 



[ถ่ายแบบ ซูม ๆ อยากให้เห็นว่า เหมือนรองเท้าจริงๆนะเออ น่าร๊าก]


 



[รองเท้าฯเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เหลืองกระบี่]


 



[คำบรรยายเหมือนภาพข้างบนง่ะ]


 



[อันนี้สีหวานดี เหมือนรองเท้าลายน่ารักๆ]


 



[เดินทางมาจนจบแล้ว เย้ๆ เป็นรองเท้าฯอีกพันธุ์จ้า ]


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 



เนื่องจาก จำชื่อพันธุ์ไม่ได้ทุกอัน เลยขออธิบายเฉพาะรูปที่จำได้ล่ะกันนะ
-.- (เค้าเรียก มุขมักง่าย 555)



....


ดอกไม้สวย แต่ไม่ได้สอยกลับมาบ้านบ้างเลย
ที่ขาย ต้นเหมือนกับคัทลียา ก็ต้นละ 100 บาท
(แต่คิดว่า ถ้าต้นที่ได้รางวัลจริงคงจะแพงกว่านั้น)


 


......


อ่านเมลล์ของน้องชาย
ไม่สบายงั้นเหรอ -*- ทำไมเวลาถามในเอ็มก็มักตอบว่า สบายดีทุกที
ไข้หวัดมันไม่เกรงใจใครหรอก กินวิตามินซีเยอะๆ ทำตัวให้อบอุ่นเข้าไว้
แต่คิดว่า ตอนนี้ก็คงจะเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว.. เนาะ


 


 


ปัจฉิมลิขิต วันนี้เนตแย่มากเลย ล่มวันแห่งความรักหรือไงนะ 555
มีคนมาอวยพรหนึ่งคนล่ะ คนที่ไม่คาดคิดซะด้วย เหอๆๆ (ยังดีๆ)

Related Posts with Thumbnails