“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..Choose..

ถ้าฉันไม่มีเวลานอน แต่ง่วง จึงบ่นว่า "ง่วง"
ถ้ามีเวลานอน จะไม่ยอมเสียเวลามานั่งบ่นเลย ..ไปนอนดีกว่า


แต่ทุกครั้งที่พูดว่า "ง่วง"
จะมีคนไล่ให้ไปนอนทุกครั้ง


ก็อย่างที่ขึ้นต้นไว้ ถ้าไปได้จะไม่เสียเวลามาพูดให้ฟัง  -.-


แต่วันนี้ไม่ง่วงนะ หลับหนีน้องตั้งแต่แปดเก้าโมงถึงบ่ายสาม
-..- (มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวจริงๆ 555)


...


แต่ก็เพราะความง่วงนี่แหละ เลยทำให้ไม่ได้อัพบล๊อกเมื่อวานไป
ทั้งที่ไม่ได้นอน แต่ทำงานอ่ะนะ กะเล่นเกมส์ (เคยคิดจะเลิกบ้างม๊ะนี่)
PP เสร็จไปแล้ว พิมพ์คู่กันก็เสร็จแล้ว
ฉันไม่บ่น ถ้าแม้จะมีเนื้อหาเยอะ มีจำนวนมาก ไม่เป็นไร
จะได้เพิ่มแฟ้มสำรองที่ยังขาดอยู่ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
คือ ไม่ว่ายังไง จะช้าหรือเร็ว มันก็ต้องทำ ต้องหา ต้องมี ..อ่ะนะ
(งงม๊ะ.. งงต่อไป อิอิ)


...


ช่วงนี้รู้สึกว่า มีสนามรบอยู่ในความคิด
แล้วก็เอ๋อจังนะ พูดถึงชื่อหนังสือยังผิดเลย ที่กำลังอ่านอยู่น่ะ
คือ สนามรบในความคิด ไม่ใช่ สงครามในความคิดอย่างที่ฉันบอกไว้เมื่อวานนี้


ความจริงแล้ว สนามรบในความคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
คงไม่จำเพาะเจาะจงจะเลือกช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
หลักการที่ฉันได้เรียนรู้จากผู้เขียน คือ คิดแง่บวก กำจัดความคิดแง่ลบ
และเหตุผลจอมปลอมทุกประการ .. กำจัดยังไง ก็มองที่ความรักพระเจ้า
เรารู้ว่าพระเจ้ารักเรา เป็นสิ่งที่พระคัมภีร์บอก อาจารย์สอน ฟังคำเทศนากันมานาน
แต่เราสัมผัสถึงความรักของพระเจ้าจริงๆแล้วยัง
ถ้าเจอจริงๆแล้ว ชีวิตเราก็ต้องเปลี่ยน เพราะจริงๆชีวิตเราถูกสร้างใหม่แล้ว
ตั้งแต่วันที่เราตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด



credit photo : Love11


แล้วทำไมชีวิตเราไม่ค่อยเปลี่ยน ยังดูลุ่มๆดอนๆ ไม่เสถียรภาพในความเชื่อ
ก็เพราะยังไม่สนิทสนมกับพระเจ้าเพียงพอ ไม่สนิทพอจะเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า
"พระเจ้าเป็นความรัก และความรักชนะทุกอย่าง แม้แต่ความกลัว"


แล้วจะสนิทได้ยังไง จะเข้าใกล้ได้ยังไง
ฉันได้คำตอบนี้ จาก ชั้นเรียน พพช. เมื่อเช้าวันอาทิตย์


ก็ด้วยการอ่านพระวจนะของพระเจ้า
"มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้
แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า"
               
                                     มัทธิว4:4


และอีกข้อที่ตอบคำถามว่า ทำไมต้องบำรุงด้วยพระวจนะ
นั่นก็เพราะว่า...



" เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตาย
และทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ
แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก
และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย "
                                               ฮีบรู 4:12


ถ้าชีวิตเราเต็มไปด้วยพระคำ การภาวนาพระเจ้าอยู่เสมอ
เมื่อลูกศรเพลิงของพญามารผ่านเข้ามาในความคิด เราก็มีโล่ความเชื่อป้องกัน
และทำลายความคิดชั่วร้ายนั้นด้วยพระวจนะของพระเจ้า


เป็นเรื่องง่าย ที่คริสเตียนอย่างฉันมองข้าม
ฉันเขลา แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ว่าอย่างไร พระองค์ก็ยังทรงรักฉันเสมอ
เพราะความจริง พระองค์อยู่กับฉัน สถิตย์อยู่กับฉันเสมอ
ที่ไม่ได้ยินเสียง เพราะเราไม่ได้ฟัง ไม่คุ้นเคยกับพระสุรเสียง เพราะใส่ใจสิ่งไร้สาระอยู่
และเพราะเราเลือกมองความช่วยเหลือแบบโลก ..แบบที่ตามองเห็น


...


ถึงเวลานี้ ฉันอาจใช้เวลากับอินเตอร์เนตน้อยลง
ฟังเพลงที่ไม่ใช่เพลงนมัสการพระเจ้าน้อยลง
เพราะฉันอยากสัมผัสกับความรักของพระเจ้าอย่างแท้จริง
อยากใช้เวลาไปกับการอ่านพระวจนะ แทนที่จะอยู่กับความคิดที่ว่า


"ว่าจะ..ว่าจะ.. อยากจะ.อยากจะ"


ฉันไม่อยากเดินวนอยู่ในถิ่นทุรกันดารอีกแล้ว
แต่ถ้าแม้จะต้องเจอการทดลอง ฉันก็เชื่อว่า มันจะไม่เกิดผลเสียกับฉันแน่
เพราะเชื่ออย่างสุดใจ ว่าจะปลอดภัยในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์



ปล. วันนี้ก็ยังไม่ได้เล่าเรื่อง สนามรบในความคิดอยู่ดี ..
ขึ้นต้น แล้วก็ขมวดปมจบ(หาข้อสรุปในความคิดของตัวเองอยู่น่ะนะ)
เอาเป็นว่า อ่านจบก่อน แล้วจะมาแบ่งปันให้ฟัง :)

Related Posts with Thumbnails