“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

..real life..

เกือบหกโมงอีกแล้ว
ทั้งที่ง่วงมาก แต่ก็ไม่ได้นอน
นั่งทำพรีเซนเทชั่นสำหรับวันอาทิตย์นี้


คิดว่าเสร็จแล้วนะ เหลือแค่เลือกภาพมาใส่แบคกราวน์


............


วันนี้ฉันเจออะไรเยอะจัง
ยิ่งนานวันก็ยิ่งพบว่า พระคัมภีร์พูดความจริงทุกเรื่องอย่างแท้จริง
พระคัมภีร์บอกว่า ในเรื่องความชั่วจงเป็นอย่างทารก
แต่เรื่องความดีจงเป็นอย่างผู้ใหญ่..


ฉันผ่านความอึดอัดในหลายเรื่อง
ทั้งจากปากที่เยาะเย้ย
อาจคิดว่าตัวเองผ่านพ้นพวกเด็กชอบล้อเลียนในโรงเรียนมาแล้ว
หมดวัยเรียนแล้ว รอบตัวก็ผู้ใหญ่ผู้มีศีลธรรมกันทั้งนั้น
แต่ก็ไม่ใช่อีกนั่นล่ะ .. เมื่อแท้ที่จริง คนเราก็ซ่อนตัวเองไว้ใต้เปลือกหนา


นึกสงสัยไม่น้อย.. อะไรกันที่ขับเคลื่อนชีวิตของเค้า
ความกลัวหรือเปล่านะ .. กลัวตาย จนต้องลุกขึ้นมาทำอะไรๆ
กลัวที่จะมีไม่เท่าคนอื่นรอบตัว กลัวนั่น กลัวนี่ กลัวไปทุกสิ่ง
หรือจะเพราะอะไร..


เรื่องถัดมาเชื่อมโยงกับเรื่องแรก
เมื่อฉันต้องเลิกนิสัยหลบหนีปัญหาซะที
ความรู้สึกลำบากใจ เหนื่อยหน่าย เบื่อและรำคาญก็เกาะกุมไว้ซะแน่น
แต่ถ้าฉันยังเป็นอย่างที่ผ่านมา
ฉันก็คงจะไม่ได้เข้าใจการพึ่งอยู่ในพระคุณพระเจ้าจริงๆ


ก็ถ้าคนเรามันเก่งนัก ความดีที่ทำกันมานมนานคงจะพาไปสวรรค์ได้
และคุณงามความดีเหล่านั้นก็คงจะมีส่วนช่วยบำบัดและควบคุมจิตใจเราได้ล่ะสินะ
แต่นี่มันไม่ใช่ ถ้าเราไม่ยอมรับว่า เราเป็นมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่อ่อนแอและโง่เขลา
เราก็จะไม่ยอมรับว่าโลกนี้มีพระเจ้า และพระองค์เท่านั้นที่คือคำตอบของทุกสิ่ง
และเพราะพระองค์ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น.. แค่ปัญหาอันเล็กน้อยของเรา
ทำไมเราจะต้องซุกมันไว้ใต้พรม หลบหนีแสร้งว่าไม่มีอะไร ..ทำไปทำไม
เพื่ออะไร ไม่ได้อะไรเลย พระเจ้าไม่พอพระทัยที่เห็นลูกของพระองค์มี"หน้ากาก"หรอก


เรื่องสุดท้าย ฉันไม่ได้แก้ปัญหาอย่างที่ควรแก้
เพราะฉันกลัว กลัวการถูกปฏิเสธ
ฉันเป็นพวกที่กลัวเหลือเกินกับการถูกปฏิเสธ
หนังสือรากแห่งการปฏิเสธของ จอยซ์ ไมเออร์ เขย่าใจฉันมาตลอด
ฉันนึกอยากจะพูดความจริงที่ก็คือความจริงออกไป
แต่เชื่อเถอะว่า มันเหมือนแอลกอฮอล์สำหรับคนแผลเน่า
เค้าไม่ได้อยากหาย และไม่อยากแสบด้วย
(ก็แล้วฉันจะต้องห่วงทำไมเนี่ย -*-)
แต่ฉันก็ไม่สามารถทนให้ผู้ที่รักฉันต้องเสียใจเพราะฉันอีกแล้ว
ไม่ต้องการให้พระเจ้าผิดหวังในตัวฉัน ..
ฉันเลือกที่จะบอกด้วยประโยคเรียบง่าย แต่ก็ทำให้ทุกอย่าง(น่าจะ)ยุติ


แต่รากถูกปฏิเสธมันก็ผุดขึ้นมาอีกเมื่อฉันพูดออกไป
ทว่า ฉันค้นพบว่า พระเจ้าปกป้องฉันไว้จริงๆ ปกป้องไว้จริงๆ
จากปัญหาและการทดลอง


จากความรู้สึกแรกที่คิดว่า .. ไม่น่าพูดเลย แต่มันอึดอัดและหงุดหงิด
และท้ายที่สุด เราก็คงจะไม่มีใครต้องการ
แต่ตอนนี้ฉันกลับพบและทราบซึ้งในพระคุณพระเจ้า
พระองค์ทรงเป็นโล่ล้อมในชีวิตฉันอย่างแท้จริง



..ฉันไม่สามารถเขียนเล่าอย่างตรงไปตรงมาในบันทึกของตัวเองได้
แต่แน่นอนว่า ฉันตรงไปตรงมากับชีวิตและจิตใจของฉันได้.....


นั่นต่างหากที่สำคัญ


............


เข้าโหมดเรื่องกิน&จิปาถะ


วันนี้พ่อไปชุมพร ตอนแรกคิดว่าจะให้แม่ไปด้วย
คือ แรกเลยฉันก็อยากให้เค้าไปกันนะ แต่แม่ยืนยันว่า ไม่ไปหรอก ไปไม่ได้
แล้วพอตอนเช้า ก็นึกห่วงพ่อ เพราะพ่อต้องขับรถกลับมาคนเดียว มือเดียว
แต่ฉันน่ะ มันลบความคิดที่จะเห็นแก่พ่อ ห่วงพ่อ ไปแล้ว
คิดเหมือนเดิม เหมือนที่เคยเป็นมา ใครจะไปไหน ไงซะบ้านนี้ต้องมี
ผู้ใหญ่อยู่ 2 คน เพราะมีนายน้องนั่นล่ะ


แต่ พอพ่อแม่ทำท่าว่าจะไปทั้งคู่
ฉันก็เกิดอาการ เซ็งกินขึ้นมา
ร้องไห้(ร้องทำไมฟะ?) หน้าตาบึ้งตึง
เริ่มคิดแง่ลบงี่เง่า ว่า สุดท้ายก็งี้แหละ ฉันเฝ้าบ้าน เลี้ยงน้องคนเดียว
แต่พ่อเป็นห่วง เพราะว่าฉันอยู่ทั้งคืน นั่งพิมพ์เอกสารเพิ่งเสร็จตอนเช้า
เลยให้แม่อยู่ ส่วนพ่อจะตัดสินใจใช้ความเชื่อ พ่อจะกลับมาเองได้


ความรู้สึกว่า ตัวเองงี่เง่าไม่สมอายุก็ผุดขึ้นมาอีก
-*- ยิ่งใครแสดงความรักกับเรา ความห่วงใยและเมตตา
ก็ทำให้เรารู้ตัวว่า เรารักคนอื่นน้อยมาก นี่คนในครอบครัวนะ
ฉันต้องเรียนรู้ที่จะรักคนอื่นให้ได้เท่าตัวเอง ..เรียนรู้จากคนที่รักเรานี่ล่ะ



ตอนเย็น พี่แอนซื้อน้ำเต้าหู้มาฝาก
แม่กินไปแล้ว เหลือของฉันแช่เย็นเอาไว้
เมื่อตีสี่กว่าก็เลยไปแกะใส่ผสมกับเม็ดแมงลัก แล้วหั่นกล้วยหอมใส่ไป2ลูก
อิ่มมากอ่ะ ขอบอก กินก็ไม่หมดถ้วย อิ่มสุดยอดเ
ลย



ส่วน ลาเวนเดอร์ร้องไห้อะไรในรูปนี้
ก็มี๊ลืมจัดงานวันเกิดให้ลาเวนเดอร์ไง -.-
แบบว่ามันยุ๊งยุ่ง อาทิตย์ก่อนงานเยอะ อาทิตย์นี้ก็งานแยะ
สรุปว่า..... ไว้หาของขวัญเจอก่อน ค่อยว่ากันอีกที
ระหว่างนี้ก็ให้จัสมินปลอบใจไปพลางๆ ..


มี๊ยังไม่ว่าง !!!

Related Posts with Thumbnails