“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551

..There is more happiness in giving than in receiving..

Merry Christmas จ้า
วันนี้วันคริสตมาสแล้วนะ
แต่เวลาไทยมันเลยมาแล้ว 555


เมื่อคืนมัวแต่ดูรูปตุ๊กตาจนหลอน
ลืมส่งข้อความหาเพื่อนๆเลย -.-


............


เมื่อเช้าก่อนไปนอนก็บอกแม่ไว้ว่า
 ถ้ายังไม่ลงมาตอนบ่ายครึ่งให้โทรปลุก
แม่ไม่โทรอ่ะ นอนลืมไปเกือบบ่ายสาม
 -.-



ตื่นลงมา พี่ๆมากันเต็มบ้าน
ชวนชิมบางส่วนที่ทดลองทอดกันใหญ่
แต่ตอนนั้นยังขาดข้าวเหนียวดำ กินดูก็อร่อยดี ไม่สิ อร่อยมาก
แต่สียังไม่ค่อยสวยนะ



 



จนข้าวเหนียวดำสุกนั่นล่ะ สามแม่ครัว แม่ พี่ปอ พี่ปู ก็บรรเลงกันใหญ่
นึ่งไข่เค็มไข่แดง แล้วก็เอาไปห่อด้วย
 ส่วนผสมทั้งหมด มีหมูสับ กุ้งสับ ปลา เนื้อไก่
(สับทั้งนั้นอ่ะ ขี้เกียจพิมพ์คำว่า สับ ไปทุกอัน -.-)
แล้วก็มีงาดำ งาขาว คั่วให้หอมก่อนแล้วผสมลงไป
มีข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวขาว ด้วย อืม.. แต่แปลกดี
อาจเพราะมีส่วนผสมของเนื้อเยอะ เวลากินไม่รู้สึกเหมือนกินบ๊ะจ่าง
แต่เหมือนกิน Meatball



น้ำจิ้มก็ทำจากน้ำมะขามเปียก ไปเชื่อม
(อันนี้ไม่รู้เหมือนกันนะ ถนัดกินไม่ได้ทำ)
พี่ปอทำเสร็จตั้งแต่ฉันยังไม่ตื่นด้วย -..-



เค้าเริ่มทำกันตั้งแต่สาย ๆ กว่าจะเสร็จจานแรก
จานที่จะให้คนได้จริงๆอ่ะ ก็เกือบห้าโมง
พี่ปูเป็นแผนกจัดห่อ ช่วยกันกับฉัน กับพี่เจมส์
เลยเข้าใจแล้วว่า จานไบโอที่ไม่ทำลายธรรมชาติ จริงๆมันห่ออาหารไม่ค่อยได้เรื่อง
-..- มันอ่อนยวบเลยตอนห่อ ไม่ค่อยเป็นทรวดทรงนัก
ปีหน้า พี่ปูบอกว่า จะเอาจานพลาสติกล่ะ -..- ซื้อยกให้เค้าไปเลย



credit paper+elements = Sentimental Style
ดูรูปแล้วนึกอยากกินกันไหม อิอิ
มีความหมายของอาหารจานนี้ด้วยนะจ๊ะ
จากรูปด้านล่างเน้อ ใส่รูปเล็ก อยากเห็นชัดๆคลิกไปดูกันนะคะ


 


King of kings



ส่วนการ์ด ก็ไปเอามาจากเวปของ   Thomas Kinkad
เป็นงานปั้น Nativity ของเค้าอ่ะ ชอบมากเลย แต่ไม่ได้ซื้อมานะ
ไปเอารูปเค้ามา -..- เค้าจะมาเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์เค้าป่าวหว่า



รายแรกที่จัดให้ไปคือ อ.ศักดิ์ดา
 แกเข้ามารับลูกพอดี แม่โทรตามให้มารับไป


รายที่สองคือบ้านน้า เอาไปให้ที่บ้าน แล้วส่งกระเป๋าจิ๋วให้ด้วย
 น้าเค้าเกิดวันนี้ด้วยอ่ะ


คนที่สาม คือ อานิจ พ่อกับพี่เจมส์เอาไปฝาก
คนนี้จัดไปขนาดย่อม ปกติแต่ละบ้านจะได้10-11ลูก
อานิจได้แค่4 แกอยู่คนเดียว กินไม่เยอะ เดี๋ยวจะบ่นว่ามากไป


คนที่สี่ โรน่า เดินผ่านหน้าบ้านพอดี 555
พ่อเลยชวนให้รอ แม่ให้ไปไม่กี่ลูกเหมือนกัน แกกินไม่เยอะ


คนที่ห้า คือ มาดามฟิลเลียกับครอบครัว
ตอนแรกแม่จะเอาไปให้ที่บ้าน
แต่แกออกมาซื้อของข้างนอก แม่เลยให้แกแวะมาเอาที่บ้านแทน


รายที่6 ได้เยอะกว่าเพื่อน 2 จานแน่ะ
เป็นบ้านคุณจารุวรรณ แม่ฝากให้พนักงานเค้าด้วย
พอดีว่า ร้านแว่นตาปิดดึก พนักงานเลยได้กินด้วย อิอิ


รายที่ 7 เอาไปฝากถึงโรงพยาบาล
พี่อ๋อยเจออุบัติเหตุหลายวันก่อน แขนหักสามท่อน
แม่พูดถึงพี่เค้าตั้งแต่วันที่เรารู้ว่าเค้าประสบเหตุแล้วว่า
ถ้าทำอาหารตำนานคริสตมาสจะเอาไปฝากเค้า เพราะเค้าคงไปฉลองที่ไหนไม่ได้
แล้วแม่ก็พูดถูกจริงๆนะ พอฉัน พ่อ พี่เจมส์ไปถึง แกก็ดีใจมากเลย
บอกว่า เมื่อกี้เพิ่งจะกินอาหารแล้วอ๊วกออกมาหมด ยังคิดอยู่ว่า อยากได้อะไรรองท้อง
พอเห็นที่พวกเราถือเข้าไป กับการ์ด ก็ดีใจมาก น้ำตาไหลเลย
(คนนี้ยังไม่หมด เดี๋ยวเล่าต่อ เพราะไปหา2รอบในวันเดียว)


รายที่8 พ่อแม่และยายของพี่เจมส์
ให้แล้วก็รีบกลับ เพราะต้องมารอแม่ครัวกลับไปอาบน้ำที่บ้าน


พอกลับมาบ้าน เลยคุยกันว่า พี่อ๋อยจะกินจอมราชันย์ไม่ได้หรือเปล่า
เพราะมันมีส่วนผสมของไก่กับไข่ จะทำให้แผลยิ่งแย่
แม่เลยให้พ่อทำข้าวต้มปลาให้ แล้วแม่ก็รีบอาบน้ำ ใส่เสื้อแดง
นั่งรถไปกับพี่ๆ กลับไปบ้านพี่เค้า พี่ๆเค้าไปอาบน้ำกัน แล้วก็เอาจานที่9 ไปฝากเพื่อนบ้าน


หลังจากนั้น เราก็กลับไปโรงพยาบาลกัน
อ่อ รอบแรกที่เอาการ์ดกับจอมราชันย์ไปน่ะ ฉันไปกับพ่อกับพี่เจมส์แค่นั้น
แต่รอบหลัง พี่ๆไปกันหมดแล้วก็ฉันกับแม่ด้วย
เราไปนั่งคุยกับพี่อ๋อยอยู่พักใหญ่ เอาข้าวต้มปลาไปฝาก ร้องเพลงอวยพร
แล้วก็อธิษฐานเผื่อ


............


การไปเยี่ยมพี่อ๋อยในคืนวันคริสตมาสครั้งนี้
ทำให้ฉันรู้สึกถึงข้อพระคัมภีร์ที่ว่า
"การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ" จาก กิจการ20:35
เพราะทุกครั้ง ที่ไปร้องเพลงแครอลลิ่ง เราจะไปร้องเพลงให้เค้าฟัง
แล้วรับของกิน ของขวัญ ของฝากจากบ้านนั้น
ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอกนะ แต่ร้องให้คนปกติ ที่ใครๆก็มาร้องให้ได้
ทำสิ่งดีให้กับคนที่เค้าตอบแทนเราได้ .. มันก็เทียบไม่ได้เลย
กับการทำให้กับคนที่เค้าตอบแทนอะไรเราไม่ได้
เทียบไม่ได้เลยกับน้ำตาแห่งความปลื้มปิติของเค้า


พี่อ๋อยแกเล่าว่า วันนี้เป็นวันคริสตมาสใช่ไหม
แกก็อธิษฐานของพระเจ้าว่า แกอยากได้ของขวัญอะไรบ้าง
รู้สึกอยากได้การหนุนน้ำใจน่ะนะ แต่ก็รู้ว่ามันคงจะยาก
เพราะที่โบสถ์เค้าจัดงานฉลองกัน คนคงจะไปร่วมงาน
จะมาเยี่ยมแกที่โรงพยาบาลก็คงยาก(คือเค้าไปกันก่อนแล้วไง -.-)


แล้วพอแกมองเห็นเราเปิดประตูเข้ามา ในมือมีจานอาหาร
มีการ์ด แกก็ดีใจมากเลย คำแรกที่แกพูดคือ
"พระเจ้าน่ารักจริงๆเลย"


ทุกอย่างที่เราทำ ทุกสิ่งที่เราตั้งใจทำดี
เราไม่ต้องการเอาความดีให้กับตัวเอง
คำสรรเสริญที่มนุษย์ให้เรามันก็เท่านั้น
แต่การที่คนเห็นว่า เรามาเพราะความรักของพระเจ้า
มันทำให้เราเองก็รู้สึกมีกำลังใจมากๆ


อย่าว่าแต่พี่อ๋อยเค้าร้องไห้เลย .. ร้องกันหมดแหละ ที่ไปกันน่ะ
เราทราบซึ้งว่าพระเจ้าทรงรักเค้านะ พี่เค้าเจออุบัติเหตุร้ายแรงนะ
แขนหักตั้ง3ท่อน แต่เค้าไม่ว่าพระเจ้าสักคำ เค้าเข้มแข็งมาก
ชีวิตเค้ามีพระเจ้าอยู่ด้วยอย่างแท้จริง
ทุกอย่างในชีวิตของเราไม่ว่าดีหรือร้าย พระเจ้าซ่อนพระคุณไว้เสมอ
พระองค์ปรารถนาให้เราขอบพระคุณพระองค์เสมอ
มันคือการแสดงว่า เราไว้วางใจพระองค์จริงๆ
เชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยเลยว่า พระเจ้าทรงรักเราเสมอ และจะไม่ทอดทิ้งเรา



:)


คริสตมาสปีนี้เป็นปีที่ฉันมีความสุขมากที่สุด ตลอดชีวิตของฉัน.. จริง ๆนะ

Related Posts with Thumbnails