วันเกิดเจ้าหมีต้นล่ะวันนี้(เมื่อวานของไทย)
คิดว่าน่าจะอัพทันนะ ยังเจ็ดโมงเช้าอยู่เลย
จำไม่ค่อยยาก เพราะวันรุ่งขึ้นก็วันเกิดพ่อฉัน
^0^
แต่เรื่องที่รู้สึกว่า มัน อืม.. ค้างคาใจ (รึป่าว)
คือ เมื่อไม่เห็นนาฬิกาปลุกเหมือนเคย
ฉันคิดว่า ฉันก็คิดถึงทุกคนที่เคยเห็นกันแล้วอยู่ๆก็หายไป..นะ
แต่ก็นั่นล่ะ สำหรับ"นาฬิกาปลุก"
ฉันเคยบอกไปเองแล้วหลายครั้งว่า ไม่ต้องปลุก
บอกตรงๆว่า ไม่ได้เกรงใจนาฬิกาปลุก แต่เกรงใจเจ้าของ
ต้องให้เน้นป่ะ......... เจ้าของ .. อ่ะ
มันคงไม่ดีนัก ถ้าเราคิดไปเองว่า คนที่ดีกับเรา จะมีแค่เราเท่านั้น
เพราะในความสัมพันธ์ระหว่างคนแต่ละคน มันมีรายละเอียดมากมาย
ทุกคนย่อมหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
และทุกคนย่อมหาคนที่ยอมรับในตัวเขาได้จริงๆอยู่เสมอ..
ถ้าคนนึงเฉยๆ กับการก้าวข้ามคำว่า เพื่อน
มันก็เหมือนการยืดเวลา ..ต่อเวลา..ไว้ สำหรับอีกคน..
แต่ถ้ามีอีกคนที่ยินดีกับความรู้สึกดีๆที่เขามีให้
ก็ไม่แน่นะ.. เขาก็จะไม่เหงา เลิกเหงา..มันก็คงดีใช่ไหมอ่ะ
แต่ก็นั่นล่ะ ฉันก็แค่สับสนกับตัวเอง
เพราะสิ่งที่ทำให้ฉันไม่กล้าจะก้าวไปคือ
กำแพงของความเชื่อ ถ้ามันไม่เหมือนกัน มันไปด้วยกันยาก
เราถูกสอนไม่ให้เชื่อในความรู้สึกและอารมณ์
เพราะทั้งสองพาเราไปสู่การทดลองและทำให้เราห่างเหินจากพระเจ้าได้
คนที่รักพระเจ้าและรักเรา จะช่วยเสริมสร้างจิตวิญญาณให้กับเรา
ลืมไป..ว่า ชีวิตของเราไม่ใช่ของเราอีกต่อไป แต่เป็นชีวิตที่พระเยซูไถ่ไว้แล้ว
ด้วยพระโลหิตที่หลั่งบนไม้กางเขนนั้น.. ไถ่ไว้ด้วยราคาอันสูง
จะปล่อยให้การดำเนินชีวิตไหลไปตามอารมณ์..ไม่ได้
อื้มๆๆๆ เขียนตอนต้นด้วยอารมณ์หวั่นไหว
จบท้าย ด้วยความจริงที่ฉันแอบลืมไป ..
ไปล่ะ แอบมาเขียนตอนเช้าวันอาทิตย์