“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

..David's Mighty Man Camp 2009 -2-..

ตกลงว่าเลื่อนนัดกับยาหยัง ไปเป็นวันจันทร์ตอนเที่ยง
(ฉันต้องตื่นให้ได้ก่อน 11.30)




งานเข้า แต่ดีกว่าวันนี้แหละ ฝนก็ตก คนก็ป่วย(ยาหยังเด้อมิใช่ฉัน)



เข้าที่พักกันไป แม่กับน้านิดออกไปซื้อของกิน
ฉันก็อยู่กับเด็กสองคน ตอนแรกกลอรี่หลับ ไม่เป็นไร
สักพัก กลอรี่ตื่น แต่ดีที่เดินอุ้มกลอรี่ไปๆมาๆในห้อง หันไปอีกที
นายน้องเมย์ก็หลับต่อ(ทั้งที่หลับมาแล้วตลอดทาง)



ผลก็คือ คืนนั้น ตีหนึ่งลุกมากินข้าว -..-
พาให้ฉันลุกขึ้นมาเล่นถ่ายรูป เล่นเกมส์มือถือ ฯลฯ
จนตีสี่ ไม่ไหวล่ะ ง่วงอ่ะ พ่อมาดูต่อให้ พาน้องไปเข็นรถทั่วที่พักเลย ฮ่าๆ


ตอนเช้า ตื่นจะเจ็ดโมงล่ะ คนอื่นอาบน้ำแต่งตัวกันจะหมด -.-
รีบอาบน้ำแล้วกินข้าว ช่วยจัดการน้องเรียบร้อยก็ไปที่ห้องประชุมกัน
เจอลูกแกะ(ลูกแกะ: เป็นศัพท์เรียกคนที่อยู่ในการดูแลเลี้ยงดูในทางพระเจ้า)เก่าของแม่ด้วย
 ตอนนี้พี่เค้าเป็นภรรยาผู้นำอยู่ที่นครปฐม พ่อของพี่เค้าไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว4ปี
ฉันชอบลุงเค้ามากนะ ตอนเด็กๆ เคยไปอยู่โบสถ์ทางภาคอีสาน สนิทกันมาก
ไม่ได้ติดต่อกันนาน ข่าวคราวตกหายไปหลายปีเลย :)



ฟังทั้งคำสอน คำพยาน และคำเทศนา
เป็นอะไรที่สุดๆดีจริงๆ คือตอนเดินทางมาเราก็ว่าเราจะท้อล่ะนะ
รถเสีย อยากซ่อมแล้วกลับบ้าน -..- แต่ก็ยังมาต่อ
พอมาถึง คำเทศน์และการได้พบปะเจอผู้รับใช้พระเจ้าหลายท่านก็หนุนใจเรามาก



พอเที่ยงกลับมาพักที่ห้องพัก
มีกิจกรรมเข้าฐานทดสอบความเชื่อ ความกล้า ฯลฯ
ไม่ได้เข้าร่วม เพราะลูกเด็กเล็กแดงนี่ล่ะ
(พ่อไปเข้าร่วม กลับมาบอกว่าสนุกมา ฮ่าๆ เสียดายเน๊าะ)



ช่วงกลางคืนก็มีการเทศนาอีก อจ.พูดถึงอีก15จังหวัดที่ยังไม่มีคริสตจักร
ท่านท้าทายใจพี่น้องคนไหนที่มีภาระใจอยากจะทำพันธกิจให้ออกไป
ส่วนใหญ่จะเป็นทางเหนือและอีสาน ที่เคยมีคริสตจักรอยู่ แต่ด้วยอะไรหลายอย่าง
ทำให้ที่เคยมีก็ไม่มี แต่ไม่เป็นไรหรอก
พระเจ้าอวยพรผู้ที่ทำเพื่อพระองค์ด้วยความจริงใจอยู่แล้ว


 


 


เช้าวันที่สาม ไปกันเร็วกว่าวันแรก ทั้งที่ต้องเช็คเอาท์เลยนะ
แต่เตรียมตัวไว้ตั้งแต่กลางคืนไง กับน้องนอนหลับดีตลอดคืนด้วย
(เพิ่งรู้สาเหตุว่า อยากนอนคนเดียว -.-
เฮอะ รู้งี้ไม่ไปขอแย่งที่นอนด้วยหรอกย่ะ)


พอไปถึงห้องประชุม พ่อแม่ได้รับคำเชิญให้ไปคุยกับภรรยาอจ.อีกห้อง
เลขาเค้าก็มาเข็นรถนายเมย์เข้าห้องไปด้วย -.- ตามเค้าไปเฉยเลย
แต่ไปนั่งพักนึงก็ออกมาดีกว่า ไปห้องประชุมใหญ่จะได้ฟังเทศนา ได้เรียน
ตอนเข็นรถออกมาไม่ได้สังเกตุเลยว่ามีอะไรตกหล่นบ้างหรือเปล่า
มีคนมาช่วยเก็บ MP3 ของเมย์ให้ ตกอยู่ล้อจะทับล่ะ
พอไปนั่งที่นั่ง เพิ่งจะเห็นว่ารองเท้าน้องหล่นหายไปข้างนึง
งานเข้า.... อยู่ดีไม่ว่าดีจะเป็นซินเดอรเรลเมย์ซะงั้น


ฟังเทศนาอจ.ได้ยินพระคัมภีร์ข้อนึง
" ถ้าเจ้าเชื่อ เจ้าจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า"
ฉันก็ตัดสินใจจะเชื่อว่า รองเท้ามันจะไม่หาย จะเก็บกลับคืนมาได้
ฟังเทศจบ ไม่ทันรออะไรต่อล่ะ งานเข้าอีกเรื่อง ท้องเสีย -.- ต้องเอาเด็กไปฝากแม่
เลยเข็นกลับ ตลอดทางก็มองหารองเท้า แต่ไม่มีวี่แววเลย
พอไปถึง ก็บอกแม่ว่ารองเท้าหาย แต่ห้ามพูด(บ่น)
 แล้วบอกให้ไปดูใต้โต๊ะที่เมย์ไปนั่งเมื่อกี้
อยู่จริงๆ เจอจริงๆ .. ขอบคุณพระเจ้าค่ะ ฉันเชื่อ ฉันจึงได้เห็น *0*


แต่งานเข้าๆยังไม่จบ เพราะตอนจะกลับบ้านเนี่ย ปวดท้อง ท้องเสียอ่ะ
คือตลอดเส้นทางเค้าแวะกันปั๊มไหน ฉันลงด้วยตลอด T^T
แต่ก็รอดมาจนถึงบ้านได้ตอนตีสาม
จริงๆตลอดทาง เหนื่อยมาก พ่อจะเริ่มไม่ไหวตอนเที่ยงคืน
(ปกติพ่อนอนไม่ดึก) ส่วนน้านิดก็เลี้ยงลูกมาตลอด พักน้อยเหมือนกัน
เรียกว่า ขากลับ ถึงบ้านด้วยพระคุณพระเจ้าเลย เพราะหมอกเยอะมาก
คนขับก็หมดแรงกันหมดแล้ว ขับแบบเบลอๆมาจนถึงจนได้


เป็นประสบการณ์ที่ฉันได้เรียนรู้ การไว้วางใจพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจ



คิดว่ามีอะไรจะเล่าอีก แต่ไว้ก่อนเนาะ
พรุ่งนี้ไปโบสถ์กับพ่อแม่ด้วย ไปจัดเสื้อผ้าให้ท่านน้องก่อน


 


>> ติดตาม การเดินทางไปค่ายวีรบุรุษดาวิดภาคแรกได้ที่นี่ <<

Related Posts with Thumbnails