“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

..meet old friend..

จะตีห้าแล้ว ตอนนี้สภาพคือตาแดงมากมาย
มันง่วงจริงๆนะ จะนอนก็ได้ แต่ขออัพบล๊อกก่อน
มีเรื่องราวจะเล่าเยอะแยะ ......


...

เมื่อเช้าพ่อมาถึงตอนเกือบแปดโมง
ขึ้นไปอาบน้ำก็ลงมาจัดการเตรียมรถเลย
แล้วก็กินข้าวเช้า จริงๆกินกันสามคน พ่อ แม่ น้อง
ส่วนฉัน ... ไม่นอนทั้งคืน ยัดอะไรไม่ลงจริงๆ
ได้กาแฟแก้วเดียว แต่ยังไหวเพราะได้สไปซีที่แม่จัดให้
กรอกปากแล้วเทน้ำตาม .. สู้ว๊อยยย




ออกเดินทางเกือบสิบโมงแล้วมั๊ง
กะว่าถึงก่อนบ่ายสอง
แต่เรื่องมันเยอะกว่าที่คิด..


รอบแรก น้ำมันจะหมด อ่ะ ไปเติม
พอออกจากปั๊มสักพัก ต้องเติมน้ำมันเครื่อง
หาปั๊มอีก ได้น้ำมันเครื่องมาเติม ถ่ายไม่ได้








แวะซื้ออาหารน่าอร่อยไปกิน(พ่อเน้นซื้อให้ฉันกับน้อง)
ร้านนี้พี่อ๋อยเล่าบ่อยว่าอร่อยงั้นงี้
คราวนี้เลยลองซื้อมาชิมซะหน่อย
เค้าขายกล่องละห้าสิบบาท ข้าวก็เยอะดีนะ แต่กับไม่มากมาย
จุดดีคือเค้ามีผักเหนาะให้มาด้วย




เรามาแวะกินข้าวกลางวันกันที่ปั๊มที่พังงา
ซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดกับไส้กรอกมากินเพิ่ม
ก็งี้แหละ บอกให้ซื้อมาให้ครบก็ไม่ซื้ออ่า ฮ่าๆ
เลยต้องมากินของไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ แต่ก็อิ่มล่ะนะ
คนกินเยอะสุดเห็นจะไม่พ้นนายน้อง ฉันกินอะไรเป็นต้องขอ
เป็นอันว่า ยกให้หมด ผัดเผ็ดกวางยังจะกินเล้ย


ออกจากปั๊มก็เหลืออีกครึ่งทางแล้ว
พอเข้าประตูเมืองภูเก็ตสักพัก มีอันต้องจอดพักจะหาเติมน้ำหม้อน้ำ
แต่ไปจอดหน้าร้านหม้อน้ำพอดีเล้ย
เค้าเลยอาสาจะเปลี่ยนถ่ายน้ำอะไรทำนองนี้ให้
ก็เสียเวลาอยู่สักพักนะ ตอนอยู่ในร้าน สตาร์ทมันก็ไม่มีอะไรแจ้งหรอก
จ่ายไปห้าสิบบาท ขับออกมาแป๊บเดียว ขึ้นแจ้งเลย เหอๆ
พ่อก็กะว่า ต้องไปให้ถึงโรงแรมที่แพนพักสักทีจะได้จอดรถพักยาว




แต่.. การไปป่าตอง ไม่ใช่เรื่องหมูๆนัก
ตอนแรกโทรถามทางพี่อ้วน อ่ะ เลี้ยวไปถูกทางแล้ว
ขึ้นเขา ลงเขา แต่ไปไม่ถูกสักที โทรถาม แพนก็รบกวนให้คนแถวนั้นช่วยบอกทาง
คนนั้นบอกงั้น คนนี้บอกงี้ เรานี่มึนตึบ
ตั้งแต่ถามตำรวจจราจรก็ยังไปผิด ถามวินมอไซด์เค้าก็ว่ายังไม่ถึง
ถามร้านค้า บ้างก็บอกไม่รู้จัก .. วนกันหลายรอบ
ปวดฉี่ด้วยนี่สิ หนักหนาสาหัส
พ่อเลี้ยวรถไปซอยไหนสักแห่งนี่ล่ะ
เค้าถามเด็กปั๊มหรือคนแถวนั้นอีกรอบ มีคนบอกว่าอยู่แถวธนาคารนั่นนี่
แต่รถยังไปไม่ถึงไหน พ่อก็จอดก่อน หม้อน้ำมันแย่แล้ว
ก็เลยลงจากรถกับแม่ วิ่งไปฝั่งตรงข้าม เห็นเป็นร้านอาหารตามสั่งกับพวกของชำ
กะว่าจะซื้อของสักหน่อยแล้วขอเข้าห้องน้ำ
แต่ฉันมองไม่เห็นประตูห้องน้ำอะไรเลยสักบาน
มันเหมือนแผงขายอาหารริมถนนซะมากกว่าเป็นร้าน
เลยกลับมาฝั่งที่รถจอด ..
แม่นี่บอกเลย "ไปฉี่ใส่ถุงไป "
ไม่ใช่ผู้ชายนะแม่ !! แล้วจะให้ลุกถอดกางเกงปลดปล่อยในรถเนี่ย จะทำตรงไหน??
ตัวยิ่งเล็กๆ อยู่ด้วย ฮ่าๆๆ




เลยเดินไปที่ร้าน เบย์ชอร์ รีสอร์ทแอนด์สปาร์
ไปถามขอเข้าห้องน้ำเค้าเฉยๆงั้นล่ะ เห็นแล้วว่ามีห้องน้ำตรงนั้นเลย
เค้าก็เชิญเลย ไม่เก็บค่าบริการด้วย
โอย ..สวรรค์ ขอบคุณค่า
ออกจากที่นี่ก็ไปหลงอีกรอบ
เลยพอเถอะ รออยู่ริมหาด เลือกสักที่ที่เป็นจุดเด่นพอให้เป็นสัญลักษณ์กันได้
แล้วแพนก็จ้างวินมอไซด์แถวนั้นมาขับนำไป .......


แล้วก็นั่นล่ะ กว่าจะได้เจอกัน ฮ่าๆๆ
สงสารแพนด้วย ยืนรอหน้าปากซอยซะเป็นชั่วโมง
เราก็มึนอย่างมาก เมืองนี้เข้าแล้วพางงจริงนะ
มันวนๆกันก็เหอะ แต่มีซอกเล็กซอกน้อยเยอะ


...

ดีใจมากได้เจอแพน ฉันว่าเค้าก็ไม่เปลี่ยนไปมากนักจากที่เจอกันตอนม.สี่
เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอ่ะใช่ อ้วนขึ้นแต่ก็น้อยกว่าฉันนะ




ไปรับของฝากจากเค้าด้วย สองลังเชียวแน่ะ
ของฝากจากแพน ส่วนใหญ่เป็นผลงานจากการจัดสอนวิชาชีพของเค้า
พวกยาหม่อง น้ำมันเหลือง อะไรๆทำนองสปาน่ะ




นี่ของคนฝากยังบอกว่า เดี๋ยวจะส่งตามกลับมานะ ยังมีอะไรอีกมั๊งที่เค้ายังสั่งไม่ได้
แต่ว่าที่ที่พักเค้ามันไม่ค่อยเป็นส่วนตัว คุยอะไรกันไม่ได้มาก
อีกอย่าง น้องก็นอนรอในรถร้อนตับจะแตกแล้ว










เลยชวนกันไปนั่งริมชายหาด เปิดประตูหลังให้ลมพัด
ฝากน้องไว้กับพ่อ แล้วก็เดินไปคุยกันที่หาดกับแพน กับแม่
ฟังประสบการณ์ของครูกศน.ที่มีอะไรๆเยอะแยะ
รับรู้เรื่องราวของเพื่อนเก่าที่โน่น บางคนจากไปแล้วด้วยสาเหตุนั่นนี่
บางคนยังอยู่ บางคนสวย บางคนเก่ง บางคนป่วย บางคนเจริญก้าวหน้า
สารพัดจะรับฟัง เหมือนเวลามันไม่พอเลยนะ
อยากคุยนานกว่านั้น แต่เป็นห่วงพ่อที่ไม่ได้นอนพัก
ถ้ากลับบ้านเย็นจัดจะไปติดค่ำ ดึก พ่อจะแย่ก่อน


ก็เลยแยกย้ายกันกลับ .. ที่มาก็เหมือนหอยทีแล้วใช่ป่ะ
ใช้ปาก ถาม ถาม ถาม
ขากลับก็ไม่พ้น เพราะมึนจริงๆนะ แทนจะไปออกจากเมือง
ดันจะเข้าเขตฉลองซะงั้น (บ้านพี่อ้วนป่าวหว่า.. เกือบได้ไปแวะ ฮ่าๆ)
ดีที่ถามคนขับมอไซด์แถวนั้นก่อน ไม่งั้นหลงกันยาว


แวะไปกินข้าวเย็นที่ปั๊มเดิมอ่ะ ตอนจะสองทุ่มได้
แล้วก็เหมือนเดิม แม่ซื้อข้าวกล่องให้คนละกล่อง
ของน้องนี่เค้ากะจะซื้อไส้กรอกให้กิน แต่พ่อไม่ยอมซื้อให้
คือมันไม่มีผักแล้วไง รู้สึกว่าได้แต่ไส้กรอกเดี๋ยวไม่ดี
ซึ่งสุดท้ายก็อย่าไปสนเลยว่าจะได้ไส้กรอกรึป่าว
เพราะมาขอกินข้าวกล่องฉันอีกตามเคย ...


กลับถึงบ้านก่อนสี่ทุ่มมั๊ง หรือสี่ทุ่มกว่า แบบว่าลืม
ตอนนี้ตีห้าครึ่ง เค้านอนกันหมดแล้ว
ขนาดฉันที่ไปต้มมาม่ากินตอนตีสาม ยังมีรายเดิมขอกิน..หมด
รายนั้นที่ว่าก็ยังหลับแล้วเลย
เหลือแต่ฉันนี่ล่ะมั๊ง .. เดี๋ยวจะไปสลบ ฮ่าๆ
แบตไม่เต็มไม่ลุกอ่ะ เอิ๊กๆๆ(สองวันแล้ว มันคล้ายจะบินได้แล้ว)


...

สำหรับเหตุการณ์สารพัดในวันนี้
ฉันขอบคุณพระเจ้าที่ให้การเดินทางไม่ต้องราบรื่นไปทุกเรื่อง
เราอาจไม่เจอฝนหนัก แต่ก็ได้เรียนรู้ที่จะต้องรอบคอบกันมากขึ้น
และต้องมีสติปัญญา ถ้ารอให้วินมอไซด์มารับตั้งแต่แรกก็เจอกันนานแล้ว


สำคัญมากในวันนี้ที่ได้รับ คือ ได้พักผ่อน(จริงป่ะนะ?)กันทั้งครอบครัว
ได้เดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน ..
ได้เจอเพื่อนเก่า และยังคงเป็นเพื่อนจนปัจจุบัน


ปล.อัพร้านเสร็จก่อนแล้ว .. ได้ทำตามที่ตั้งใจ รู้สึกสบายใจ
ยังขาดภาพอัพเดตร้านมนตรา
******** เจริญจริง พิมพ์แล้วลืมอัพ เฮ้อ ....อัพล่ะนะๆ

 

 

Related Posts with Thumbnails