“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

..Faith Day..

แปดโมงจะครึ่ง พิมพ์ตั้งไว้ก่อนล่ะกัน
รออีกหน่อย ยังไม่เสร็จธุระ


...

ความที่วันเสาร์นอนตอนบ่ายตื่นค่ำไปอีกรอบ
คืนวันเสาร์เลยอยู่ยาว .. ยาวแค่ไหน ยาวจนสี่ห้าโมงวันอาทิตย์




ตอนเช้าอาบน้ำแต่งตัว เพิ่งรู้สึกจริงๆนะว่า นอนไม่พอ แพนด้ากลบยากมาก
คิดว่าซาแมนต้า(STC)จะแค่โอเว่อร์ไปซะอีก
"การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ผู้หญิงอย่างเราๆ รู้ดีว่า เครื่องสำอางค์ดีแค่ไหนก็กลบไม่มิด"
ว่ากันไป ปิดไม่มิดยังไม่หนักเท่า ถ้านิ่งปุ๊บ ลอยไปเลย ฮ่าๆๆ
ก็เลยต้องแอคทีฟกันตลอด






เช้านี้สอนเด็กๆทำตุ๊กตาจากขวดยาคูลท์ .. ให้สมกับที่อุตส่าห์เก็บขวดไว้
สนุกกันใหญ่ ตอนแรกจะให้เค้าทำเป็นตัวแทนตัวเอง
แต่ท่าทาง .. อยากทำตุ๊กตาผู้หญิงกันทั้งนั้น ก็จัดไปล่ะกัน












ทำแล้วให้ตั้งชื่อเสียงเรียงนามด้วยนะ แต่ละคน ตั้งกันไป๊..
เสร็จแล้วให้เรียนพระคัมภีร์ ท่องข้อพระคัมภีร์สั้นๆ
รู้สึกเอสจะสมาธิลดน้อยถอยหลัง . ..แปลกใจจัง ตั้งแต่ไปอยู่กับย่า
เกมส์ก็ไม่ได้เล่น แต่เหมือนอาการสมาธิสั้นเหมือนจะหนักกว่าเก่า
บางทีเด็กก็มีความเครียดเหมือนกันเนอะ.. ไม่ได้ว่างถามอะไรมากด้วย




เพราะรีบทานข้าว ตอนบ่ายมีโปรแกรมไปบัพติศมาในน้ำตั้งสี่คน
จริงๆฉันมองท้องฟ้าแล้วไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ... แต่เลื่อนมาหลายอาทิตย์แล้ว
แถมอาทิตย์นี้ พ่อเทศนาเรื่องการใช้ความเชื่อด้วย
เลยได้ใช้ความเชื่อกันเต็มๆเลยงานนี้...


...

ก็ตอนออกไป ฟ้าแค่ครึ้ม แต่พอเลี้ยวเข้าเส้นคลองจิหลาดเท่านั้นแหละ
เห็นฟ้าครึ้มทะมึนมาแต่ไกลเลย
ไม่นานฝนก็เทลงอย่างหนัก หนักจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า
แต่ทุกคนมีความเชื่อว่า ไปถึงฟ้าจะแจ้ง...





















แจ้งจริงๆ แจ้งว่า เมฆฝนขอไปเที่ยวที่อื่นสักพัก ฮ่าๆๆ แต่จุดเดิมที่เคยใช้คลื่นมันแรงมาก เลยไปใช้บริเวณหน้าอุทยาน
ตรงนั้นเป็นอ่าวเข้ามาหน่อย คลื่นเลยไม่หนักมาก












คราวนี้พิเศษกว่าคราวก่อนๆ เพราะรับพร้อมกันสี่คน
ทั้งท๊อป เปิ้ล ตะวัน แล้วก็คุณอ้วน
วันนี้เลยได้การหนุนใจมาก เพราะเห็นพระคุณพระเจ้าที่เปิดฟ้าให้ได้บัพติศมากัน
ยังมีเวลาให้เด็กได้เล่นน้ำอีกแป๊บนึงด้วย
จริงๆ อากาศไม่ดีนัก น้ำขุ่น คลื่นแรง ไม่มีใครอยากให้เด็กเล่นหรอก
แต่พอเห็นฟ้าไม่มืดมัว เด็กก็อยากเล่นจัง ..ฉันเลยไม่ว่า
พอกลับมาบ้านเลยโดนแม่บ่น เค้าเป็นห่วงสุขภาพเด็กๆอ่ะ


...

ตอนเย็นกลับมาแล้ว เค้ายังประชุมปรึกษาอะไรกันอีกจนค่ำ
แต่ฉันไม่ไหวแล้ว นั่งหาวมาตั้งแต่ในรถแล้ว
ถึงบ้านแทบอยากจะพับ นอนไปก็มีเสียงกรีดร้องอยู่ข้างหู
จนพ่อกลับมารับไม้ต่อ ให้ไปนอน ตั้งแต่สี่โมงมั๊ง ตื่นซะสามทุ่มเลย


นึกไม่ออกว่าคืนวันอาทิตย์ทำอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆไม่ได้วาดรูป
เย็บผ้าบ้าง นั่งดูรูปบ้าง น่าจะหนักไปทางหลัง
อยู่จนสาย เกือบสิบโมงถึงได้ไปนอน
รอพ่อไปซื้อตั๋วรถ พ่อมีประชุมที่กรุงเทพฯ เห็นว่าประชุมเสร็จวันพุธหรือพฤหัสมิรุ
จะแวะไปเยี่ยมคุณย่า ซื้อของฝากไปด้วยแล้ว


...

จากที่ไปนอนก็ยาวเลย ลงมาพ่อไปแล้ว
อยากมาช่วยแม่ก็ดันไม่ตื่น โดนแม่โทรตามหรอกนะถึงได้ตื่น
ตื่นมาพร้อมอาการปวดหลัง ปวดอย่างหนักเลย
เดินไม่เป็นคนปกติเลยอ่ะ แบบ จะหลังตรงก็ตรงไม่ได้ จะค้อมก็ค้อมไม่ได้
ปวดมากๆ คิดๆว่า เรานอนผิดท่าอะไรรึเปล่า?
เพราะปกติท่านอนที่ดีที่สุดคือนอนตะแคง
แต่หลังๆมา เหนื่อยมาก หัวถึงหมอนแล้วหมดสติไปเลยก็บ่อย กิ๊บยังอยู่เต็มหัวประจำ


คิดอีกที อาจจะมาจากท่านั่งใช้งานโอเชี่ยน
คือปกติถ้าเล่นคอมพ์จะหาหมอนใบโตมากอดไว้
มีพุงแล้วก็ไม่เกี่ยวนะ มีหมอนมาช่วยกันการค้อมตัวมากเกินปกติ ผิดหลักสรีระศาสตร์
แต่เมื่อคืนแม่เอาไปนอนหนุน เลยไม่ได้ใช้หมอน นั่งค้อมอยู่งั้นอ่ะ
ผลคือ ถ้านั่งท่านั้นจะไม่ปวด ออกทางสบาย แต่เฮ้ย คนนะ ไม่ใช่สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
ตอนนี้เลยรู้สึกเหมือนต่อสู้กับกระดูกสันหลังตัวเองพิกล
นั่งหลังตรงมันก็ตึงมากจนเจ็บ แต่ไม่เท่าตอนเดิน ..
ไปทายาแล้วนอนตะแคงบนห้อง พักสักพักดีกว่า


เรื่องของวันอังคารก็ค่อยเล่าเนอะ ...

 

 

Related Posts with Thumbnails