“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

..เลือก "แอก" ให้ถูก..

วันเสาร์เป็นวันอะไรที่รู้สึกหนักเหนื่อยจัง
เพราะสองคนในบ้านไม่ค่อยสบาย มันจำเป็นที่ต้องให้เค้าได้พัก
ดังนั้น ฉันเลยไม่อาจจะนอนช่วงกลางวันได้
(อย่างที่เล่าเมื่อวาน ว่ามันมีธุระเรื่อยๆ)


เมื่อคืนง่วงจัด น่าจะนอนไปตอนสองหรือสามทุ่ม
ตื่นสักเที่ยงคืนได้มั๊ง มีคนเรียก .. เหงาว่างั้น
ก็เลยตื่นตั้งแต่ตอนนั้น อยู่เป็นเพื่อนจนเช้า
ความที่รู้สึกอยากนอนต่อเหลือเกิน แต่ต้องทน
เดินเซ่อออกไปอุ่นอาหารมาป้อน ชนพัดลมตั้งโต๊ะหัวทิ่ม ใบพัดแตกอีก
เกิดอาการไม่สมดุลย์สั่นเป็นระวิง ต้องหาจุดสมดุลย์ค่อยๆวาง
แล้วอย่าไปสะกิดสะเกาอะไรมันอีก...




สักพักก็ได้อาหารมาหนึ่งจานหลัก มีแกงมั่วซั่วกับไข่ต้มอีกฟอง
กินหมดเกลี้ยงเลย .. แค่นั้นคนทำก็ดีใจแล้ว


...

เช้าก็แล้ว เริ่มนั่งไม่อยู่ ฟังคนที่มีเวลาพักบอกว่าชอบนอนแต่นอนไม่อิ่ม
ยังนึกสงสารตัวเองไม่ได้อีกแน่ะ ว่า ถ้าเป็นฉันคงนอนซ้าา ให้เต็มเวลาพักนั้นเลย


พอแม่ลุกขึ้นมานั่ง เค้าว่า "ต้องนอนพักนะ แล้วจะดีขึ้น"
ฟังแม่แล้วก็อยากนอนบ้าง แต่งานหลายอย่างยังไม่เสร็จ
ก่อนจะไปกินข้าวกับแม่ พ่อโทรมาเล่าเรื่องค่ายให้ฟัง
เล่าว่า อาจารย์ที่มาเทศนา พูดพระคัมภีร์มัทธิว11:28


"บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา
และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา
เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก
ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา"


ฟังแค่ข้อพระคัมภีร์ที่พ่อพูดผ่านสายโทรศัพท์ (แม่เปิดลำโพง)
ก็ได้รับการหนุนจิตชูใจทันที จากตอนแรกปิดคอมพ์แค่คิดว่าจะไปทำงานบ้านให้มันเสร็จๆ
อยากฆ่าเวลาให้มันผ่านๆ ทิ้งๆไป เพราะไม่มีแรงจะเย็บ จะวาด จะอะไรที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์
แต่พอพระวจนะพระเจ้าผ่านเข้ามาในหู ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็กลายเป็นน้ำตา
ไม่ใช่สงสารตัวเองแล้วนะ แต่ฉันรู้ว่า
ฉันต้องเอาภาระหนักอันนั้นวางไว้ที่ไหน ใส่มือของใคร
หัวใจที่รู้สึกเหี่ยวเฉาก็เหมือนได้รับการรดน้ำ ..ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งการหนุนน้ำใจมาทันเวลา
เพราะถ้าฉันดำเนินชีวิตไปใช้แต่แรงกำลังตัวเองอย่างเดียว น่ากลัวจะท้อใจจนแทบไม่ไหว



source :sweet meadow life (by pink*fish)


บางทีมันก็เหนื่อย หลายเรื่องพูดออกไปไม่ได้ กระทบหลายฝ่ายบ้าง เรื่องอ่อนไหวบ้าง
เรื่องที่พูดแล้วก็แค่ระบาย ........ เจอคนที่สร้างอารมณ์ความรู้สึกต่างๆนา ๆ ให้บ้าง
จริงๆมันก็เป็นเรื่องปกตินะ ในโลกที่มีแต่ความบาป
พอคนเราทำ พูด คิด ให้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง
มันก็กลายเป็นทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง และแน่นอนที่พฤติกรรมแบบนั้นจะส่งผลลบต่อคนอื่น
พอเรายิ่งคิดถึงสิ่งเหล่านั้น พร่ำพูดบ่นบ้าง ระบาย รำพัน สารพัดสิ่งพวกนั้น
มันเลยเหมือนเราเอายาพิษใส่ปากตัวเองไม่เลิกไม่รา .........
(อาการนี้ฉันเป็นปีละสามร้อยครั้งมั๊ง ฮ่าๆๆ เมื่อไหร่จะเลิกนะ เดินๆถอยๆ ท้อๆ หยุดๆ )


เช้านี้ฉันเลยเปลี่ยนความคิดซะใหม่ เปลี่ยนทัศนคติกับหลายอย่าง
เริ่มจากการมองคนบางคน ถ้าคิดถึงแล้วใจลบ จะอธิษฐานเผื่อแล้ววางเรื่องเค้าลง
ต้องทำให้ได้เหมือน " อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน เพราะเหตุผู้ที่เจริญตามทางของเขา"
บางครั้งเจริญลงเราก็เดือดร้อนนะ แต่นั่นแหละ อย่าเป็น !!
กับเวลาและวาระในการทำงานทำการ ก็ทำไปตามมีกำลังจะทำ
ไม่ไหวก็หยุด ก็พัก ชีวิตเรามีค่ามากกว่าจะมาเสียเวลาคิดสงสารตัวเองแต่ก็ไม่พัก
(แต่ตอนนี้มันตาค้างอ่ะ ต้องเล่า เดี๋ยวจะลืม อิอิ)


...

เมื่อคืนพี่จันโทรมามิสคอลตั้งห้ารอบ ไม่รู้มีอะไร
พอวันนี้โทรกลับ .... ไม่ว่างซะแล้ว
บอกว่า "เดี๋ยวว่างค่อยโทรมาโม้" โอเค ว่างค่อยโทรมาโม้ล่ะกัน ฮ่าๆ
(คุยธรรมดาแบบไม่โม้นี่ได้ม๊ะ? เอิ๊กๆๆ)


ปล.ไม่มีรูปวาดจ้ะ

 

 

Related Posts with Thumbnails