“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

..Fri til Sun and my last class..


มาเถอะ มานั่งลงแล้วเล่าย้อนหลัง
เพราะรูปก็อัพไปแล้ว แต่เพิ่งจะมาเล่าเอาวันนี้
ว่าด้วยวันศุกร์ ปิดงานปักหมวกให้ตู่เสร็จแล้ว
ซื้อหมวกมาใบละ ๙ บาท แต่ขอขาย ๑๕
(ก็เอาเงินถวายโบสถ์อ่ะนะ ) เค้าก็โอเค


พอชวนตกแต่ง จะแบ่งลูกปัดให้ฟรี ๆ ไม่คิดตังค์เลย
เค้าก็ว่า .. ทำให้เค้าดีกว่า แล้วคิดตังค์มา
มองหน้าแล้วคิดว่าให้ทำเองคงไม่ทำแน่ ๆ ก็เลยโอเค รับ ๆ
ทำเฉพาะด้านหน้า ทำให้ไม่เหมือนของฉัน
(ของฉันเองยังไม่เสร็จเลย เหอๆ)  คือทำง่ายกว่า ไม่ซ่อนด้าย
แต่ก็นะ คนรับก็พอใจ ไม่มีบ่นอะไร อิอิ
(ก็รวมลูกปัดด้วย มีปักแต่งให้พร้อม จ่ายใบละ ๓๐ อ่ะ)


เช้าวันศุกร์ไปรื้อตู้เสื้อผ้า เพราะลมพัดเย็นมาก
ตอนเช้าออกไปไขกุญแจนี่แบบว่า
ลมหนาวพัดจนต้องกลับเข้ามาหาเสื้อกันหนาวเลย


แต่นะ ที่หยิบมาจากตู้ตอนเช้า พอบ่ายที่จะนอนจริง ๆ
ใส่ไม่ได้แล้ว แดดมา  ลมหยุดพัด 
มันก็ไม่ถึงกับร้อน เรียกว่า สบายๆ ดีกว่า
เป็นอันว่า แฟชั่นหน้าหนาว มิอาจใช้ได้กับข้าพเจ้าในวันนี้ .. ผ่าน ๆ


ก่อนจะนอนหยิบหนังสือเล่มนี้ติดมือขึ้นไป
เห็นแม่วางทิ้งไว้ ไม่สนใจแล้ว(มั๊ง)
งั้นเอาไปอ่านก่อนล่ะ .. 
แค่เฉพาะคำนำ ก็น่าคิด ชวนติดตามแล้ว
ถึงว่า ใคร ๆ ก็กล่าวถึง หนังสือเค้าออกมาหลายปีแล้วนี่เนาะ
นี่ก็เพิ่งจะได้อ่าน แต่ยังอ่านได้ไม่กี่หน้า .. ต้องนอนก่อน
เดี๋ยวจะไม่ได้นอน

มาวันเสาร์ อยู่ยาวจนสี่โมงเย็น
คือ แม่เป็นไข้หวัด น้ำมูกไหล ต้องพัก ไม่พักก็ไม่ไหวแล้ว
พ่อก็มีธุระทั้งวัน ฉันเลยต้องอยู่โยงกับน้องจนน้องหลับ
ดูแลป้อนอาหาร อาบน้ำ สารพัดเรื่องแล้ว น้องก็ยังไม่หลับ







เที่ยง ๆ เลยพาไปนั่งที่สวน รับลมหนาว ๆ เย็น  ๆสักหน่อย
ก็ไม่ถึงกับหนาวมากหรอกนะ อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่า “สบาย”
สวนเราที่ไม่มีดอกไม้อะไรให้ดูนัก มีแต่ต้นไม้ใบไม้สีเขียว ๆ
แต่ก็สดชื่นดี สำคัญคือแดดไม่ร้อน ลมพัดสบาย
นั่งเล่นกันพักนึง ดูท่าทางเค้าจะง่วงแล้ว ก็พากลับเข้าบ้าน



นึก ๆ ไปก็คิดนะ .. เพราะเค้าต้องใช้ขาคนอื่นแทนขาตัวเอง
เค้าไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกจาก “ไว้ใจ” ขาที่จะพาเค้าไปไหน ๆ
สงสารเค้าเหมือนกัน เพราะตอนพาออกมาอุ้มพาดบ่า
ชายโครงคงกดทับกับไหล่ฉัน ไม่ใช่ท่าที่ถูกต้องเลย ไม่สบายตัว
และอาจจะทำให้มีปัญหาอะไรภายในได้ด้วย (เดาเอา)
พอขากลับเลยอุ้มยกทั้งตัว เป็นท่าที่คนอุ้มลำบากมากกก ฮ่าๆๆ
คราวต่อไป อุ้มไปแค่หน้าบ้านแล้วใส่รถเข็นเข็นไปดีกว่า
(รถเข็นเค้าก็มีหรอก แต่คิดว่าใกล้ ๆ และไม่อยากเรียกให้ใครช่วยมาก)


หลังจากนั้นก็ยังไม่จบเรื่อง พ่อชวนกินข้าวอีก นี่ก็กิน
(เอ๊... มันง่วงจริงมั๊ยเนี่ย)  พ่อซื้อไก่ย่างห้าดาวมา
กินแล้วเหลือกระดูก .. ทำอย่างไรล่ะคะทีนี้
ก็เอาไปแบ่งให้น้องหมาบ้านข้างๆ สิ



พ่อน่ะไปผูกมิตรกับเจ้าพวกนั้นไว้ตลอด
แม่ไม่ค่อยชอบ แต่ฉันไม่สนใจ
จนได้ดูรายการ “วัฒนธรรมชุบแป้งทอด” ตอน ขยะสังคม
ดูย้อนหลังนะ เพราะดูตามเวลาในทีวีไม่ทัน
ซึ่งก็ดี ได้ดูซ้ำไปซ้ำมาได้
ทำให้คิดล่ะ ว่าจะทิ้งอะไรสักอย่าง หากมันยังไม่หมดคุณค่าจริง ๆ
หรือเรายังใช้มันไม่หมดทุกส่วนจริง ๆ มันไม่น่าจะรีบเรียกว่าขยะ
บ้านเราก็ไม่ได้ทำหมักขยะเปียกขยะสดอะไร ของที่ต้องทิ้งแต่ละวันก็มีเยอะอยู่
ส่วนกระดูกไก่อะไรพวกนี้ จะทิ้งลงถังมันก็ไปบูดเน่าอยู่ดี
แบ่งให้พวกหมา มันจะได้ไม่มายืนริมรั้วไล่เห่าเราเหมือนหมาสติไม่ดีทั่ว ๆ ไปดีกว่ามั๊ย


ก่อนจะขึ้นไปนอน พวกพี่น้องเค้ามากันพอดี
จะมาจัดเตรียมสถานที่  เลยแวะเข้าไปทักตู่
ไปเล่นพุงเค้าซะหน่อย อิอิ


เดี๋ยวอีกไม่นานก็ได้เจอกับเจ้าตัวเล็กแล้ว
ว่าไปนี่ก็เป็นคนแรกนะที่ฉันสนิทพอจะไปไล่จับลูกในท้องเค้าเนี่ย
ส่วนใหญ่ที่รู้จัก ๆ กัน เราก็ไม่กล้าไปวุ่นวายขนาดนั้น
แค่ไปจับๆ  พุงก็ว่ามากแล้ว
นี่แม่ตู่เปิดพุงให้ไล่จับน้องซอว์เองเลยอ่ะ ฮ่า ๆ


วันอาทิตย์ลมแรงกว่าสองวันก่อนอีก
สมใจฉันเลย ได้หยิบเลคกิ้งขายาวมาใส่ ใส่คาร์ดิแกนก็ไม่ร้อน
แต่ว่า.. ผ้าพันคอไม่ต้องนะ ไม่งั้นเหงื่อตกแน่ ... อ้าว


ความสุขใจเล็ก  ๆ  ของการแต่งหน้าวันอาทิตย์นี้
คือ ใช้มาสคาร่ามา๒ อาทิตย์แล้ว ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครจะเห็น
หรือขนตาจะงอนเด้งอะไรแค่ไหน แต่มันดูยาวขึ้น .. นิดนึง ..ปลื้ม





ไปสอนเด็กทำสโนว์แมนแกนกระดาษทิชชู่ล่ะจ้า
พอแจกอุปกรณ์ พวกใจร้อนก็รีบแปะ ตัด ขยุ้ม ทากาว



มันช่างเป็นอะไรที่ ไม่ฟังกันบ้างเล้ย...  จะใจร้อนไปถึงไหน
แต่ฉันก็สอนล่ะนะ ที่แนะนำก็ทำกันบ้าง ไม่ทำกันบ้าง








จริง  ๆ มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแต่จะติดตกแต่งอะไร
ต้องวาง จัด เล็ง ก่อน ค่อยติดกาว
ก็นะ .. อย่างน้องบีม ก็เลยได้จมูกที่ลอยบนผ้าพันคอ
ของเอสก็หน้าตาเลอะเทอะ ..  ก็ว่ากันไป
แต่โดยรวม ทุกคนก็ชอบผลงานของตัวเองกันดี


วันนี้ฉันออกจะใช้อารมณ์มาก คือพอเราคิดว่าเราตั้งใจมาก
เราจะคาดหวังจากคนสูง  แต่มันใช้ไม่ได้
เพราะถ้าฉันไม่ใจกว้างพอให้คนมันพลาดกันได้บ้าง
หรือใจเย็น และรักให้เพียงพอ ความอดทนของฉันมันก็จะจำกัด
แต่พอมาทบทวนในส่วนของตัวเอง
นี่ก็สองปีกว่าแล้วมั๊ง อาจจะเกินแล้วด้วย กับการเป็นครูรวี
มันเหมือนว่า ความคิดสร้างสรรค์และสิ่งที่ฉันตั้งใจทำมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงคน
ซึ่งก็จริงหรอก เพราะผู้ที่จะเปลี่ยนแปลงพวกเค้าได้ มีเพียงพระเยซูคริสต์

ในส่วนของฉัน แม่ติงหลายเรื่อง เรื่องบ่น และใช้อารมณ์
ฉันก็รับรู้ รับทราบ และต้องการจะเปลี่ยนแปลงนะ
แต่คงจะต้องลากันแต่เพียงเท่านี้แล้วสำหรับงานส่วนนี้
อีกอย่าง สิ่งสำคัญมากของฉันในหน้าที่ความรับผิดชอบคือน้อง
ตอนฉันสอนเด็ก ฉันก็ไม่ได้ดูแลน้อง จะแบ่งเวลากันมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะอย่างนั้น อาทิตย์นี้ก็จะเป็นอาทิตย์สุดท้ายที่ฉันจะทำคริสตจักรเด็ก
ฉันไม่ได้เกียจคร้านหรือท้อใจ ถอดใจอะไรนะ
แต่คิดว่า ให้คนที่มีศักยภาพและมีความเสถียรภาพทางอารมณ์ดีกว่าฉันมาทำดีกว่า
ส่วนเค้าจะต้องการความช่วยเหลืออะไร หากฉันช่วยได้ ทำได้ ฉันก็จะทำ
แต่จะล้างมือในส่วนนี้แล้ว .....


เหมือนจะเครียด มันก็เครียดแหละ ขนาดมื้อเที่ยงมีของอร่อยกินนะ 


แม่เปิ้ลทำก๋วยเตี๋ยวตีนไก่
มันอร่อยซะจน ชามเบิ้ลเหลือแต่เส้นกับน้ำก็ยังอร่อย



อ่อ วันนี้เจอน้องโยลินด้วย ไมเ่จอกันหลายวันตัวโตขึ้นอีก
แต่ยังอารมณ์อ่อนไหวน๊าเนี่ย.. ก็เค้าเป็นผู้หญิงนี่เนาะ


ตอนเย็นชวนแม่ไปห้าง ก็ชวนมาตลอดแหละ
จริง ๆ จะไปเอง แต่เค้าเป็นห่วง เลยไปด้วย 



อยากไปห้างใหญ่ แต่ขี่มอไซด์ไป เลยแค่ในเมืองก็ยังดี
ได้ของที่ต้องการเกือบครบ .. ถือว่าครบก็ได้ เกินอีกต่างหาก
ส่วนใหญ่เป็นขนม ของกินของใช้
เดินเลือกใส่รถ จนต้องคอยบอกกัน
"วันนี้เอามอไซด์มานะ"
กลับมาก็เลยมีแต่ขนม ของกิน ซะส่วนใหญ่
ส่วนนี่ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น...


หยิบเลย เห็นกล่องลายแมวต้องรีบหยิบ
คราวก่อนไปกับตู่ไม่เห็นนะ  แถมคราวนี้เจอโปรลดด้วย
หยิบไว้ก่อน ฮ่า ๆ เดี๋ยวจะเอาไปห่อไว้จับฉลากในบ้าน
วันคริสต์มาสอีฟนี่แหละ ^^ 




Related Posts with Thumbnails