“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2550

..December 26- Tsunami..

โอ๋ยๆ ไม่ได้อัพบล๊อก เพราะมัวแต่หากระตังค์ไปซื้อกิโมโน
ที่เวป pupe เหอๆๆๆ


เมื่อวานเลยเว้น ไม่ได้เล่าเรื่องที่ไปเกาะพีพีเลย
ดังนั้น วันนี้จะเขียนสักทีล่ะ



....


ตั้งแต่คืนวันที่25 ที่กลับจากงานเลี้ยงที่บ้านมาดาม
ก็แทบไม่ได้หลับเลย
ช่วงเที่ยงคืน โทรคุยกับแตง เลยชวนแตงไปด้วย
เป็นอันตกลง ให้เค้าออกมาพร้อมอ.โรสเลนกับทีมงานตอน 6.15


มันตื่นเต้นมั๊ง นอนไม่ค่อยหลับ
เกือบๆ 45 นาทีเห็นจะได้ ที่งีบไป
ก็ดีนะ ดีกว่าไม่ได้หลับไปบ้างเลย



แต่ยาหยังสิ นอนประมาณ 4 ชั่วโมง ปวดหัวสะบัดตลอดงาน
เพราะลืมยาแก้แพ้ด้วยแหละ แถมตอนกลางคืนกินไอติมกับช๊อคโกแลต -*-



พวกเราไปถึงท่าเรือ ก่อน7โมง
ทันกันแบบกระชั้นชิด แต่ว่า.. เรือก็ยังไม่ออก 555
เพราะต้องรอคนที่จะไปให้ครบ เป็นเรือโดยสารเล็กเที่ยวพิเศษน่ะ
 รับเฉพาะพวกไปประกอบพิธีรำลึกสินามิ



 



ระหว่างรอก็ซ้อมร้องเพลงที่จะไปใช้พลางๆ
เป็นเพลงโบราณมากเลย ฉันไม่รู้จักเลย -.-
ร้องตอนแรก เสียงหลงจนรู้ตัว เหอๆ (ปกติคนเราร้องเพลงเสียงหลงมักไม่รู้ตัวนะ)


พอคนมาครบ ก็ไปขึ้นเรือกันล่ะ
ต้องเดินข้ามไปประมาณ 3 ลำ แบบว่าข้ามกันจนงงไปเลย 555
คิดว่าลำใหญ่ ที่ไหนได้ ลำพอประมาณ(มันเล็กนะฉันว่า แต่ก็จุคนได้95คน)



แล้วก็ตกลงกันว่า นั่งบนดาดฟ้าเรือกันไปก็ได้
เพราะตอนที่เรือออก ประมาณ เกือบๆ 8 โมง แดดวันนั้นมันไม่ค่อยแรงด้วยแหละ
ออกแนว แดดร่ม ลมตก (แต่ลมแรงนะ ลมตกแปลว่าแรงป่าวหว่า เหอๆ)



พอขึ้นเรือ ถึงได้มองว่า ชาวบ้านเค้าเอาหมวกกับแว่นมากันเกือบหมด
แม่หันมาบ่นทันทีว่า "ก็เร่งอยู่นั่น แม่เลยลืมร่มเลย"...(ความผิดข้าเจ้าอีก -*-)





นั่งกันไปเรื่อย ก็อาศัยผมยาวๆ (ช่วยได้จริงๆ)
ตอนถ่ายรูปก็ลืมสังเกตว่า มันเป็นสภาพไหน พกหวีไป ก็ไม่หยิบมาใช้ ลิปมันเอย แป้งเอย
ตกอยู่ก้นกระเป๋า ไม่ได้ใช้งานเลย เหอๆ




ผ่านเกาะโน้นเกาะนี้ เกาะไก่ก็เห็น แต่ที่หาดขาวๆ แล้วคิดว่า ปอดะ คงไม่ใช่
นั่งไป มองเศษขยะลอยในทะเลไป.. เหมือนอยากจะร้องเพลง


"โอ้ทะเลแสนงาม .. ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล
หาดทรายงามเห็นขวด ดูสิดูกล่องโฟม เศษถุงขนม ลอยอยู่ในทะเล"


เฮ้อ.. 555 (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ )





พอใกล้ถึงเกาะสิ แต่ละคน กระโดดโลดเต้น
ถ่ายรูปกันใหญ่ 555 ตรงบรรดาบังกะโลริมหาด น่ารักดี บางที่ก็อยู่บนหน้าผา




มันคนละอารมณ์กับที่ตอนเขียน "เรือนทราย" เลยนะ -*- แต่รู้สึกเลยว่า
ให้บรรยายยังไง ก็ไม่ได้ความรู้สึกเท่ากับ มาเองจริงๆ
ชอบความรู้สึกที่มองเห็นหน้าผาล้อมรอบท่าเรือ เวลาที่เรือหันหัวมุ่งไปยังท่าเรือ
เห็นเรือสารพัด แล่นไปแล่นมา เรือหางยาวที่จอดเป็นแนวยาวตลอดริมฝั่ง



ตอนลงจากเรือก็เหมือนเดิม ข้ามเรือไปไม่รู้กี่ลำ เหอๆ
สงสัยว่า จะเป็นปกติซะแล้ว


 


ไปถึงก็เกือบสิบโมงแล้วมั๊ง หรือสิบโมงกว่าหว่า
ไม่ได้ใส่นาฬิกาอ่ะ แถมมือถือก็นอนสงบอยู่ในกระเป๋า
เค้าให้ลงมือทำพิธีกันเลย แต่ฉันขอติงว่า คราวนี้ เร่งจริงๆ
เพราะให้ทำพร้อมกัน -*-
พุทธอยู่ซ้ายสุด คริสต์ตรงกลาง แล้วอิสลามขวาสุด
เสียงดังเหมือนแข่งกัน .. -.-



แต่ก็ผ่านไปด้วยดี คริสต์ มีอาจารย์ไปหลายคน
เปลี่ยนกันนำคนละอย่าง ตอนจบ อ.โรสเลนอธิษฐาน แกพูดอังกฤษไง ฝรั่งที่มาร่วมก็เลยฟังเข้าใจ



หลังจากทานข้าวกันเสร็จ ก็ไปเดินด้านหลัง เป็นอ่าวโละดาลัม(ในรูปบอกผิดง่ะ ถามพี่คนหนึ่งน่ะ เค้าบอกมา ^^)
ไปยืนมองน้ำทะเลสีสวยๆ ด้านหลังเต๊นท์ประกอบพิธีเองอ่ะ แค่เดินข้ามสนามแบตไป
แต่ไม่ได้ไปเล่นน้ำ หรือไปสัมผัสน้ำทะเลเลย
เพราะว่า ด้านหน้ามีแต่เก้าอี้ชายหาด เหอ ๆ แล้วเค้าคิดราคาเท่าไหร่ก็ไม่รู้สิ
ตอนที่เราไปนั่งด้านหลัง มีแต่ ต่างชาตินั่งกันเต็มอ่ะ



ถ่ายรูปตรงนี้สักพักก็ชวนกันไปเดินเล่น
อยากจะเดินดูของ แต่ราคาไม่เชิญชวนให้ซื้อ แบบว่า ตังค์ไม่ยอมออกจากกระเป๋า 55
เดินดูสักพัก ยาหยังขอตัวไปหาห้องน้ำ แล้วไล่ให้ฉันกับแตงไปเดินเล่นพลางๆ
แต่เราไม่ไหวกันแหล่ว จะขาดน้ำสิ้นชีวาตรงนั้นแล้ว
เดินตรงดิ่งไปที่เต๊นท์อาหาร ขอน้ำกินสักแก้วเถอะค่ะ เหอๆ
เพราะถ้าซื้อล่ะก็ แพงแน่ๆ แต่ที่เต๊นท์เค้าแจกฟรีอยู่แล้วอ่ะ



พอบ่ายโมง เราก็กลับกัน เรือออกน่ะ
เค้าให้นั่งข้างล่างไปก่อนนะ แบบว่า เค้าถือ(ใครกันน๊า)
เพราะครั้งนี้ กลับกันหมด พร้อม3ศาสนาเลย
(ตอนมา มาแค่สอง พระมาสปีทโบ๊ทน่ะค่ะ)




ก็เล่นถ่ายรูปกับสาวแตงไปหลายภาพอยู่


จนหลับไปวูบหนึ่ง (โดนแตงถ่ายไว้ด้วย แงๆ )
แถมตอนสะดุ้งตื่น โผล่ไปข้างหน้า เห็นแตงเป็นยาหยัง ถามใหญ่
"Where is Tang ?" สาวแตงก็งง พยักหน้าแบบ "อยู่นี่ไงๆๆ"
ยังไม่หยุดอีกนะ ถามอีก แตงลืมมึน ...ว่า ยังเล่นมุขไม่เลิกหรือไง


ความจริง ละเมอน่ะ -*- แถมคิดว่า ทำไมยาหยังพูดเสียงเหมือนแตง


หลังจากละเมอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (คิดว่าเป็นอะไรกันเนี่ย) ยาหยังก็ชวนไปนั่งบนดาดฟ้า
เค้าว่า มีลมแรง ดีกว่าอุดอู้อยู่ข้างล่าง
ก็จริงนะ แต่พอไปนั่งเท่านั้นล่ะ ยาหยังร้องเลย เพราะพื้นมันร้อน
แต่ไม่สนแล้ว ร้อนก็ร้อน แค่อุ่น ก้นยังไม่สุก นั่งได้ค่า สามารถๆ 555



 



 



ยาหยังอยู่ไม่นานหรอก เพราะร้อนนั่นล่ะ เลยต้องหลบมาข้างล่าง
แต่ฉันกับแตงอยู่ต่อ คือ ลมมันแรงดี ไม่ค่อยอยากหลับ แต่ก็วูบๆ
แถมไม่มีน้ำแล้ว ที่เอาขึ้นมาด้วย 1 ขวดตอนแรก ก็ให้อจ.เค้าไป เหอๆ
นั่งร้องแงๆ ไม่มีน้ำกินกันสองคน แล้วก็นึกได้ว่า ที่โน่นเค้าให้สไปรท์มานี่หว่า
แต่ขอโทษ กินไปนิดหน่อย วางแล้วไปเก๊กท่าถ่ายรูป กระเป๋าชน สไปรท์หกไปซะไม่น้อย -*-


นั่งหลับไปหลายรอบ ไม่ผ่านเกาะลันตาซักที
(แอบบ่นว่า อะไรหว่า ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ แต่จริงๆ แดดมันตีแรงเราไปหมดน่ะ คงไม่ถึงหรอก)



แต่แล้ว.. ก็กลับถึงบ้านจนได้


สิ่งที่ได้กลับมา ประสบการณ์ ในการไปเที่ยวเกาะพีพี ครั้งแรก เย้ๆ
ปีนี้ฉันได้เที่ยวครบทุกที่ที่อยากเที่ยวเลยจริงๆนะ ขอบคุณพระเจ้าค่ะ ^0^
สระมรกต ก็ไปกับดอนน่า ท่าปอมก็ไปกับแม่ ดอนน่า พี่จัน
ไปเกาะพีพีด้วย อิอิ ไปกับแตง กับยาหยัง .. แฮบปี้จริงๆเล้ย



อ่อ ข้อควรจำ ถ้าไปทะเล ต้องพก
- หมวกปีกกว้าง ที่มีสายรัด หรือ ร่ม(เอาร่มดีกว่า)
- แว่นกันแดด
- ครีมกันแดด
- เสื้อแขนยาว(ใส่ไปจ้ะ อิอิ แต่ไม่ค่อยป้องกัน)


 


สิ่งที่ได้ตอนนี้ กำลังมึนอยู่คือ แดดเผาซะหน้าดำ แงๆๆ
(จะเป็นท่านเปาอีกนานป่าวหว่า)


 


....


blog วันนี้ใช้เวลาในการเล่าและแต่งรูป รวมแล้ว 2วัน 555
(นานมากมาย)


ปัจฉิมลิขิต : รูปภาพ ได้รับความเอื้อเฟื้อจากเพื่อนคนสวยของฉันด้วยนะจ๊ะ
(แค่กล้องอันเดียว คงไม่ได้ภาพสวยๆแบบนี้ มันต้อง 2 อันสิเนาะ 555)

Related Posts with Thumbnails