“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

..ไปเที่ยวเรือ Logos Hope มาล่ะ..

ได้ไปเที่ยวเรือ Logos Hope มาแล้วล่ะ
ตอนแรกคิดว่าคงไม่ได้ไปแล้ว
คือ พ่อได้รับเชิญจากเรือ
ไปเป็นแขกในฐานะศิษยาภิบาลคริสตจักรในเขตภูเก็ต กระบี่ พังงา
เราก็ว่า กะจะพลอยติดรถไปลงเรือ เดินดูนั่นโน่นนี่เล่นเหมือนคนอื่น ๆ
แต่ก็ยังอยู่ในสภาวะไม่แน่ไม่นอน เลยไม่หวังอะไรมาก
จะได้ไปก็ดี ไม่ได้ไปก็ไม่คิดมาก
แต่สรุปว่า ได้ไป ... คืนวันอังคารก็เลยไม่ได้นอน
เพราะเขียนรายการของน้องที่ต้องเอาไป จัดวางระบบว่าต้องอะไรยังไง
ตอนหัวค่ำก็ถามทางพี่อ้วนเอาไว้ พี่อ้วนก็ใจดีบอกให้อย่างละเอียดเลย


...

ตอนเช้าก็ออกเดินทางตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง .. เกือบแปดโมงแหละ
นี่ขนาดฉันไม่ได้นอนทั้งคืน ส่วนแม่ก็ตื่นมาตั้งแต่เกือบตีห้าครึ่งนะ








ไปถึงภูเก็ต เจอทางเลี้ยวบายพาส พ่อก็จะเลี้ยวตามปกติ
แต่ฉันดันบื้อบอกให้ขับตรงไป เค้าก็เลยตรงไป แต่เอ๊ะ ..
มันแปลก ๆ เพราะมาคราวก่อนมันต้องเลี้ยวขวานี่หว่า
แต่จำไม่ได้ไงว่าเลี้ยวตรงไหน -.-
เลยโทรถามพี่อ้วน เป็นอันรู้แล้วว่าเลยมา ต้องเลี้ยวตรงสี่แยกโตโยโต้า
โดนบ่นซะหูชาเลยฉัน เหอๆ
พอผ่านสี่แยกเซ็นทรัล ก็มานับไฟแดง มองหาซอยตาเอียด
แต่รู้สึกว่า ถ้านับหมดทุกไฟแดงจริงๆ มันจะเกิน5ไฟแดงตามที่พี่อ้วนบอกมานะ
พอเจอซอยเค้าก็เลี้ยวกันไป โทรถามน้าขวัญอีก แม่จะมาแวะรับน้าเค้าไปเที่ยวเรือด้วย
ก็จริงๆแม่อยากมาเยี่ยมเพื่อนแหละ ตั้งแต่ปีก่อนโน้นที่ฉันมาเจอแพน
คิดว่าจะมาแวะเยี่ยมน้าขวัญด้วย แต่ก็ไม่ได้มา
ถ้าไม่เสียเวลาหลงทางอยู่ป่าตองซะนาน แถมรถก็ต้องจอดตลอดเพราะความร้อนขึ้น
คงได้เจอกันไปแล้ว คราวนี้เลยห้ามพลาดเด็ดขาด เป้าหมายหลักเลย
อ่อ .. งานนี้ไม่ได้มาแต่บ้านฉัน ชวนตู่มาด้วย ชวนพี่อ๋อยด้วยแหละ
แต่ไม่สบาย เลยยกเลิกไปคนนึง


ไปถึงบ้านและที่ทำงานน้าขวัญ เป็นโรงแรมเล็ก ๆ มีด้านหน้าเป็นสปานวดแผนไทย
แต่เราไม่ได้แวะนาน เค้าไปเข้าห้องน้ำกัน แล้วก็ขึ้นรถไปกันต่อ
เพราะนัดเค้าไว้11โมง ซึ่งก็เหลืออีก5นาที
แล้วก็ไปตามที่พี่อ้วนแนะนำอีกนั่นแหละ ไปอีกเป็น10กิโลเลย








พอถึง เห็นเรือจอดเด่น .. โอ๊ว ๆ ตื่นเต้น 555
ลงรถแล้วพ่อรีบเข็นน้องไปเลย แดดมันหนัก จะเที่ยงแล้วด้วย




ตอนกำลังจะไปยืนงงว่าจะเอาน้องขึ้นเรือยังไงดี พี่เจมส์ก็ลงมาช่วย
มีเจ้าหน้าที่บนเรืออีกคนมาช่วยยก ได้ยินเค้าถามว่าน้องหนักมั๊ย
(ถามเป็นอังกฤษ .. เข้าใจไหมว่าแปลได้ แต่ลืมคำพูดทั้งประโยค)
พอเค้ายก ได้ยินเค้าว่า อู๊ย เบา 555




แต่ก็เหนื่อยนะ เพราะทางมันชัน ลำพังฉันเดินตามไปทีหลัง ยังเกาะซะแน่น
มันเสียวไส้พิลึก พอขึ้นไปถึง ก็จะเป็นเหมือนห้องเล็ก ๆ ที่มีทางลงสองฝั่ง
(เหมือนฝั่งซ้ายจะมีทางขึ้นด้วย แต่ฉันไม่แน่ใจอ่ะ) คนทั่วไปจะลงฝั่งขวา
แต่เค้าช่วยกันยกน้องลงฝั่งซ้าย ฉันเลยวิ่งตามไปด้วย
พอลงมามีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่มาช่วยด้วย ถามว่าจะไปตรงไหนดี
ไปตรงคาเฟ่ หรือร้านหนังสือดี .. งงไปหมด คนอื่นที่มาด้วยกันไปไหนหว่า
ไปร้านหนังสือก็ได้ค่ะงั้น เค้าก็จะพาไปนะ พอเดินไป อ้าว แม่ลงฝั่งขวามาเจอกัน






จุดแรกที่ลงบันไดมา(แบบคนอื่นๆ) จะเป็นที่นั่งฟังความเป็นมาของเรือ
เค้าสร้างน่ารัก ทำเหมือนเรือเล็กสีแดง(หรือส้ม?)
ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำว่า เดินไปทางไหน ห้องน้ำอยู่ตรงไหน
เดินไปทางไหน คือ แผนผังการชมเรือจะไม่ย้อนไปย้อนมา
เพื่อความสะดวก ก็เลยจะเป็น one way








ฝั่งตรงกันข้าม เป็นห้องจำลองห้องพักของลูกเรือ ส่วนจำลองที่ห้องบังคับการของกัปตัน
ภาพประวัติความเป็นมาของเรือตั้งแต่ปี 1977




แล้วก็ถึงร้านหนังสือ เราก็กำลังเข้าไปเลือกดูกัน ไม่นานหรอก เจ้าหน้าที่ก็มาตาม
เพราะพี่ปูช่วยจัดการให้พวกเราที่มาด้วยกันทั้งหมด เป็นคณะเดียวกัน เป็นทีมเดียวกัน
ทางเรือก็เลยเชิญเราไปทานอาหารด้วย แต่เค้าเชิญเราไปก่อน อาจเพราะเห็นเจ้านายน้องเราด้วยแหละ
แต่ความที่ฉันยังไม่เห็นน้าขวัญ ไม่รู้แกหายไปไหนแล้ว ถือแท๊บเลตอันนึงแล้วเดินถ่ายรูปไปเรื่อยเลยหลงกัน
ก็เลยไปกับน้องลูกเรืออีกคน เดินหาแกก็ไม่เจอ
ผ่านร้านหนังสือออกไปส่วนห้องทางเดินของชีวิตอย่างเร็ว ๆ ไปคาเฟ่ ก็ยังไม่เห็น
เป็นอันว่า งั้นพอ ๆ ไม่เป็นไร ฉันไปก่อนล่ะนะ แล้วก็ตามเค้าไป




ได้เข้าไปในประตูที่มีแต่เจ้าหน้าที่ที่เข้าได้ เพราะเค้าต้องใช้บาร์โค้ดบนบัตรป้ายชื่อแสกน
เดินขึ้นบันไดไปอีก เจอเคาน์เตอร์ เค้าก็แจ้งว่า ต้องใช้บัตรห้อยคอ เพื่อความปลอดภัย(ระบบเค้า)
เลยได้บัตรสำหรับแขก แล้วก็ไปที่ห้องอาหาร ส่วนนายน้องมากับตู่ เค้าพาขึ้นลิฟต์มาแหละ




ไปถึงห้องอาหารก็ตื่นเต้นอีก 555 ก็นะ นี่ไม่ใช่ร้านอาหารอ่ะ ที่ใครๆจะขึ้นมาได้
แต่เป็นสถานที่เฉพาะของเจ้าหน้าที่บนเรือเท่านั้น




อาหารของเค้าเป็นสไตล์ฝรั่ง คงเพราะบนเรือมีหลากหลายเชื้อชาติ ทำแบบนี้ก็กลางๆดี
แม่ไปตักให้ เพราะฉันจับน้องมานั่งตัก ให้สบายใจหน่อย
เค้าไม่อยากนั่งรถนาน เพราะนั่งเองคนเดียวทำให้เกร็งมากกว่าปกติ
หลังจากนั้นก็กิน .. น้องแหละ ซัดชีสไป4แผ่น กินซาลามีด้วย ขนมปังอีกนิด
แต่ขนมปังเค้าไม่เหมือนขนมปังที่คนไทยกินกันแบบแผ่นๆ
มันจะหนา และหยาบนิด ๆ เพราะเป็นแบบโฮลวีท เลยติดคอเด็ก กินไม่ได้มาก
ระหว่างทานกัน ก็คุยกับคุณเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลเราไปด้วย
เค้าเล่าเหมือนที่เราอ่านในบล๊อกอื่น ๆ หรือตามข่าวมาแล้ว
คือ ลูกเรือที่นี่มี400คน ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง เค้าทำงานกันวันละ8ชั่วโมง
เพราะงานหนัก มีทุกอย่าง งานแม่บ้าน งานคนครัว งานล้างห้องน้ำ ขัดพื้น สารพัดเลย
เพราะงี้ เค้าจะเลือกเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่น ประมาณ18ขึ้น แต่ไม่อยากให้แก่กว่า 25ปี
ได้ยินว่า ล่าสุดมี30-31 ด้วย ประเด็นไม่ได้อยู่ที่อายุแค่นั้นหรอก
แต่ว่า งานที่ทำต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ต้องถ่อมใจ
แล้วถ้า30แล้วต้องเป็นลูกน้องของหัวหน้าที่อายุ19
จะมีปัญหามั๊ย จะยอมรับในส่วนนี้ได้ไหม (หลายวัฒนธรรมมีปัญหาเรื่องความอาวุโส)
ส่วนระยะเวลาที่ทำ ก็มีตั้งแต่ 2เดือน 6 เดือน 1ปี 2ปี
ส่วนถ้าใครชอบอยากจะทำต่อ ก็ขึ้นอยู่กับว่า ทางเรือจะเชิญเค้าต่อไหม
คือ ดูแล้ว ทุกคนน่าจะต้องได้รับการพิจารณาในทุกๆด้านความเหมาะสม
บางคนมาทำเฉพาะช่วงที่เรือเทียบท่าประเทศของเค้า
จะมีวันหยุดงาน แต่ก็ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกแล้วแต่ว่าไปจอดเทียบท่าประเทศอะไร
มีช่วงเวลาประชุมงาน ประชุมนมัสการวันอาทิตย์ มีประชุมกลุ่มเซลล์
ส่วนวันหยุด รู้สึกว่าจะมีแหละนะ แต่ฉันลืมไปว่าวันไหน
พอฉันกินเสร็จ ก็พากันลงมาข้างล่าง
คราวนี้เค้ายกรถน้องลงบันไดมาอ่ะ สงสารเจ้าหน้าที่แย่เลย


















ทีนี้ก็มาเดินเลือกหนังสือกันล่ะ หยิบ เลือก สิ่งที่ต้องการ
มีหลายเล่มที่น่าสนใจ ทุกเล่มที่หยิบมาเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ
เจอหนังสือที่เคยมีคนเอามาแปลลงบล๊อกexteen ด้วย
ฉันชอบหนังสือเล่มนี้จัง อ่านฉบับแปลแล้ว แต่เค้าแปลไม่จบ
รอบนี้เจอฉบับเดิม เลยซื้อไว้ (บอกแม่ว่า เดี๋ยวจะพยายามอ่าน -0-)




ส่วนที่หยิบมาหลายเล่ม เป็นหนังสือเด็ก เค้าลดราคา
เปิดแล้วน่าจะอ่านไม่ยก ภาษาไม่ลำบากสำหรับคนอ่อนแอทางภาษาอย่างฉัน












เดินไปจนถึงที่ขายของที่ระลึก แม่หยิบปากกากับเข็มกลัด ฉันเอาโปสการ์ดด้วย
ว่าจะเอาแก้วน้ำ แต่เปลี่ยนใจ กลัวทำแตกแล้วเสียใจ(มันหนักด้วยแหละ)
ช่วงนี้น้องเริ่มงอแง เลยต้องแยกกลับไปก่อนระหว่างแม่จ่ายเงิน








ฉันก็เดินผ่านห้องทางเดินของชีวิต บอกเล่าเรื่องเล่าบุตรน้อยหลงหาย
ในรูปแบบคนสมัยนี้ เค้าทำดีนะ แต่ละมุมจะมีเสียงบรรยายตลอด
หากใครไปและได้ฟัง ได้เรียนรู้ จะทราบว่า เป้าหมายการสื่อสารของเค้า
สะท้อนคุณค่าของความรักที่ไม่มีข้อแม้ของพ่อ ซึ่งตามพระคัมภีร์คือ พระเจ้า
ที่ให้อภัยให้กับเราที่เป็นคนบาป เมื่อเรากลับใจจากบาป ละทิ้งทางเก่า
เราก็จะกลับมาสู่ความรักของพระเจ้า




ออกจากส่วนนั้น ก็มานั่งที่ฉายภาพยนต์ เค้าฉายกิจกรรมของลูกเรือ
ทั้งที่บนเรือ หรือที่ไปทำบนบก ไปช่วยสร้าง ทาสี ห้องสมุด ชุมชนสลัม หลายๆที่
ตามแต่ละประเทศที่เรือไปจอดเทียบท่า
นั่งรอตรงนี้สักพัก แม่กับตู่ไปห้องน้ำ พ่อก็ลงมาพอดี จะชวนกันกลับ




พ่อแวะไปดูคอมพ์เล็กๆที่มุม International Café
พิมพ์ชื่อฝากข้อความถึงกัปตัน
แหม แต่ไม่อยากบอก พ่อน่ะได้เจอกัปตันอยู่แล้ว เพราะเรือเค้าเชิญมา
แต่พวกเราก็ได้เจอเหมือนกัน เจอภรรยากัปตันด้วยที่ห้องอาหาร
แกมาทักทาย welcome ด้วย








หลังจากนั้นก็ไปที่ขายขนม เห็นหลายอย่างเกิ๊น กินไรดีว๊า
เลยเอาหมดทุกอย่าง อย่างละชิ้น คุ๊กกี้นี่ชิ้นเบ้อเริ่ม
แต่ไม่ได้กินที่นั่นนะ ใส่ถุงกลับบ้าน แล้วก็เดินกลับออกมา






มีมุมแจกหนังสือฟรีอีก .. เอ้า เอาสักเล่มเนาะ ไปยืนดู โอ หนา หนัก ดี
ตัวหนังสืออังกฤษเยอะดี 555 รู้สึกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือแนววิชาการนะ
เลยหยิบอันที่ดูว่า .. คงน่าสนใจสำหรับฉัน มีคำว่า Fashion
พ่อให้เงินไปบริจาคในกล่องที่เค้าวางไว้ด้วย






กลับขึ้นไปตามบันได แล้วก็ลงเรือมา ฉันมาพร้อมแม่ ส่วนพ่อไปกับน้องก่อนแล้ว
มีคนใจดีที่มาเที่ยวเรือ เค้ากรุณามาช่วยยกน้องด้วย










พอลงจากเรือก็รีบแล่นขึ้นรถ กลับไปแวะพักที่บ้านน้าขวัญต่อ
เพราะพ่อต้องไปถ่ายน้ำมันเครื่อง




พวกเราก็นั่งในห้องนวด กินราดหน้าไปกันคนละจาน
แล้วก็รอ ระหว่างแม่กับพ่อคุยกับน้าขวัญ




จนเกือบห้าโมงโน่นล่ะมั๊ง กว่าจะได้ออกรถมา
แล้วฉันก็คิดว่าน่าจะแวะไปหาพี่อ้วนสักหน่อย
ไม่ได้เจอกันนานแล้ว แถมฉันก็โทรไปกวนถามทางซะหลายรอบ
อีกอย่าง ก็เอาของมาฝากหลานเค้าด้วย
แต่พี่อ้วนหลับ โทรเยอะมาก ๆ กว่าพี่อ้วนจะรับ
ได้เจอแป๊บเดียวจริงๆ รีบขึ้นรถกลับกระบี่ต่อ
สรุปว่า ออกจากภูเก็ตร่วมหกโมง ถึงกระบี่ 3ทุ่ม


เป็นวันที่เหนื่อยจริงๆ แต่สนุก และได้ประสบการณ์อะไรหลายๆอย่าง


ปล. ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ฉันจะเล่าย้อนหลังวันไปรีทรีทที่อ่าวลึกเนาะ
มีรูปแล้ว แต่ไม่ได้เล่าเป็นเรื่องเป็นราวสักที

 

 

Related Posts with Thumbnails