“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

..Many things from Kun Pa..

วันนี้ไปนอนบนห้อง มีเวลาพักยาว แม่โทรปลุกหรอกเลยตื่น
ไม่งั้นมีสิทธิ์ยาวเหยียดไปกว่านั้น
เพราะแค่นั้นก็ห้าโมงเย็นเข้าไปล่ะ (ไปตอนเที่ยง)
ฟ้าก็ได้ประมาณนี้..








มองออกไปเห็นนก สี่ตัว (จำไม่ได้ว่าเค้าเรียกนกอะไร แต่พ่อรู้)
ด้วยความที่หน้าต่างห้องเปิดได้เงียบดี นกซึ่งก็อยู่ไกลเลยไม่หนีไปไหน
ได้รูปแบบซูมสุดๆแค่นี้แหละ ..


ลงมาเจอกล่องพัสดุของป้ากบ
คิดๆอยู่ว่าน่าจะถึงวันนี้แหละ ..


..

อย่าช้าเลย มาดูสมบัติกั๊น !!































มีจดหมายน้อยแนบมา ป้ากบบอกว่าไม่ใช่แค่ของจากญี่ปุ่นกับเวียดนาม
แต่มีนั่นโน่นนี่มาอีก ป้าก็ใส่มาให้ซะเต็มกล่องเลย ฮ่าๆ
เห็นเยอะๆ มีขนุกขนมแบบนี้ หาได้ลองกินไม่
เอามาถ่ายรูปแล้วเก็บใส่กล่องเหมือนเดิม ยกเว้นตุ๊กตาญี่ปุ่นของฉัน
ที่ยังไม่กินน่ะ เพราะรอพ่อกลับมาก่อน จะได้ฉลองกัน ฮาๆ
(เนื่องในโอกาสอะไรเนี่ย)


...

คืนนี้วุ่นวือ เพราะพัดลมที่เป่าโอเชียนมันเจ๊ง (พัดลมตั้งโต๊ะ)
ก็น่าอยู่หรอก เพราะแทบไม่ได้หยุดยาวนาน ได้พักแค่ช่วงเปิดแอร์
ซึ่งบ้านนี้เปิดแอร์ได้ไม่นาน มันหนาว และถ้าปิดประตูก็จะไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไร
(อยู่บ้านยังไงก็ต้องเฝ้า)


อะไรก็ไม่อะไร แต่มีคนได้ผลกระทบจากการเสียของพัดลมสองคน
คนนึงคือฉัน ยังไงก็ไม่ไรมาก ไปโน่นมานี่ได้ ไม่เล่นคอมพ์ตลอดเวลาก็ได้
แต่อีกคนนี่ออกทาง เปิดแอร์ก็หนาวน้ำมูกไหลมาเทมา
แต่ถ้าปิดแล้วไม่มีพัดลม ก็ร้อนจนเหงื่อแตกไหลเป็นน้ำตก
หาความพอดีไม่เจอเล้ย ......สุดท้าย ต้องนั่งเป็นเพื่อน ห้ามนอนนะ นั่งเท่านั้น
ก็ว่ากันไป........


...

ช่วงหัวค่ำได้ยินเรื่องราวที่ทำให้รู้สึก "เบื่ออออออออ"
เบื่อทั้งคนที่ทำเป็นเข้าใจยากเพราะเห็นแก่ตัว
เบื่อทั้งคนที่ต่อหน้าเราดี แต่ลับหลังเราเป็นอีกอย่าง


แต่นั่นแหละนะ .. ไม่อยากเสียสันติสุขในใจอ่ะ
อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน เพราะเหตุผู้ที่เจริญตามทางของเขา..
กับสิ่งที่ได้ยิน คือรู้ว่า ใครกำลังทำอะไร คิดอะไรยังไงไม่รู้แน่ชัด
แต่ที่แน่ๆ คือ จะส่งผลกับความคิดเราแน่ๆ ..
และเพราะไม่อยากตกหลุมเลยขอบ๊ายบาย เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง !!


...

ปิดท้ายด้วยอิลลัสประจำวัน
อารมณ์ยังค้างมั๊ง แต่มันก็จริงนะ ไม่ค่อยอยากพบเจอ
ไม่ได้เกลียด แค่ไม่อยากเจออ่ะ .... สงสารเค้าที่ต้องตีสีหน้าใสซื่อ




เลยได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยนๆในอิลลัสเนี่ย ฮ่าๆๆ

ปล.เกือบลืมเล่า เมื่อคืนงูมาซ่อนใต้ตู้เย็นข้างนอก
โอย ตัวเล็กก็เหอะ ไม่ชอบเลยอ่ะ แต่แม่ว่า มันหนีไปแล้ว
ว่าจะออกไปซักผ้าเมื่อคืนเลยยังไม่ได้ทำเลย -*-

 

 

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

..My Sunday..

ไม่เล่ายาวมาก เพราะเมื่อวานก็เล่าไปซะครึ่งวันแล้ว
เป็นวันอาทิตย์ที่ไม่มีประชุมนมัสการ
เปิ้ลก็โทรมาถามนะว่าจัดกันรึเปล่า เลยบอกว่า ป่วยหมดบ้าน
เวลานอนมันไม่เข้าเรื่องเข้าราวด้วย เลยฝากอธิษฐานเผื่อแทน


...

วันนี้อยู่โยงตั้งแต่เช้าจนค่ำ เหตุเพราะกลัวไม่มีใครอยู่บ้าน
ออกจากบ้านแล้วไม่ปิดรั้ว ต้องวิ่งไปปิด
คือ .. อย่างที่เล่าไปวันก่อน ฝั่งตรงข้ามเค้ากำลังสร้างกำแพงใหม่
ช่วงนี้ก็กำจัดขยะบ้าง ตัดต้นไม้บ้าง สารพัดสิ่ง
ถ้าบ้านนี้เปิดประตูรั้วไว้ยาวนานไม่มีใครปิด .. จะไว้ใจได้ไหมว่าจะไม่มีปัญหาอะไร?


สรุปว่าตาแข็งไปก็ได้ทำงานบ้าน อาบน้ำแล้วมานั่งพับผ้า กวาดบ้านจัดโน่นนี่
ได้ดูหนังที่อยากดู แต่ไม่โดนใจอะไรมากมาย
สงสัยหนังรักๆจะไม่ใช่อะไรกะฉันมากแล้ว (แลจะแก่แล้ว ก๊าก)




ก่อนจะเที่ยงไปถ่ายรูปดอกไม้ใบหญ้าในสวน
จริงๆอยากได้รูปพวกแมลงตัวเล็กเหมือนที่เคยได้ แต่ไม่มีอ่ะ...
เจอแต่ดอกไม้เล็กๆน้อยๆ


...

ตอนค่ำแม่ทำปลาแป้นชุบแป้งทอด เป็นปลาตัวเล็กๆที่ต้องทอดให้กรอบถึงกินได้หมด
อร่อยดีนะ เค้าทำน้ำราดด้วย แต่แยกไว้ พอจะกินค่อยตักราด
น้ำราดเป็นน้ำส้มรสคล้ายๆน้ำบ๊วยเจี่ย ใส่หอมใหญ่กับมะเขือเทศด้วย
แต่ตอนฉันกินอ่ะ คือไปช่วยแม่ปลอกหอม เก็บขยะ ฯลฯ (ผู้ช่วยๆ)
เลยยืนกินปลาเปล่าๆ ไปซะอิ่ม ฮ่าๆๆ


แม่ไม่ว่าอะไร เพราะไม่อยากให้กินข้าวมากอยู่แล้ว


สักสามทุ่มก็ว่าจะนอน ก็ได้นอนนะ แต่ตื่นสักเที่ยงคืนกว่ามั๊ง มีคนปลุก
คนเดิม เออ ต้องให้ตื่น แล้วอยู่เป็นเพื่อนจนเช้า
พิลึกคน ทำไมต้องเรียกแต่ฉันด้วยก็ไม่รู้ !!




ไม่โกรธหรอก แค่ง่วงเหนื่อย
พอเช้ามืดเลยไปทำมาม่าต้มยำกินกับปลาทอด ..อร่อยดี
ตบท้ายด้วยกาแฟกับขนมเค้กซองๆอีกอัน ....อิ่มมากกกกก


...

ปิดท้ายด้วยอิลลัสประจำวัน
เนื่องจากวันหยุด เลยขอเอามาอวดทีเดียวสองรูป ฮ่าๆ
แบบว่า เมื่อวานไม่ได้วาด วันนี้เลยเอาซะสองเลย .. ชดเชยไง






เป็นคุณอากับคุณป้า
ยังไม่เหมือนเป๊ะๆ แค่แลดูว่าคล้าย
ตื่นเต้นกับการได้รู้จักใช้เครื่องมือเพิ่มขึ้นอีกหน่อย ลดตรงนั้น เพิ่มตรงนี้
ไม่ต้อง undo มันซะทุกรอบ หรือ delete ตลอด

 

 

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

..เลือก "แอก" ให้ถูก..

วันเสาร์เป็นวันอะไรที่รู้สึกหนักเหนื่อยจัง
เพราะสองคนในบ้านไม่ค่อยสบาย มันจำเป็นที่ต้องให้เค้าได้พัก
ดังนั้น ฉันเลยไม่อาจจะนอนช่วงกลางวันได้
(อย่างที่เล่าเมื่อวาน ว่ามันมีธุระเรื่อยๆ)


เมื่อคืนง่วงจัด น่าจะนอนไปตอนสองหรือสามทุ่ม
ตื่นสักเที่ยงคืนได้มั๊ง มีคนเรียก .. เหงาว่างั้น
ก็เลยตื่นตั้งแต่ตอนนั้น อยู่เป็นเพื่อนจนเช้า
ความที่รู้สึกอยากนอนต่อเหลือเกิน แต่ต้องทน
เดินเซ่อออกไปอุ่นอาหารมาป้อน ชนพัดลมตั้งโต๊ะหัวทิ่ม ใบพัดแตกอีก
เกิดอาการไม่สมดุลย์สั่นเป็นระวิง ต้องหาจุดสมดุลย์ค่อยๆวาง
แล้วอย่าไปสะกิดสะเกาอะไรมันอีก...




สักพักก็ได้อาหารมาหนึ่งจานหลัก มีแกงมั่วซั่วกับไข่ต้มอีกฟอง
กินหมดเกลี้ยงเลย .. แค่นั้นคนทำก็ดีใจแล้ว


...

เช้าก็แล้ว เริ่มนั่งไม่อยู่ ฟังคนที่มีเวลาพักบอกว่าชอบนอนแต่นอนไม่อิ่ม
ยังนึกสงสารตัวเองไม่ได้อีกแน่ะ ว่า ถ้าเป็นฉันคงนอนซ้าา ให้เต็มเวลาพักนั้นเลย


พอแม่ลุกขึ้นมานั่ง เค้าว่า "ต้องนอนพักนะ แล้วจะดีขึ้น"
ฟังแม่แล้วก็อยากนอนบ้าง แต่งานหลายอย่างยังไม่เสร็จ
ก่อนจะไปกินข้าวกับแม่ พ่อโทรมาเล่าเรื่องค่ายให้ฟัง
เล่าว่า อาจารย์ที่มาเทศนา พูดพระคัมภีร์มัทธิว11:28


"บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา
และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา
เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก
ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา"


ฟังแค่ข้อพระคัมภีร์ที่พ่อพูดผ่านสายโทรศัพท์ (แม่เปิดลำโพง)
ก็ได้รับการหนุนจิตชูใจทันที จากตอนแรกปิดคอมพ์แค่คิดว่าจะไปทำงานบ้านให้มันเสร็จๆ
อยากฆ่าเวลาให้มันผ่านๆ ทิ้งๆไป เพราะไม่มีแรงจะเย็บ จะวาด จะอะไรที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์
แต่พอพระวจนะพระเจ้าผ่านเข้ามาในหู ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็กลายเป็นน้ำตา
ไม่ใช่สงสารตัวเองแล้วนะ แต่ฉันรู้ว่า
ฉันต้องเอาภาระหนักอันนั้นวางไว้ที่ไหน ใส่มือของใคร
หัวใจที่รู้สึกเหี่ยวเฉาก็เหมือนได้รับการรดน้ำ ..ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งการหนุนน้ำใจมาทันเวลา
เพราะถ้าฉันดำเนินชีวิตไปใช้แต่แรงกำลังตัวเองอย่างเดียว น่ากลัวจะท้อใจจนแทบไม่ไหว



source :sweet meadow life (by pink*fish)


บางทีมันก็เหนื่อย หลายเรื่องพูดออกไปไม่ได้ กระทบหลายฝ่ายบ้าง เรื่องอ่อนไหวบ้าง
เรื่องที่พูดแล้วก็แค่ระบาย ........ เจอคนที่สร้างอารมณ์ความรู้สึกต่างๆนา ๆ ให้บ้าง
จริงๆมันก็เป็นเรื่องปกตินะ ในโลกที่มีแต่ความบาป
พอคนเราทำ พูด คิด ให้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง
มันก็กลายเป็นทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง และแน่นอนที่พฤติกรรมแบบนั้นจะส่งผลลบต่อคนอื่น
พอเรายิ่งคิดถึงสิ่งเหล่านั้น พร่ำพูดบ่นบ้าง ระบาย รำพัน สารพัดสิ่งพวกนั้น
มันเลยเหมือนเราเอายาพิษใส่ปากตัวเองไม่เลิกไม่รา .........
(อาการนี้ฉันเป็นปีละสามร้อยครั้งมั๊ง ฮ่าๆๆ เมื่อไหร่จะเลิกนะ เดินๆถอยๆ ท้อๆ หยุดๆ )


เช้านี้ฉันเลยเปลี่ยนความคิดซะใหม่ เปลี่ยนทัศนคติกับหลายอย่าง
เริ่มจากการมองคนบางคน ถ้าคิดถึงแล้วใจลบ จะอธิษฐานเผื่อแล้ววางเรื่องเค้าลง
ต้องทำให้ได้เหมือน " อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน เพราะเหตุผู้ที่เจริญตามทางของเขา"
บางครั้งเจริญลงเราก็เดือดร้อนนะ แต่นั่นแหละ อย่าเป็น !!
กับเวลาและวาระในการทำงานทำการ ก็ทำไปตามมีกำลังจะทำ
ไม่ไหวก็หยุด ก็พัก ชีวิตเรามีค่ามากกว่าจะมาเสียเวลาคิดสงสารตัวเองแต่ก็ไม่พัก
(แต่ตอนนี้มันตาค้างอ่ะ ต้องเล่า เดี๋ยวจะลืม อิอิ)


...

เมื่อคืนพี่จันโทรมามิสคอลตั้งห้ารอบ ไม่รู้มีอะไร
พอวันนี้โทรกลับ .... ไม่ว่างซะแล้ว
บอกว่า "เดี๋ยวว่างค่อยโทรมาโม้" โอเค ว่างค่อยโทรมาโม้ล่ะกัน ฮ่าๆ
(คุยธรรมดาแบบไม่โม้นี่ได้ม๊ะ? เอิ๊กๆๆ)


ปล.ไม่มีรูปวาดจ้ะ

 

 

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

..GBU dad & every one...

วันนี้หัวมันมันตื้อ แต่ก็จะอัพตามปกติ

...


ความที่กลางคืนได้นอนไปหลายชั่วโมง กลางวันก็เลยอดนอนไปโดยปริยาย
เพราะแม่ต้องเตรียมกระเป๋าให้พ่อ
ต้องอยู่ช่วยกันจัดหาข้าวของมั่ง เฝ้าคนป่วยตัวเล็กมั่ง
แถมตอนสายๆ คุณนกเอานนท์มาส่งไว้อีก
รายนี้ไปค่ายคนเดียว เพราะแม่เค้าหยุดงานไปไม่ได้


เห็นหน้าเจ้านนท์เลยนึกได้ว่า วันก่อนรื้อชั้นเจอแว่นตาอันเก่า
ก็ว่าจะเก็บไว้ให้แหละ ไม่ใช่ว่าได้ใหม่แล้วลืมเก่าหรอก
แต่ใส่แล้วมันกดจมูก เพราะเราหน้าใหญ่มั๊ง(กายภาพจริงๆนะ)







แต่ก่อนจะยกให้ ขอเล่นซะหน่อย ..
เห็นแล้วคิดถึงหนัง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ เลยอ่ะ ยุคแว่นดำไม่ใหญ่โต




พอลงมาก็เลยถามให้ เอาด้วยแฮะ
เห่อขนาดจะยัดใส่กระเป๋า (เดี๋ยวก็พังก่อน ให้ใส่เดินทางนะ)




ระหว่างรอให้รถมารับตอนสี่โมงเย็น ฉันคล้ายจะเป็นพี่เลี้ยงเด็กสองคน
แต่ดีที่นนท์ไม่ค่อยอะไรมาก ให้งานอะไรไปทำก็ทำ ให้ไปวาดรูป
ต่อจิ๊กซอว์ เอาหนัสือให้ไปอ่าน
จริงๆก็อยากหางานให้ช่วยทำหรอกนะ แต่ว่า ไม่มีเวลาคุมอ่ะ
แค่ไปนั่งกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อน วางแผนว่ากลับมาแล้วค่อยทำงานประดิษฐ์อะไรกันดี






พอเกือบสี่โมง บ้านคุณนิกก็มา รถอีกคันก็นัดเวลาเดียวกัน
แต่ฉันมีเวลาถ่ายรูปเล่นกับโนอาห์ตั้งพักใหญ่ รถคันแรกมาเลตไปไม่มาก
คันหลังนี่สิ รอกันจนแม่แทบหลับ
มันต้องรอเฝ้านะ เพราะหนึ่งก็โทรติดต่อสอบถามจัดการให้เค้า
รอล็อคประตู


คันหลังมาพาเซ็งหน่อยๆ เพราะมีบางคนทั้งที่เคยเดินทางแล้ว
แต่ไม่รู้ว่า การเดินทางไกล โดยใช้รถกระบะ ต้องมีถุงดำสวมกระเป๋าเดินทาง
ไม่เตรียมมาเลยอ่ะ มาหาเอาทางนี้ ......แล้วจะเหลือม๊ะ?
เพราะคันแรกเค้าเตรียมแล้ว เค้าก็เอาสำรองของเค้าไปหมดสิ


...

ส่งคนขึ้นรถกันหมด ปิดประตูแล้วพากันมากินข้าว
น้องยังหลับ กินเสร็จ ฉันว่าเดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะอยู่เฝ้าให้แม่นอน
เพราะแม่บอกตลอดว่า "ไม่ไหว ง่วง "


แต่ ... คนจะเฝ้า อยู่ได้แค่สี่ทุ่มกว่ามั๊ง ขนาดว่าดูหนังสารพัดเรื่อง
เผลองีบไปหน่อย ตื่นสักตีสองได้
แล้วก็เป็นเหมือนเดิมเหมือนเมื่อวาน ..


...

ตอนนี้ก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ยังไม่นอน
อยากให้แม่เค้าได้พัก เค้าว่าเค้าไม่ได้นอนพักดีๆเลย
ก็นอนแล้วหายใจไม่สะดวกลุกมานั่งหายใจเป็นพักๆ คัดจมูกอ่ะ
หมอนสูงก็ยังไม่ค่อยช่วยเนอะ


แต่ฉันก็มุขเดิม เสื้อกันหนาวแหละ
เมื่อกี้ไปตากผ้า กลับเข้าบ้าน น้าโทรมาให้เก็บผ้าที่ตากไว้ให้เข้าร่มให้
นึกอยู่ว่าถ้านอนหลับแล้วต้องลุกมารับโทรศัพท์ คงจะไม่ค่อยดี(กับตัวเอง)
ตื่นอยู่ก็ดี แต่จะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้


...

ปิดท้ายด้วยอิลลัสประจำวัน มาแบบเฉียดฉิว
ดราฟ์เค้าค่ะ ถ้าวาดรูปเองวันนี้คงไม่พ้นแพนด้ายักษ์นั่งอยู่หน้าโน๊ตบุคอ่ะ




ต้นแบบดูสวยสงบดี แต่ลอกมาได้แบบว่า.. ฮ่าๆ น่ะ อย่าคิดมาก

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

..Just Start..

เคยเป็นมั๊ย .. อาการที่ พอเราเก่งแล้ว เข้าใจแล้ว ก็ลืมไปว่า..
ก่อนนี้เราเคยไม่รู้ ไม่เข้าใจ ทำไม่ได้มาก่อน


ฉันว่ามันเป็นอาการของคนที่ยังไม่ได้รู้จริงๆหรอก
เพราะถ้าเข้าใจอย่างแท้จริงแล้ว คงไม่ลืมคิดว่า ครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นหน้าใหม่


วันก่อนมีคนอยากให้ฉันรื้อห้องนั่งเล่นมาอัพเดต
มันจะไปมีอะไรใหม่ได้ ก็เหมือนๆกัน มีตั้งไม่รู้กี่คนที่ทำ
คิดไปก็ใจโหย .. ตอนนั้นเป็นช่วงที่ชอบอัพไดอารี่แล้วตกแต่งให้สวยๆ
ใส่ไอค่อนตุ๊กตาตัวเล็กๆน่ารัก รูปสวยๆ เพลงเพราะๆที่เปลี่ยนได้ทุกวัน
มันเริ่มมาจากมีเวปโฮสท์ให้ใช้พื้นที่ฟรี ให้ได้ลองของ ลองเล่นกัน
สนุกสนานที่ได้สร้างเวปเครือข่ายอีกไม่รู้จะกี่เว็บ ..
พอเว็บโฮสปิดลง ไม่นาน เว็บไดอารี่ก็ไปอีกราย
เป็นอันปิดฉากการความสนุกในช่วงเวลาร่วมสามปี



ตอนที่สนุกกับการเป็นแอดมินฟรีๆไม่ได้เงินสักบาท เพราะเอาของเค้ามาแปะต่อ แบ่งต่อ
ไม่เข้าใจอะไรมาก ไม่รู้จักแบรนวิท ไม่รู้ว่าอะไรจะดึงข้อมูลอะไรยังไงมากมาย
แต่รู้อย่างนึงว่า ความรู้ที่เราสามารถหาได้เองจากกูเกิ้ลนั้นมีให้หามากมาย
ดังนั้น ถามกูเกิ้ลไว้นั่นล่ะดี
มันเริ่มมาจากตอนไปเล่นเว็บไดฯช่วงแรก อยากเปลี่ยนบีจี แต่ทำไม่เป็น
แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะไปหาได้จากที่ไหน เซ่อขนาดที่ไปหา "วอลเปเปอร์" ที่เป็นวอลเปเปอร์จริงๆ
ไปเห็นของเด็กคนนึงใช้บีจีลายน่ารักเลยไปถาม เจอคำตอบที่แสนจะกวนมากในตอนนั้น
"ว่าหาในเนต" ปั๊ด ก็คนมันไม่รู้นี่ ว่าหายังไง (ตอนนั้นไม่รู้จักกูเกิ้ล)


เฮ้อ .... เวลาผ่านไปหลายปี บางทีเห็นคนไม่รู้ ก็ยังนึกยิ้มๆ
มันไม่มีอะไรยากเกินจะเรียนรู้หรอกเนอะ ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรด้วย
แค่ไม่มีอคติกับใจที่อยากจะเรียนรู้ก็ทำได้... (ระดับหนึ่งล่ะน่ะ)


ก็เป็นอันว่า ไม่ทำแล้วห้องนั่งเล่น ปล่อยทิ้งไปงั้นล่ะ
เดี๋ยวนี้มีกันเกลื่อน ใครก็ทำได้
พาลให้คิดถึงสี่ห้าปีก่อนที่มีคนอยากให้ฉันได้รายได้จากการทำเว็บ
แต่ไปมาๆ มีแต่เสียสตางค์ ..... เซ็งจัง
เพราะการที่รู้อะไรก็ไม่จริงซะทีเนี่ย เหมือนเป็ดเลย ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง
จริงๆ ประโยคที่ว่า "อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
มันก็เป็นเรื่องจริงนะ รู้ไม่จริง กลายเป็นของเล่น
รู้จริงๆ จะสร้างมากกว่าแค่ความสุขไปวันๆ


ขึ้นอดีต จบด้วยหลักคิดของปัจจุบัน ที่พยายามทำให้มันเป็นอยู่

....

เมื่อเช้าช่วยแม่ทำพะโล้ เอ๊ะ ตอนเย็นนี่ ฮ่าๆ ลืมอ่ะลืม
ตอนเที่ยงบ่ายหรอกที่ทำ แบบว่าลืม




แม่ทำหม้อใหญ่มากอ่ะ เค้าได้หมูถูกจากแมคโคร
ก็เลยทำไว้กินนานๆ เป็นช่วงอยู่กันเองด้วยแหละ เรื่องมากไม่ได้
ว่าไปก็น่ากินดีนะ ตอนแรกไม่อยากกินเล้ย แต่แม่ทำไม่เลี่ยน ไม่หวานมาก

...

ตอนทำกับข้าว ออกไปดูลูกชมพู่ที่ต้นซะหน่อย
เห็นตั้งแต่วันก่อนแล้ว แต่แม่บอกว่าอย่าเพิ่งเก็บ เค้าอยากให้มันโตหน่อย สุกหน่อย


เลยไปเอากล้องมาถ่ายรูป ที่ไหนได้ ดูใกล้ๆแล้วเห็นเลย
มีตัวอะไรสักตัวมาแทะไปแล้วเกือบครึ่งลูก ทำกันได้นะ!!
เดาว่าเป็นกระรอก เพราะมันวิ่งไปวิ่งมาอยู่แถวๆนี้






ก็นะ เลยเอาที่เหลือมาล้างแล้วตัดแต่งแบ่งกันกิน
หวานดีจัง ชมพู่ทองคำเนี่ย ปีนึงออกไม่เกินสองผล
ว่าไปปีที่แล้วไม่ออกซะด้วยซ้ำ
แม่สั่งปุ๋ยของ TPI ไปแล้ว เห็นเค้าว่ามันจะปรับปรุงดิน ทำให้ดินมีธาตุอาหารกับต้นไม้
ได้ยินว่า คุยกับคนขายปุ๋ยตั้งพักแล้ว แต่ยังไม่มาส่งทีนะ
สงสัยคนขายปุ๋ยจะยังไม่ได้เข้าเมือง

...

ตอนกลางคืนง่วงมาก (ปกตินะนี่ ง่วงกลางคืน ฮ่าๆ)
เจอคนป่วยกันทั้งบ้าน กระจองอแงเหลือเกิ๊น
พอสี่ห้าทุ่มเริ่มอยู่ไม่ไหว หาที่ซุกหัวนอนทันที
ดีที่ใส่เสื้อกันหนาวตลอด เค้าเปิดแอร์ด้วยแหละ




ตื่นมาก็ไม่ได้อยู่เองคนเดียว มีคนตื่นตามอีกเหอะ
จะเย็บดอกที่ตัดไว้แล้วก็ไม่ได้ เลยต้องนั่งวาดรูป
โหย ไม่อยากจะอวด แต่เอามาอวดแร้ว ซึ้งเลยว่า ดราฟท์เค้ามันมีโครงเส้น โครงสร้าง
มือให้นิ่ง ให้สีให้สวยเหลือใกล้เคียงก็พอถูไถ
แต่วาดเองจากหัวเรานี่เนอะ ....... เหมือนหัวมันกลวงไปหมดเลย
ไม่มีอะไรให้คิดว่าจะทำแบบไหนเลย เพราะถ้าแบบไหนก็แนวโน้มจะก๊อปเค้า






อยากรู้จัง คนที่วาดเก่งๆ จนมีตัวการ์ตูนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เค้าคิดยังไง


ปล.เนื่องจากแต่งกระเป๋าไม่สวย เค้าจะเอาไปฝากคนไม่ได้
เลยได้โอกาสไปนำเสนอตุ๊กตาบัลเล่ต์ ...ขายได้อีกแน่ะ
แต่แม่บอกว่า "เดี๋ยวค่อยจ่าย" อ่ะ

 

 

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

..the Blue Flower..

คืนนี้เตลิดเปิดเปิงมากมาย
ความที่ตื่นเร็วกว่าทุกวัน (ที่ผ่านมานอนบ่ายตื่นดึก)
ตามเคยแหละ ตื่นมาดูซีรี่ส์ ฮ่าๆ


ป่าวๆ แม่กับพ่อจะไปแม็คโครหรอก
ดีที่มีคนปลุก ไม่งั้นคงยาวอีก (สันหลังจะยาวล่ะนะ)
ก็กว่าจะหลับมัวแต่ไอไม่เลิก ตื่นมาไอต่อ เฮฮาปาจิงโกะจริงๆ
ต้องพกสองสิ่งนี้ตลอด...




ยาพ่นคอ กับลิปมัน
ไม่เข้าใจ ป่วยทีไรปากแตกทุกที


...

เปิดเปิงที่ว่า คือ ง่วงหนักช่วงเที่ยงคืน เลยขอเจ้านายหลับไปหน่อย
ตื่นมาเกือบตีสอง มาปฏิบัติหน้าที่ประจำ
แล้วก็เย็บใบไม้ต่อจนเสร็จที่ตัดไว้


เอ่อ เล่าตั้งแต่เช้าก่อนดีกว่า มันเหมือนจะเล่ากลางดึกก่อนแล้ว
เดี๋ยวจะย้อนไปย้อนมา งงเอง


...

เมื่อเช้าก่อนนอนเอาดอกไม้ที่ทำไว้ไปสอยติดกับถุงผ้าใบเล็ก
มันเล็กจังนะ แล้วก็ไม่รู้ที่มาด้วย เก่าแก่เชียว จับแช่แล้ว ซักแล้ว
แต่นั่นแหละ ซักบิดซ้า... พอเอามารีดด้วยเตารีดน้อยแถมไม่มีน้ำยามันเลยไม่ค่อยเรียบ
เอาไปทำข้างบนอ่ะ เลยไม่มีน้ำยา เดี๋ยวคงต้องหาอุปกรณ์ไปอีกแหละ
(แม่ยังถามว่าเอาไปข้างบนทำไม ฉันขี้เกียจแบกลงมาแล้ว เศษผ้ากับอย่างอื่นก็อยู่นั่น)








ตอนแรกเย็บแต่ดอกสีน้ำเงิน แต่ดูไปดูมา เอาสีฟ้าแปะไปสักหน่อยดีป่ะ?
(แลไม่ค่อยดี ฮ่าๆ ... มันตัดกันฉัวะเลย)
พอเอาลงมาแม่เห็นก็ชอบ เลยอยากให้ตกแต่งถุงผ้าของโบสถ์ด้วย
เค้าจะให้ตกแต่งเผื่อจะดูดีขึ้นจะได้ขายได้
(ทำมาสองปีแระ ลงปีไว้ถึงได้เห็น ขายไม่ออก )
ไม่วิจารณ์ล่ะกัน แต่จะเซ็นเซอร์ ไม่ใช่ว่าเค้าทำไม่สวย แต่มันไม่โดนใจคนซื้อว่างั้น




แต่ทว่า.. ผ่านมาในมือฉัน ก็ไม่ได้สวยขึ้นเล้ย ฮ่าๆ
รู้สึกลำบากใจมากถึงมากที่สุด
คิดว่า ขอกลับหลังหัน เอาอีกด้านที่ว่างเปล่ามาแต่งล่ะกัน
ถ้าเน่า ก็คือ ฉันทำเน่าเอง .. (คิดว่างี้นะ)
เพราะแม่บอกว่า เอาไปเหอะ จะไปตกแต่งอะไรยังไงก็ได้
จะได้ใช้เป็นของขวัญก็ได้
แต่เค้าก็ให้ไปออกแบบมาว่าแบบไหนน่าจะโอเค
ก็เลยนั่งหาแบบอยู่ชั่วโมงกว่าๆนี่แหละ
คงจะเน้นดอกไม้ก่อน ทำจากดอกไม้ผ้าง่ายๆที่ฉันทำเป็น
ถ้าไม่ปลูกต้น ก็ใส่แจกัน หรืออะไรก็ว่ากันไป
ดูคนอื่นเป็นแนวแล้วลองทำ ตอนนี้ก็ตัดผ้า เตรียมผ้าไปก่อน


....

ปิดท้ายด้วยอิลลัสประจำวัน
วาดน้องแก้ว (เจ้าตัวคงไม่กรี๊ดนะ)
วาดยากมั๊ยไม่รู้ แต่รู้ว่าวาดคนต้องใช้อารมณ์ที่จะวาดจริงๆ
เปิดไว้ตั้งแต่วันศุกร์อ่ะ (คอมพ์ปิดแบบไม่ชัตดาวน์) แล้วก็เอารูปอื่นมาวาดไปเรื่อยๆ
แต่วาดรูปน้องแก้วไม่ได้ซะที




เช้านี้หาแบบพวกดอกไม้เสร็จ มาวาดรูปดีกว่า


ปล. น้องก็เป็นหวัดแต่ใส่ถุงเท้า ตื่นมาไม่จามเลย
ดีจัง ต้องหาถุงเท้าใส่บ้างแล้ว

 

 

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

..ปลิวไปกับความมึน..

ไม่รู้จะเล่าอะไร หวัดกินแล้วมันง๊องแง๊งชะมัด
งานการก็ทำตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือนอนเยอะมาก
ไม่อยากนอนบ่ายตื่นสี่ห้าทุ่มแล้วอ่ะ รีบไปนอนดีกว่า




เอาอิลลัสที่วาดเมื่อวานมาแปะ..
ว่าไปลองวาดเองด้วยนะ แต่ตลกมาก เด็กน้อยเลย
ดราฟท์ภาพถ่ายแล้วดูดีกว่าจม (เอ๊ะยังไง)


ปล.ดีที่เจอเสื้อกันหนาวสมัยม.สี่ มันมีหมวก เลยเอามาใส่อยู่เนี่ย
ขำเนอะ เปิดพัดลมเพราะร้อนแต่ต้องใส่เสื้อเพราะไม่อยากเจ็บคอแล้ว
(ก็ช่วยได้เยอะนะ ..... )

 

 

Related Posts with Thumbnails