“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

..Stop and Repair !!..

งีบไปสี่ชั่วโมง ตอนนี้ตีสี่จะตีห้าแล้วอ่า
ขอเย็บปลอกหมอนต่อก่อน เดี๋ยวเสร็จแล้วจะมาเล่า

...

ยังไม่เสร็จหรอก ตีห้าล่ะ ความคิดมันฟุ้งกระจาย
มีถ้อยคำมากมายที่อยากจะพูดอยู่ในหัว..

วันนี้ฉันปรับลูกค้าที่มาจองห้องแต่เปลี่ยนใจไม่เอาไปคนนึง
เหมือนได้เงินเปล่ามา 500 แต่สูญเงินที่ควรจะได้ 5,000
ซึ่งจริงๆ จะเรียกว่าเงินเปล่าก็ไม่ได้ ถึงเค้าจะไม่ได้ใช้ห้อง แต่เค้าจองไว้
ระบุว่าจะย้ายเข้ามา แต่เปลี่ยนใจ ห้องถูกจองไว้ เป็นสิทธิ์ของเค้า
เป็นลูกค้าคนแรกที่เจาะจงจองในรอบอาทิตย์ ส่วนใหญ่จะโทรสอบถาม
เข้ามาดู แต่ยังไม่ตัดสินใจ .. นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องเร่งทำห้องที่เสร็จเร็วให้ขายต่อได้



ตั้งช่วงเย็น ฉันก็เลยนั่งเย็บแต่ปลอกหมอน
แม่จะตัดผ้าไว้ให้ แล้วก็ให้ฉันเย็บด้านข้าง พอแม่ใส่หมอนแล้วก็จะเย็บปิดด้านบนเอง
ปกติเราจะเย็บต่อกันไม่ค่อยได้ เพราะแม่ถนัดซ้าย ฉันถนัดขวา
แต่คราวนี้ เป็นตะเข็บด้านใน แม่บอกว่าไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องกลับออกมาอยู่ดี แถมเย็บปิดตาย
ซึ่งฟังดูก็โอเค ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อยากจะช่วยเย็บด้านข้างเองให้หมดจะดีกว่า
ดังนั้น ช่วงค่ำที่เค้าซ้อมนมัสการกับประชุมอธิษฐานกัน ฉันเย็บเอง
เสร็จไปสองชิ้นแล้ว พอเริ่มชิ้นที่ 3 เริ่มมั่นใจว่าเย็บตรง ความคิดที่ว่าจะเย็บไปตามลายผ้า
ซึ่งเป็นตารางๆ เย็บไม่ยากด้วย ก็เลยเย็บไปเรื่อยๆ
พอไปถึงตรงกลาง ก็เริ่มมองเห็นแล้วว่ามันเบี้ยว แต่ยังคิดว่า ก็เราเย็บตามลายผ้าแล้วไง
ผ้าก็ทบกันตรงดีนะ ปลายข้างนึงกับปลายอีกข้างก็ตรงกัน
แล้วฉันก็รั้นเย็บไปจนสุด พอเอามาดูชัดๆกับตา ..
ฉันพบว่า ด้านถูก(ด้นถอยหลัง) เป็นลายผ้าเบี้ยว ไม่สิ ไม่ใช่ลายเบี้ยว แต่ถ้าจะเย็บให้ตรง ถูก และคุ้ม
ต้องพลิกกลับไปดูจากอีกฝั่ง ต้องให้อีกฝั่งเป็นด้านถูก ผลคือ ฉันต้องนั่งเลาะแล้วเย็บใหม่

เสียเวลา แต่จำเป็นต้องทำ
นี่ถ้าฉันไม่เชื่อความคิดตัวเอง แล้วพลิกกลับไปดูอีกด้านบ้าง มันก็จะไม่เสียเวลาหรอกนะ

...

เรื่องเย็บผ้า เลาะผ้า ทำให้ฉันคิดถึงการตัดสินใจอะไรๆ เมื่อวันก่อน
ในบางความสัมพันธ์ ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่ามันเบี้ยวบิดผิดรูปแบบ
แต่ฉันก็ยังรั้นจะดำเนินมันไป พยายามจะเชื่อความคิดและเหตุผลจอมปลอมที่สร้างขึ้นมาให้ตัวเอง
ด้านหนึ่งมีเป้าหมายที่ดี แต่อีกมุมเพื่อความรู้สึกของตัวเอง
คือ ความรู้สึก อยากจะได้รับความห่วงใย คิดถึง ใส่ใจ
บ่อยครั้งที่ชื่นชอบของขวัญ ของกำนัล
แต่ความจริงก็คือ ทุกก้าวเราต้องอยู่ในแสงสว่าง ไม่ควรปล่อยให้เส้นทางชีวิตมันหลบเข้าไปในมุมมืด
ยิ่งนาน มันก็ยิ่งหลุดออกจากเส้นทางที่ควรจะเดินไปจริงๆ
การจ่ายราคา คือการลงทุน จุดประสงค์คือต้องการกลับซึ่งสิ่งหนึ่งสิ่งใด
หยุดที่คิดว่าใครผิดหรือถูก แต่ถ้าเรายังจะรั้นเย็บเบี้ยวๆไปเรื่อยๆ .. อย่างไรก็ต้องเลาะทิ้งในที่สุด
สู้หยุดตอนนี้ เลาะจากจุดที่ผิดพลาดแต่ยังไม่ไปจนถึงปลายทาง
อย่างน้อยการพยายามจะแก้ไขก็ไม่เสียเวลามากนัก

สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ บางเรื่องฉันพูดกับใครไม่ได้เลย แต่ฉันพูดกับเพื่อนผู้ประเสริฐของฉันได้
และคำตอบที่ทำให้จิตใจฉันมีสันติสุขขึ้นในระดับหนึ่งก็คือ
ถ้ารักและหวังดี ควรจะให้เรื่องเบี้ยวๆ ตรงไปตรงมาขึ้นได้ด้วยความจริง


ปล. ถ้าคุณเคยคุ้นเคยกับอะไรซ้ำๆเดิมๆ 45 วันขึ้นไป พอคุณต้องหยุดมัน
คุณจะรับรู้ได้เลยว่า .. คุณกำลัง "ขาด" อะไรไปสักอย่าง
แต่เพราะฉันไม่มีสติปัญญามากมายนัก การขาดไป ก็ดีเสียกว่าต้องสูญสิ้นสิ่งที่มีค่าที่สุดไป

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

..เปิดกล่องกันต่อ..

วนกลับมาปวดฟันอีกครั้ง .. ก็ดี ย้ำให้รู้ว่า วันจันทร์หน้านี้ต้องไปหาหมอจริงๆล่ะนะ
ก็เมื่อคืนกินข้าวกับหมูทอดฝีมือพี่เทิด คนอื่นกินไม่เป็น
มีแต่ฉันเนี่ย มันแข็งๆอยู่หรอก รู้สึกอยากกินแต่ส่วนสามชั้นเลยอ่า
เนื้อหนาและแข็ง ถ้าปกติอร่อยดี แต่วันนี้ฟันมันไม่ค่อยโอเค

ก็ว่าสินะ ตอนสอนเด็กๆ ปวดฟันจังแล้ว

...

วันนี้เบลอดีจัง นอนเก้าโมง เที่ยงตื่น
เอ๋อๆ วิ่งขึ้นลงชั้นสี่กับข้างล่างซะหลายรอบ หอบรับประทาน
แต่อากาศดี(เย็นฝนลมแรง)กับความร้อน




มันลืมไง เดี๋ยวลืมโน่น ลืมนี่
พักนี้มีห้องต้องทำกันเยอะ พรุ่งนี้คนก็จะออกอีกห้อง
ห้องเน่าๆ หมอนเน่าๆ ที่แม่คิดจะปรับปรุงแก้ไข
นี่ก็มาขอผ้าหลาละ 35 ที่ฉันซื้อวันก่อนมาลองวางๆทาบๆ
เค้าจะเอามาทำปลอกหมอน หุ้มปิดตายไปซะเลย


...

พูดถึงผ้า เอาผ้าที่อาอ้อส่งมา มาให้ดู
ลายเรียบๆ แต่เก๋นะจ๊ะ ชอบอ่ะ ขอไปเองด้วย แต่ได้หลากสีกว่าที่คิด
ถ้าร้านขาย น่าจะตอบโจทย์คนที่ชอบทำงานฝีมือแต่เลือกผ้าไม่เก่ง
ไม่มีเวลาไปร้านเอง ไปเลือกเอง หรืออยู่ที่ที่หาผ้ายาก ก็ได้นะ..





เห็นชิ้นสีน้ำเงินแล้วหัวเราะเลย วันก่อนเห็นลายแบบนี้เป๊ะ แต่สีอ่อนกว่า
ไม่ได้หยิบมา เป็นพวก หลาละ 80 ไปเอาลายดอกไม้วินเทจๆนั้นมาไง




จบผ้ามาดูของจาก กทม. กันต่อ เมื่อวานไม่ได้ถ่ายรูป เพิ่งได้ถ่ายนี่แหละ
กล่องขนมไหว้พระจันทร์ก็ได้ด้วย ตอนแรกเห็นอาซื้อ 2 อัน ไม่ได้คิดไรทีนะ
จะไปแซวขอ ก็ลืม มัวแต่อะไรไม่รู้ ทีไหนได้อาซื้อมาฝากกล่องนึง ดีใจแต๊ๆ
เพราะที่สนใจอยู่มีแต่กล่องนี่แหละ ส่องมาหลายปี ไม่ได้ซื้อเลย
(พูดอะไรที่จ่ายแพงๆ แม่ยกไปปีหน้าทุกที -..-)






ส่วนปิ่นกับที่คาดผม คุณนายเค้าเอาไปแล้ว
เอ๊ะ.. ไม่สิ แม่ชอบที่คาดผม จะเอาไว้ขาย เค้าก็ซื้อแหละ (งงๆ จ่ายๆรับๆกันตรงนี้ )
ก็โอเค เพราะเรื่องที่คาดผม แม่จะว่าเรื่องมากก็มาก จะว่าเรียบง่ายก็ง่าย
หาของที่จะโดนใจยาก ก็เลย เอาเลยคร๊าบ ตามสบาย


ปล. จะออกไปทำข้าวผัดให้น้อง ถือข้าวไปล่ะ แต่ต้องถอยทัพกลับเข้าบ้าน
สยองจริงๆ เขียดตะปาดเกาะอยู่หน้าเตา ตาแป๋วเชียว ... อี๋~

 

 

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

..เยอะจริงๆนะ..

ได้รับของจากคุณอาแล้ววันนี้
มาถึงตั้งแต่เก้าโมงกว่าแล้วแหละ ได้ยินเสียงคนมาส่งด้วย
แต่ตื่นลงมาดูตอนบ่ายครึ่ง

ไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่สาละวนทดลองดอกไม้คาดผม
จนแม่เห็นแล้วอ่อนอกอ่อนใจ ต้องบอกกันตรงๆว่า



"ไม่เข้าหน้า อ้วนไป๊ ไปลดความอ้วนก่อน หน้าจะได้ไม่พองมาก
ใส่ดอกไม้ดอกเล็กๆตลก น่าจะใช้ดอกโตกว่านี้"



สรุปว่า ต้องไปลดความอ้วนก่อนถึงจะใส่สวย แง่มๆ
แต่ไม่เป็นไรนะ หานางแบบได้แล้ว .. ลาเวนเดอร์นั่นเอง เอิ๊กๆ
นี่ก็วางแผนไว้แล้วว่าวันไหนฝนซาๆบ้าง จะหามุมถ่ายรูปได้แสงธรรมชาติ
แล้วทำโปสเตอร์ไว้โฆษณา



อยากจะขาย แต่ช่วงนี้ฝนตก ไม่มีใครให้ความสนับสนุนไปขายเลย
ก็อยากจะขายหรอกนะ ยิ่งไว้กันนาน ของแฟชั่นมาแล้วก็ไป ปล่อยไวๆหน่อยก็ดี

...

หัวค่ำไปเข้าแคร์ ไปดูเด็กซะมากกว่า
ตอนเค้าเลิกแคร์กันแล้ว เอาดอกไม้ใส่ถุงไปให้เค้าช่วยดูกันว่ากระดาษปิดด้านบนอันไหนสวยกว่า
เจ้าเปิ้ลเห็นเข้าเลยถามว่าจะเอาเป็นของขวัญให้ใครเหรอ .. ฉันว่ามาขายเนี่ย หน้าบ้าน
เค้ารีบเสนอว่า ถ้าจะซื้อ ฝากเค้าซื้อก็ได้ บอกราคามาเท่าอาอ้อบอกเป๊ะเลย
แต่ว่า เค้าเอาไปขายบวกแค่เท่าตัว ลักษณะมันจะคุ้มทุนไหมไม่รู้นะ แต่เค้าว่าเน้นขายไวๆ
ก็เห็นว่าขายตามตลาดนัดได้แต่ละที เป็นพันขึ้น เค้าว่าคิดง่ายๆ ถ้าขายได้พัน แสดงว่าได้ทุนขึ้นมา ห้าร้อย
เข้าใจจะว่าเนอะ ...





แต่เอาเหอะ ฉันก็อยากจะตั้งให้ราคาไม่แพงไป กลัวคนไม่ซื้อเหมือนกัน
ยังไงก็ขอให้ได้ตั้งร้านมั่งเห๊อะ ขายไดเร็คเซลล์กันตลอด ของมันไม่ค่อยไปไหนง่า..


คืนนี้แพคเสร็จไปไม่กี่สิ่ง เฮดแบนด์ ตุ๊กตาวูดู กำไลสองแบบ
แปะราคาไปแล้ว นั่งหาราคาที่น่าจะโอเคแล้วก็ตั้งให้กลางๆ ต้องลองหยั่งๆตลาดกันก่อน





แหวนน่ารักๆ ยังไม่ได้แพค แต่ยึดมาอันนึง -..- สวยเก๋ต้องใส่โชว์ โฮะๆๆ
พ่อบอกให้แพคซะเหอะ กำลังคิดว่า ถ้าใส่ถุงแล้วใส่ตะกร้ามีผ้ารอง หรือใส่จานดีกว่ากัน
กำไลลูกปัดที่ยังไม่หมดคราวก่อนก็คิดว่าอาจต้องจับใส่ถุงจะดีกว่า?
เพราะเห็นมาลองใส่กัน แต่พอจะซื้อใช้ใส่ถุงแพคซะสวยเริ่ดกันหมด(เอาไปทำของขวัญ)
แบบนี้แพคให้ซะเลย จะมีบ่นไหมว่ากลัวใส่ไม่ได้..?

ของไม่มาก แต่ก็มากอยู่นะ กำลังมึนว่าควรจะจัดเก็บยังไงดี
ลังที่ว่างมีแต่ถังแฟ๊บเปล่า ถ้าใส่ของที่ยังไม่ได้ขายก็คงได้ แบบค่อยหยิบออกมาเติม
แต่ที่เตรียมไว้ขายแล้ว เป็นกระจาดๆ ตะกร้าๆ มันใส่ไม่ลง

ร้านไม่ได้เปิดซะนาน มั่วที่เก็บของอยู่นั่นล่ะ เอิ๊กๆๆ

...

เมื่อเช้ามีไอเดียจะทำงานเย็บอีก (เอาของเก่าไปขายมั่งไป๊) คอร์ดโฮลเดอร์ก็น่าจะโอเคนะ
เหมือนที่ทำเมื่อวาน แต่จะไม่ใช่สักหลาดหรอก คิดแบบเรียบๆ ไว้แล้ว ผ้าก็มีหลากหลาย
ใช้วิธีเย็บดูก็น่าจะโอเค เอาไปเล่าให้แม่ฟัง เค้าทำหน้าเฉยๆ (สงสัยไม่โดนใจ)

คืนนี้จะเย็บล่ะ แพคแปะราคาให้หมด เก็บของลงที่ลงทางแล้วจะได้ลุยงานต่อ

เฮ้อ.... เวลาที่ทำงานฝีมืออะไรสักชิ้น บางครั้งเอาไปขาย หรือให้คน
มันจะรู้สึกดีใจนิดๆว่าบ้านจะโล่งไปอีกหน่อย
แต่วัสดุอุปกรณ์ก็อยากได้ใหม่นะ .. อุปสงค์ไม่สมดุลย์กะอุปทานเล้ย 555


...

พักนี้ติดช่องโซนี่ มีเรียลลิตี้เยอะ
เมื่อคืนดูรายการท๊อปเชฟมาสเตอร์ ทำให้ได้แง่คิดว่า
คนเราจะพัฒนาไปได้ถึงจุดสูงๆ ต้องผ่านการวิจารณ์ ปรับปรุง แก้ไข
ถ้าปิดหูไม่รับฟังใคร ก็ไม่ต้องคิดเรื่องจะไปถึงไหนกัน

 

 

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

..ไอติมเก็บหูฟัง ในวัน ง๊วงง่วง..

ไม่รู้ช่วงนี้เป็นบ้าอะไร ง่วงมันทั้งวัน ไม่ใช่ง่วงธรรมดา
หลับด้วยนี่ดิ -..- เซ็งอ่ะ นอนเยอะมันก็ไม่ตาโหลดีหรอก
แต่ทำให้เสียเวลาการงาน ตื่นมาตอนชาวประชาเค้าหลับกันหมด
ไม่เว้นฝั่งยุโรปยังหนีไปนอน ...... อ๊ากกกกก เซ็งลงตับ !!

นี่ก็สงสัยอยู่ว่า เมื่อหัวค่ำที่หลับป่อกไปตื่นซะห้าทุ่มครึ่งเนี่ย
เด็กที่พ่อเค้าเอาตังค์มาฝากให้ มากดออดขอตังค์รึเปล่า.. หึหึ
ถ้ามาแล้วกดแค่ตายก็ไม่มีใครออกไปส่งตังค์ให้ คงไม่ไปนอนร้องไห้อยู่นะ -w-
คือหัวค่ำ พ่อแม่ไปแคร์บ้านตู่โอ๋ มีแต่ฉันกะท่านที่เฝ้าบ้าน
ป้านี่หลับ น่าว่านายน้องจะตื่นอยู่ ..หรือยังไง อันนี้ไม่ทราบ
พอหลับแล้วสยองมาก หาได้สนใจใครรอบข้างไม่ !!

...

โอย เมื่อยแขน ไปนั่งตัดเย็บที่เก็บสายไอพอดมาล่ะจ้า
ไม่ได้ทำงานเย็บหลายวัน เหงามือนะนี่
ใช้เวลาอยู่พอควรเลย แถมตอนประกอบดันลืมว่าต้องเย็บอะไรกับอะไร
ด้านในเลยดูมิได้ เหอๆ ((ไม่แก้แระ เอาไว้รอบหน้าจะทำให้ถูกตามลำดับ))



รอบที่แล้วทำไม้กางเขนสีดำ ไม่เห็นพ่อใช้งานแล้วอ่า.. เอิ่ม สงสัยจะใช้ยากไปจริงๆ
แต่ของตัวเอง มันจำต้องทำจริงๆนะ เพราะพอจะใช้งานล่ะอีรุงตุงนังมาก ดึงออกยาก
พอพันแบบนี้ ใช้สะดวกขึ้นเยอะ....
และเพื่อให้เข้ากับแอ๊บเปิ้ลสีแดง ก็เลยทำเป็นของกินแสนอร่อย .. "ไอศครีม" นั่นเองจ้า







สีคงพอได้เนอะ บางชิ้นตัดใหม่ บางชิ้นตัดจากเศษที่เก็บไว้
ประสบการณ์ที่ต้องจดจำเลยนะ
ด้านนอกเย็บประกอบและแต่งกับแผ่นโพลีฯ ส่วนชิ้นในก็เย็บกระดุมหรือตีนตุ๊กแกไป

...

จริงๆ ถึงคืนนี้จะตื่นซะดึก แต่พอตั้งใจบริหารเวลาไม่กี่ชั่วโมง ก็ทำงานบ้านเสร็จก่อนจะมาเล่นคอมพ์ได้นะ
แก้ปัญหาเด็กติดเพลงด้วยการเปิดช่องเพลงไว้ .. จิร้องเพลงลูกทุ่งได้อีกอื้อเลย ฮ่าๆๆ

จะเจ็ดโมงแล้ว ไปอุ่นข้าวป้อนน้องก่อนจะลาไปนอนดีกว่า





อ่อๆ ปิดท้ายด้วยเมนูอาหารมื้อดึกล่ะ
ยำแอ๊บเปิ้ลทำกินเองเมื่อคืนวาน ส่วนไก่ทอดของนายน้องเค้า
กินเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา.. แครอทเป็นไอเดียที่เห็นจากอาหารเช้า(มั๊ง)ของอาอ้อ

ปล. วันนี้ของจะมาถึง รอคาดหัวด้วยดอกไม้ อิอิอิ (เอาไว้ขาย???)

 

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

..1,300!!..

เขียนบล๊อกมา พันสามร้อย บทความแล้ว.. หลายปีผ่านไปเนอะ
ไม่มีอะไรพิเศษหรอกวันนี้

ง่วงอ่ะง่วง ไปดีกว่า
ฝนตกทั้งวัน


อ่อๆ คืนวันเสาร์ได้รับโทรศัพท์จากคุณอาตอนตีสามครึ่ง
งงมากมาย ทำไมตีสามอายังไม่นอน
แท้จริงคือ ไปสำเพ็งตอนเช้ามืด .. น่าไปจริงๆนะ
จำได้ว่าคิมเคยมาโม้เรื่อยแหละ เรื่องไปสำเพ็งต้องไปตอนเช้าเนี่ย
เค้าไปเช่าห้องพักอยู่แถวนั้นเลยด้วยซ้ำ
แต่ฉันมันไม่มีโอกาสจะไปตะลอนทัวร์แบบนั้นง่าย เลยได้แต่นั่งฟังหูห้อย

สบโอกาสก่อนเห๊อะ จะเที่ยว(สำเพ็ง)ตอนกลางคืนซะให้หนุกหนาน

 

 

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

..Hope of God Church's 30th anniversary..

คืนวันเสาร์งีบช่วงหัวค่ำ น่าจะสักสองชั่วโมง
แล้วก็ยาวมาจนค่ำอีกวัน ผลคือ เบลอไปในหลายเรื่อง
ฟงฟันยังไม่ไปทำหรอก ไม่มีแรงง่ะ (ไม่ค่อยปวด ทนได้อีกอาทิตย์เหอะ)

...

อาทิตย์นี้มีงานฉลองครบรอบ 30 ปี คริสตจักรความหวังฯ
ก็เลยจะมีกิจกรรมที่เพิ่มเติมขึ้นมากกว่าอาทิตย์ปกติ
มีการนมัสการ แล้วก็การแสดงของเด็กๆ
อัดวีดีโอเอาไว้ เห็นแล้วฮาดี โยกกันไปคนละทิศละทาง





ส่วนกิจกรรมในคริสตจักรเด็ก ทำลำธารกระดาษกัน
แล้วก็แสดงท่าทางการดื่มน้ำ ให้สมมติตัวเองเป็นทหาร พกอาวุธมาด้วย
เวลาจะกินน้ำ จะทำยังไง เค้าก็ทำกันไปนะแต่ละคน สนุกสนาน
บางคนแถบจะว่ายน้ำไปซะเลย 555
เสร็จแล้วก็สอนเรื่องราวจากพระคัมภีร์
เรื่องของ กิเดโอนและการคัดสรรทหารเพื่อไปรบ
พระเจ้าให้สติปัญญากับกิเดโอนว่า ให้เลือกคนจากพฤติกรรมในการดื่มน้ำ
ถ้าเป็นพวกที่ก้มลงเลียน้ำ แยกไว้กลุ่มนึง พวกที่วักน้ำด้วยมือและคอยระแวดระวังก็อีกกลุ่ม
วันนี้สอนพวกเค้าเรื่อง "ความรอบคอบ"
ร้องเพลง "คนมีปัญญากับคนโง่ สร้างบ้าน" เต้นกันมันส์ไปเลย

เที่ยงนี้มีอาหารฝีมือแม่เปิ้ล แม่ละมัยทำข้าวผัดแฮมไก่มา
ฉันเอามาป้อนน้อง ไม่ได้เก็บภาพไว้ กินเองยังไมกินเลย
มันตื้อมากเลยนะ การรู้สึกล้าเพราะไม่ได้นอนเนี่ย



พอสามสี่โมงก็อาบน้ำแล้วไปภูเก็ตต่อ
นั่งรถกันนาน เพราะเจอฝนหนักแถวพังงา พอฝนลงเยอะ น้ำก็เต็มถนน
รถลุยแต่ละทีน้ำขึ้นมาเต็ม มองไม่เห็นรถคันหน้าเลย
ขอบคุณพระเจ้าที่เดินทางไปถึงปลอดภัย สักทุ่มนึงได้มั๊ง
โทรหาพี่อ้วนแล้ว เพื่อนก็บอกว่า เดี๋ยวทำงานอีกนิดแล้วจะมา
ฉันก็บอกไปนะว่า ถ้ามาถึงแล้วโทรหาจะได้ออกมาเจอะ
แต่ดันเอามือถือใส่กระเป๋า .. ผลคือไม่ได้ยินอะไร ทำไมมันเบลอได้ขนาดนี้เนี่ย
ก็พะวงๆอยู่ หันมองข้างๆ คิดว่าเผื่อแกจะเดินเข้ามารึเปล่าอ่า
คือตอนแรกจะไปนั่งตรงห้องข้างนอก แต่เค้าเชิญให้เข้าไปนั่งข้างใน
(คงจะเอาส่วนนั้นไว้เตรียมทำกิจกรรม)







มีการนมัสการ ฟังเทศนา การแสดงโชว์บนเวที
มอบของที่ระลึกให้ผู้นำ เป่าเค้กวันเกิดครบรอบ7ปี คริสตจักรความหวังภูเก็ตอันดามัน





เลยได้เจอกันแป๊บนึง เจอม๊ะพี่อ้วนด้วย เบลอเรียกแทบไม่ถูก
มีของฝากจากพี่อ้วนอีกแน่ะ มาจากเชียงใหม่ นำมาให้โดยคนภูเก็ต
กว่าจะได้เจอกันสามทุ่มจะครึ่งล่ะ กลับเข้ามาเค้าก็จะกลับกันพอดี
ออกจากโน่นสีทุ่มมั๊ง มาถึงที่นี่เที่ยงคืนกว่า ข้างหน้าก็ขับ ข้างหลังโน้นก็คุย
ตรงกลางคนนึงหลับ อีกคนนั่งสับปหงก
ถึงบ้านได้ดีใจมากมาย หาไรกินหน่อย หน้าไม่ล้าง แต่แปรงฟัน
เช็ดออยล์ล้างเครื่องสำอางค์แล้วก็หลับป่อก

เพิ่งตื่นมาตอนตีห้ากว่า มานั่งแต่งรูป
ว่าจะอัพแฟนเพจโบสถ์ แต่มาทำทีหลังดีกว่า หัวยังไม่เดิน ลำดับคำพูดไม่ออก
มาอัพบล๊อกตัวเองก่อน มันกระท่อนกระแท่นก็ไปได้..อ่ะนะ


ปล. เมื่อวานไม่ได้กินไบออสไลฟ์เลย แถมเมื่อกี้(แปดโมง) ไปนั่งกินข้าวผัดอีกเป็นชาม เหอๆ
ตื่นมาแล้วจะเข้าสู่การตั้งใจต่อ -..-

 

 

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

..shop around the Tesco..

ตีห้าแล้ว แว๊บมาอัพบล๊อกก่อน
เดี๋ยวจะไปห่อของขวัญ กับจับน้องอาบน้ำ ยังอีกหลายสิ่งต้องทำ



...

เมื่อเช้าไปนอนสิบโมงกว่าได้ เพราะว่าพ่อเอารถไปซ่อมต่อ
นอนสาย เลยหลับลืม นัดน้องว่าจะไปตอนบ่าย
โน่น.. มีนโทรมาปลุกก็บ่ายกว่าแล้ว
เห็นมิสคอลตั้งแต่เที่ยงครึ่ง แต่เจ๊นี่ไม่ไม่ได้ยิน
อาบน้ำลงมา ตามแม่ ไปโลตัส กว่าจะได้ออกจากบ้านน่าจะสักบ่ายสองหรือก่อนนั้นหน่อย
วันนี้ถนนไม่แน่นเท่าไหร่ รถไม่มาก ทีนี้ก็นั่งลุ้นมีน







แต่ก่อนจะออกรถอธิษฐานขอพระเจ้าปกป้องก่อนนะ
รู้สึกว่า เค้าจะรับลักษณะความรอบคอบมาจากป๊าเค้าเต็มๆ ดีอ่ะ
มองตลอด ซ้ายขวา มองรถคันอื่นๆ
แต่ท่าทางมีนจะไม่ค่อยชอบพวกรถมอเตอร์ไซค์ ถ้ามาเฉียดใกล้ๆจะมีอาการบ้าง
ขับนิ่มดี ไม่กระตุก ไปถึงโลตัสเหมือนฝนเพิ่งตก













ลงแล้วก็เดินกันล่ะทีนี้ ไปแถวชั้นเครื่องเขียน ต่อด้วยมุมไฟฟ้า
มุมเสื้อผ้า ชั้นครีมเครื่องสำอางค์ แวะชั้นรองเท้า แล้วก็จ่ายตังค์
ก่อนกลับ มีนแยกไปซื้อข้าวก่อน ส่วนฉันกับแม่ลงอีกทาง ของมันเยอะเต็มรถเข็น
ไปเจอกางเกงขาสั้นอีกแน่ะ เลยเลือกๆ เอามาฝากพ่อ
ลงมาแวะร้านบู๊ทอีก ซื้อโฟม หนึ่งแถมหนึ่ง โฟมกลิ่นแตงกวา หอมดี
เฉลี่ยก็หลอดละ 37.50 บาท
ใช้เวลาเดินเลือกของ เลือกเสื้อผ้า สองชั่วโมงมั๊ง นานจัง เมื่อยซะ





ก็งี้เลยไปลองชุดมา ไปหลายรอบลืมกล้องทุกที รอบนี้ไม่ลืมแล้วเฟ้ย 555
จริงๆชุดสีน้ำเงินหยิบมางั้นๆ เห็นน่ารัก แล้วก็เป็นผ้ายืด ใส่ได้แหละ
ส่วนสีส้มอ่อน สวยนะ แบบสวย แต่ใส่แล้วคนใส่ย้วยมาก เอิ๊กๆ



ของตัวเองนอกจากเสื้อผ้าก็มีครีม กับพวกเครื่องเขียน น่ารักดี
หอบดินสอมาอีก.. เพื่อทำหัวดินสอ 555 ตลอดๆเลยน่ะ



ส่วนของฝากพ่อนอกจากของกิน กางเกง ก็มีเจ้าหูฟังนี่ล่ะ
ก่อนจะไปก็บอกพ่อแล้วนะว่า ไปเลือกเองดีกว่ามั๊ย?
พาวเวอร์บายก็ไม่ได้ไกลจากบ้าน ให้ไปโลตัสเดี๋ยวได้ไม่ถูกใจ
ผลคือ .. เอากลับมาไม่ถูกใจจริงๆ สีหวานไป เสียงเบาไป สารพัดจะติ
-..- ออกจะน่ารัก ..เลยเก็บไว้สำรองของน้อง ถ้าพังค่อยเปลี่ยน
แต่จริงๆหูมันดีนะ นุ่มอ่ะ มีเหมือนยางหุ้ม คล้ายๆมือถือของฉันอันที่สายมันหายไป
ใส่แล้วไม่เจ็บหูดี

...

กลับถึงบ้าน หิวจัด ไม่ได้กินไรเลยอ่ะตลอดวัน เลยกินข้าวกับแกงจืดฟักแล้วก็เต้าหู้ปลานึ่ง
กินเร็วๆ แล้วมาแก้ไขสีปุ่ม พอลงตัวก็เริ่มจะโอเค มาแก้โค้ดบีจีอยู่พักนึง
เนื่องจากที่ใช้อยู่ไม่ใช่บีจีจริง ขนาดมันเลยเล็ก บางชิ้นพอเอามาวางต่อกันเลยดูแปลกๆ
แต่ก็ยังโอเคนะ ถ้าสีสันเข้า เป็นที่พอใจของเจ้าของร้าน

ก่อนจะautumn ก็เลยต้อนรับด้วยสีโทนน้ำตาลอบอุ่น อิอิอิ




ปล. อย่าสงสัยว่าทำไมลงรูปทั้งตัว .. เดี๋ยวจะได้เห็นพัฒนาการการลด
(รึว่าจะขึ้นไปอีกดี??? =..=)

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

..มาใหม่นะคะ..

แก้ไขหน้าร้านแล้ว ยังไม่เสร็จหมดหรอก น่าจะยังไม่โอเคตรงปุ่มข้างบน
แต่มันต้องทำแต่ละชิ้นๆ รวมกัน สี่ชิ้น เพื่อจะเอามาประกอบให้เห็นชัด
แล้วฉันก็เพิ่งนึกออกว่า ทำไมไม่ถ่ายรูปใหญ่แล้วทดลองสี เอาไปให้อาเลือกดูล่ะ?

นึกได้ซะเช้า เหอๆ ก็พอจะกระดึ๊บๆไปอีกหน่อยนะ
ที่เหลืออีกก็มี แก้ไขของรอบๆ ให้สีมันแมทกัน



เมื่อคืนนอนมั่ว ที่ตื่นเกือบสี่ทุ่ม แล้วก็ไม่ได้นอนจนเช้า
ท้องไม่ค่อยดี งงๆอยู่ตอนแรก นึกขึ้นได้.. ชาสมุนไพรแน่เลย
จริงๆเรียกว่าไม่ดีไม่ได้สิเนอะ ก็ดีท๊อกซ์อ่า




คิดว่าจะนอนแต่ก็เปล่า อาจจะไม่ง่วงมากด้วย
เลยอยู่ยาว เช้าๆยังได้แว๊บไปถ่ายรูปเล่นในสวน
ไม่ทันดอกอัญชัณ เพราะพ่อเก็บตั้งแต่หกโมงครึ่ง
ได้มาแต่บุหงาส่าหรีนี่ล่ะ ..





พอเกือบๆแปดโมงก็ออกไปกับพ่อ เพราะยังไม่รู้ที่ด้วยแหละ
วันก่อนพ่อไปถามให้








นั่งรถไปแป๊บนึง เพราะอยู่หลังตลาดซิตี้เอง
รู้ที่ล่ะ พอลงจากรถ เดินไปถามที่โต๊ะ พอเค้ารู้ว่ามาทำฟันก็เจอเลย
"ทำฟันวันจันทร์ค่ะ" .... เจ๋ง แล้ววันก่อนมีคนบอกว่า วันพฤหัสก็อนุโลมอ่า..
คือ จริงๆ เค้าให้เฉพาะช่วงปิดเทอม แล้วตอนนี้ยังไม่เปิดเทอมไง ..บางอ้อเล้ย



กลับบ้านนอนดีกว่า วันจันทร์ค่อยมาใหม่ จะไปเองเลยล่ะ
คนก็ไม่ค่อยเยอะดีด้วยนะ ชอบจัง ถ้าไปโรงพยาบาลบางครั้งไม่มีที่นั่งเลยล่ะ




พอพ่อจอดรถ เห็นมีนยืนมองพี่แอนที่กำลังเอารถออกจากบนระเบียง
คนข้างบนสงสัยเพิ่งตื่น คนข้างล่างก็ไม่รู้เรื่องอะไร ฉันตะโกนคุยกะน้อง พี่แกก็คิดว่าคุยด้วย
เลยคุยด้วยหมดเลยล่ะกัน 555




ก่อนเข้าบ้าน แวะไปดูรากไม้ที่พี่นันแกช่วยเอามาตกแต่งข้างหน้า
อุตส่าห์ซื้อกล้วยไม้มาแต่งไว้ด้วย ต้นสองต้นมั๊ง .. มีคนมาจิ๊กไปล่ะ
นึกอยู่แล้วเชียว



ก่อนไปนอนหอบโอเชียนไปด้วย ไปลองวายเลสที่ห้อง
แหม ไม่ได้คิดเลยว่าใครจะบ้าเปิดให้ตลอด
เลยโทรไปบอกน้องให้เปิดโมเด็มให้หน่อย ได้ลองแป๊บนึง แล้วก็ใช้ไม่ได้
แปลกพิลึก ยังไงๆก็ใช้ไม่ได้ เหมือนเป็นจุดสัญญาณไม่ดี



ก็เลยนอนหลับซะ ตื่นอีกทีเกือบเที่ยง
ลงมาอยู่โยงจนค่ำเลย เค้าไม่อยู่บ้านกัน เด็กก็หลับ
เลยไปทำข้าวผัดน้ำพริกกะปิมากิน เป็นน้ำพริกที่แม่ทำไว้ใส่ปุกไว้
พอทำข้าวผัด กินกับมะเขือเทศ ปลาจิ๊งจั๊ง ก็อร่อยดีนะ
อยากใส่กุ้งเสียบอยู่หรอก แต่เกรงใจฟัน(ปลาจิ๊งจั๊งกรอบแต่ไม่แข็ง)

และแล้ว.. หกโมงเช้าเวียนมาอีกครั้ง
ไปหาไรใส่ท้องท่านน้องก่อน จะได้รีบนอน
บ่ายนี้นัดกับมีนว่าจะไปโลตัส บอกว่าถ้าป้าไม่ไปด้วยเจ๊จะไปดูหนัง อิอิ
(แต่สงสัยจะอดหนัง เพราะแม่บอกว่า "ไป")


ปล.สะดุ้งตื่นมาดูเป็นต่อเมื่อคืน .. เจ๊มิ้นท์ร้องไห้ซะน่าสงสาร
ก็ลุ้นอยู่ว่าจะบอกเรื่องจริงกับเพื่อนๆรึเปล่า ..แล้วก็ไม่ ปิดปากสนิทดีจริงๆ

 

 

Related Posts with Thumbnails