“มองข้ามความต้องการของตัวเอง แล้วไปมองว่าคนอื่นเค้ายังขาดอะไร เปลี่ยนท่าทีที่มีข้างในใจ เรื่องดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ นั้นไม่ไกล..ตัวเรา ”
welcome

Lilypie Next Birthday Ticker

วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..ก็ยังโอเค..

วันนี้ความตั้งใจสำเร็จไปเรื่อง
บางเรื่องยังไม่สำเร็จ ตั้งเป้าไว้10 ได้แค่ 4
เอาเหอะ หกสิบก่อน เพราะเอาเวลาไปทำสร้อยข้อมือ เสร็จไปสองเส้น


............


วันนี้นอนยาวมาก เจ็ดโมงกว่าถึงบ่ายสามมั๊ง
เหนื่อยมาก ออกแนวสลบ
 จริงๆแล้วมันไม่ได้ช่วยชดเชยการพักผ่อนที่ไม่พอของเมื่อวานได้หรอกนะ
แต่ก็ชอบคิดงี้ทุกที เวลานอนน้อยจะบ้าอยากนอนยาวในวันต่อไ



คนเราก็งี้นะ คือ พอรู้สึกว่า การแก้ปัญหาแบบนี้มันดี มันเหมาะ(คิดเอาเอง)
ก็ตั้งใจ ตั้งเป้าหมายให้มันเป็นแบบนั้น พอไม่ได้ตอบสนองตามต้องการ ..ก็โกรธ
(ออกแนว อะไรๆที่กำลังเจอะเจออยู่ในระยะนี้)


............


อืม .. สงสัยจะคิดผิดที่ออนทิ้งเอาไว้
กะจะรอทักบางคน กะให้เค้าดูของที่เอามาฝาก
แต่ไม่ยักกะจะทักมา มีก็น้องๆที่ทักมา (เกรงใจนะ เพราะไม่ได้อยู่ตอบด้วย)
แต่ร้อยลูกปัดเพลินมากเลยคืนนี้
(เพลินมาก ไม่ได้หมายความว่าได้ผลงานมากนะ เหอะๆ)


แต่จุดดีคือ พอเราเพลิน มันทำให้ไม่รู้สึกอยากกินอะไรนัก(เกี่ยวมั๊ย?)
เมื่อวาน เลยกินข้าวมื้อเดียว  อีกมื้อเป็นโยเกิรต1ถ้วย
ไม่ได้จะไดองไดเอ็ตเลย (อยากลดน้ำหนัก แต่ยังไม่ไดเอต ..เอาเข้าไป)
ที่กินน่ะ เพราะแม่สั่งไว้ เค้าซื้อมาฝาก เลยย้ำว่าให้กิน เดี๋ยวหมดอายุ


-..- กินมาสองวันล่ะ เหลืออีก2ป๋อง
คอยดูเถอะ จะซัดให้หมดก่อนหมดอายุ 555


............


มัฟฟินเริ่มคลายร้อนแล้ว
เอาไปให้เจ้านายกินล่ะนะ


ไม่ใช่ไม่มีเรื่องเล่า
แต่งี้แหละ พอนั่งหน้าจอ ลงมือเปิดโน้ดแพด
อะไรๆในหัวก็ลืมไปหมดสิ้น - -"



 

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..สำรวจจิตใต้สำนึก..

วันนี้คุยกับเหมือนฝัน
เค้าเล่าว่า มีความตั้งใจ แต่ยังไม่ได้ลงมือกระทำ หลายอย่าง


กับฉันเองก็คงไม่ต่างกันนัก
คือ ไม่ใช่ไม่ดีที่มีความตั้งใจ แต่ถ้าไม่มีความมุ่งมั่น
มันก็คงจะไม่มีอะไรคืบหน้าอย่างนั้นเรื่อยไป


............


วันนี้ฟังอ.สุจิตเทศนา " กุญแจสู่ความมั่งคั่งแบบคริสเตียน"
สรุปสั้นๆนะ คือ ต้องคิดแง่บวก ควบคุมปากไม่พูดแง่ลบ
พูดแง่บวก เชื่อว่าเราเหมาะสมที่จะมั่งคั่ง(เพื่อพระเจ้า ไม่ใช่เพื่อตัวเอง)
ปราถนาอย่างแท้จริง เชื่อฟังและดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้า
เพื่อให้ชีวิตก่อนที่จะมั่งคั่งอยู่ในพระเจ้าตลอดเวลา มีเป้าหมายที่ดี
ต้องเป็นเป้าหมายเพื่องานของพระเจ้า  มีความขยัน
ต้องมีการบริหารอย่างดี และเอาใจใส่ มีความสัตย์ซื่อ ไม่คดโกง
(ไม่รวยมาด้วยการคดโกง .. เหมือนบางคนเล่นเกมส์ โกงสะบัด-*-)
ต้องมีความอดทน มีประโยคสำคัญด้วย


ที่สำคัญกว่าความมั่งคั่งก็คือ ความสามารถที่จะครอบครองความมั่งคั่ง
ความสามารถในการครอบครองเป็นเรื่องของคุณสมบัติชีวิต


ยังไม่หมดนะ ต้องรู้จักใช้จ่ายด้วย ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่กู้ก่อนผ่อนทีหลัง
ต้องรู้จักเก็บออม รู้จักลงทุน และสุดท้าย คือ รู้จักการให้


............



วันนี้ได้ข้อสรุปว่า จะต้องเริ่มเก็บออมอย่างจริงจังสักที
ต้องขยันด้วยแหละ คือ พอรู้สึกว่า เงินมันหายาก มีแต่จากห้องพัก
ฉันก็เลยไม่ค่อยใส่ใจจะเก็บออม
ที่ทำของส่งพี่อ้วนก็ เหมือนจะรอให้เพื่อนเรียก ทวงถาม ถึงจะทำไปสักที
แบบนี้ ..... ไม่เวิร์ค เปลี่ยนๆๆๆ


ต่อไปนี้ จะทำของอย่างน้อยวันละ10ชิ้น
ได้150เองนะเอ้อ ยังไม่ได้หักต้นทุนเลยด้วยอ่ะ
ใช้เวลาก็ไม่ได้มากมายอะไร
ถ้าจะรู้จัก หยุดพักจากเกมส์(ที่แกไปสมัครใหม่อีกสองเกมส์ กรี๊ดๆ)


............


                


ยังไงก็ตาม ข้าน้อยขอลา ไปดูแลเด็กก่อนนะคะ
เอ๋อกินมาทั้งคืน มันมีเรื่อง(ที่ไม่ใช่เรื่อง)ผ่านเข้ามา ทั้งหู ทั้งตา ทั้งหัว ตรึมๆ
เลยออกจาก เอ๋อแตกไปครึ่งค่อนคืน -..-



ปล. รูปจากรำไร#1 .. อาร์ตซะไม่มี หุหุ -..-

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..สุขใจเล็กๆ(วันฝนตก)..

สระผมก่อนนอน
ดีที่ไม่เป็นหวัด เจ็บคอเหมือนคราวก่อน
ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันยังสบายดีอยู่


ฝนก็ตก อากาศก็เย็นสบาย
นอนหลับยาว... ฮืม.. เตรียมพร้อมสู้การนอนน้อยพรุ่งนี้แล้ว


............


อย่างที่บอก ฝนตกทั้งวัน
อากาศเย็นๆ ทำให้มีโอกาสได้ใช้โลชั่นหลังจากที่เว้นไปซะนาน
หอมกลิ่นข้าวหอมมะลิ.......


เคยมั๊ย เวลาได้ดูแลตัวเองดีๆ แล้วมีความสุข
ขนาดตัวของเราเอง ได้แค่ดูแลตัวเองดีๆบ้าง ยังรู้สึกสุขใจ
ถ้าคนที่ต้องการการดูแล ได้รับการเอาใจใส่ดูแลอย่างที่เค้าต้องการ
จะยิ่งมีความสุขมากแค่ไหน.. คิดถึงน้องน่ะ


............


ตีสองครึ่ง ไปนอนสักหน่อยดีกว่า
เหมือนมีอะไรจะเล่า แต่ก็ไม่มีแฮะ
วันนี้ยังปากหนักไม่พอ ความคิดเริ่มเปลี่ยนไปบ้าง แต่ยังไม่ทั้งหมด


ขอพระเจ้าใส่ใจใหม่ลงในตัวฉัน
ใส่ความคิดแง่บวกและมีความรักอยู่ในฉันมากขึ้นทุกวั




ปล. ความเงียบอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคำถาม
แต่ถ้าพูดแล้วอาจจะไม่ได้เรื่องได้ราว หรือมีแง่ลบ
ฉันเลือกที่จะเงียบไว้.. ดีกว่า

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..Thank God for everything..

ใครคิดถึงคะ ........จามไม่หยุดแบบนี้
แต่ตอนนี้หยุดแล้ว ... จามจนน้องรำคาญไปตั้งพักนึง หุหุ


............


ว่าจะไม่อัพแล้ว แต่เดี๋ยวจะลืมบันทึกเรื่องน่าตื่นเต้น(เล็กน้อย)
คือ เมื่อเช้าวาน ไม่ได้นอนง่าย 
เพราะต้องไปส่งพ่อที่ บขส.


เคยเล่าไหมว่า มันไกลจากบ้านอยู่พอสมควร
ถึงไปทางลัดก็ขี่มอไซด์ประมาณ 15นาทีได้ (พ่อบอก ฉันไม่เคยนับ)
ขาไปก็เห็นแล้วว่า ทางมันมีช่วงเปลี่ยวนิดนึง ไฟถนนก็ไม่สว่างนัก
แต่ยิ่งกว่านั้นคือตรงทางเข้าบขส. ไม่มีไฟเลย
จะพึ่งพาแสงจันทร์ก็หมดปัญญา เพราะจันทร์ซ่อนอยู่ใต้เงาเมฆ
ขนาดพ่อเอง ยังไม่ยอมลัดตลาด อ้อมไปเข้าด้านหน้า
แต่ก็ต้องเจอช่วงมืดตึ๊บอยู่ดี


พอส่งพ่อเสร็จ ขากลับก็ขี่มาทางตลาด ตรงนั้นมืด แต่ไม่ค่อยน่ากลัว
จะดูน่ากลัวมากๆเลยน่ะ ตรงพ้นตลาดมาแล้ว มันเป็นหลังวัด
มีแสงไฟ แต่ก็อย่างที่บอก ไม่ค่อยสว่าง
แล้วพอเลี้ยว จะบิดเครื่องก็ไม่ค่อยขึ้น อาการไม่ค่อยจะดี
แสงไฟที่สว่างจ้าตอนพ่อขับมา ก็ดันหาย เปิดได้แต่ไฟสูง
อธิษฐานตลอดเลย ก็ขี่มาเรื่อยๆ เร่งเครื่องไม่ค่อยขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช้ามาก
มีระบบสั่นสะเทือนจนจั๊กกะจี้แขนมาตลอดทาง
(เวลาขับแล้วรถมันสั่น ..ความรู้สึกแบบนั้นแหละ)


จนเริ่มเข้ามาในเมืองแล้ว ไฟถนนก็แจ่มชัดดี
แล้วไฟหน้ารถก็มาหายวูบไปจริงๆ ตรงแถวหน้าโวค
แถวนั้นเป็นตึกอาคารพาณิชย์เสียส่วนใหญ่ (ทั้งหมดเลยมั๊ง)
ไฟจะสว่างมาก แต่รถที่ไม่มีไฟ มันก็ดูไม่ค่อยปลอดภัยอยู่ดีนะ
การขับขี่รถที่ไม่มีไฟ บนถนนที่มืดบ้าง สว่างบ้าง
อย่างไรเราก็ยังต้องการแสงไฟจากหน้ารถ


ฉันว่า ชีวิตก็เป็นอย่างนั้น เราต้องการแสงสว่างนำทาง
ยังนึกในใจว่า ถ้ามีไฟฉายสักกระบอกก็ดีสินะ



แต่ไม่เป็นไร เพราะฉันกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ขอบคุณพระเจ้าที่ปกป้องฉันทุกเวลา ^-^


............


ส่วนเมื่อวาน หลังจากส่งเจ้ากลอรี่กลับบ้านแล้ว
ก็ชวนแม่ออกไปห้าง กะจะไปโวค อยากไปร้านบูธ
แต่พอออกจากบ้าน ฝนก็ปรอยลงมา แล้วก็เริ่มหนักขึ้นๆ
ไม่ไหวจะไปล่ะ.. จะให้วกกลับบ้านก็กระไรอยู่



เลยแวะซุปเปอร์ที่ใกล้ที่สุดตรงนั้น ก็คือ มาเธอร์
สรุปว่า ได้ของเกือบครบที่นั่น ได้แชมพู แถมมีBBครีมด้วย
ลองของชีเน่บ้าง  ได้ทั้งแชมพูและครีมนวด เอามาลองใช้ก่อน
แต่ทรีทเมนท์นี้ ไซต์ใหญ่เลย เอิ๊ก ขาดแค่ลีฟออน (ถ้าจะให้ครบนะ)


ก็ดีนะ ไม่ต้องไปไกล
จริงๆขากลับ ว่าจะแวะหาของขวัญวันเกิดให้เพื่อน
ถ้าไม่ติดว่า ต้องรีบกลับ ..


เวลามันมีค่า จำเป็นต้องใช้อย่างเหมาะสมจริงๆ


ปัจฉิมลิขิต : แอบอมยิ้มเมื่อเห็นนาฬิกาปลุกทำงาน :)

..Choose..

ถ้าฉันไม่มีเวลานอน แต่ง่วง จึงบ่นว่า "ง่วง"
ถ้ามีเวลานอน จะไม่ยอมเสียเวลามานั่งบ่นเลย ..ไปนอนดีกว่า


แต่ทุกครั้งที่พูดว่า "ง่วง"
จะมีคนไล่ให้ไปนอนทุกครั้ง


ก็อย่างที่ขึ้นต้นไว้ ถ้าไปได้จะไม่เสียเวลามาพูดให้ฟัง  -.-


แต่วันนี้ไม่ง่วงนะ หลับหนีน้องตั้งแต่แปดเก้าโมงถึงบ่ายสาม
-..- (มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวจริงๆ 555)


...


แต่ก็เพราะความง่วงนี่แหละ เลยทำให้ไม่ได้อัพบล๊อกเมื่อวานไป
ทั้งที่ไม่ได้นอน แต่ทำงานอ่ะนะ กะเล่นเกมส์ (เคยคิดจะเลิกบ้างม๊ะนี่)
PP เสร็จไปแล้ว พิมพ์คู่กันก็เสร็จแล้ว
ฉันไม่บ่น ถ้าแม้จะมีเนื้อหาเยอะ มีจำนวนมาก ไม่เป็นไร
จะได้เพิ่มแฟ้มสำรองที่ยังขาดอยู่ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
คือ ไม่ว่ายังไง จะช้าหรือเร็ว มันก็ต้องทำ ต้องหา ต้องมี ..อ่ะนะ
(งงม๊ะ.. งงต่อไป อิอิ)


...


ช่วงนี้รู้สึกว่า มีสนามรบอยู่ในความคิด
แล้วก็เอ๋อจังนะ พูดถึงชื่อหนังสือยังผิดเลย ที่กำลังอ่านอยู่น่ะ
คือ สนามรบในความคิด ไม่ใช่ สงครามในความคิดอย่างที่ฉันบอกไว้เมื่อวานนี้


ความจริงแล้ว สนามรบในความคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
คงไม่จำเพาะเจาะจงจะเลือกช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
หลักการที่ฉันได้เรียนรู้จากผู้เขียน คือ คิดแง่บวก กำจัดความคิดแง่ลบ
และเหตุผลจอมปลอมทุกประการ .. กำจัดยังไง ก็มองที่ความรักพระเจ้า
เรารู้ว่าพระเจ้ารักเรา เป็นสิ่งที่พระคัมภีร์บอก อาจารย์สอน ฟังคำเทศนากันมานาน
แต่เราสัมผัสถึงความรักของพระเจ้าจริงๆแล้วยัง
ถ้าเจอจริงๆแล้ว ชีวิตเราก็ต้องเปลี่ยน เพราะจริงๆชีวิตเราถูกสร้างใหม่แล้ว
ตั้งแต่วันที่เราตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด



credit photo : Love11


แล้วทำไมชีวิตเราไม่ค่อยเปลี่ยน ยังดูลุ่มๆดอนๆ ไม่เสถียรภาพในความเชื่อ
ก็เพราะยังไม่สนิทสนมกับพระเจ้าเพียงพอ ไม่สนิทพอจะเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า
"พระเจ้าเป็นความรัก และความรักชนะทุกอย่าง แม้แต่ความกลัว"


แล้วจะสนิทได้ยังไง จะเข้าใกล้ได้ยังไง
ฉันได้คำตอบนี้ จาก ชั้นเรียน พพช. เมื่อเช้าวันอาทิตย์


ก็ด้วยการอ่านพระวจนะของพระเจ้า
"มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้
แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า"
               
                                     มัทธิว4:4


และอีกข้อที่ตอบคำถามว่า ทำไมต้องบำรุงด้วยพระวจนะ
นั่นก็เพราะว่า...



" เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตาย
และทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ
แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก
และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย "
                                               ฮีบรู 4:12


ถ้าชีวิตเราเต็มไปด้วยพระคำ การภาวนาพระเจ้าอยู่เสมอ
เมื่อลูกศรเพลิงของพญามารผ่านเข้ามาในความคิด เราก็มีโล่ความเชื่อป้องกัน
และทำลายความคิดชั่วร้ายนั้นด้วยพระวจนะของพระเจ้า


เป็นเรื่องง่าย ที่คริสเตียนอย่างฉันมองข้าม
ฉันเขลา แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ว่าอย่างไร พระองค์ก็ยังทรงรักฉันเสมอ
เพราะความจริง พระองค์อยู่กับฉัน สถิตย์อยู่กับฉันเสมอ
ที่ไม่ได้ยินเสียง เพราะเราไม่ได้ฟัง ไม่คุ้นเคยกับพระสุรเสียง เพราะใส่ใจสิ่งไร้สาระอยู่
และเพราะเราเลือกมองความช่วยเหลือแบบโลก ..แบบที่ตามองเห็น


...


ถึงเวลานี้ ฉันอาจใช้เวลากับอินเตอร์เนตน้อยลง
ฟังเพลงที่ไม่ใช่เพลงนมัสการพระเจ้าน้อยลง
เพราะฉันอยากสัมผัสกับความรักของพระเจ้าอย่างแท้จริง
อยากใช้เวลาไปกับการอ่านพระวจนะ แทนที่จะอยู่กับความคิดที่ว่า


"ว่าจะ..ว่าจะ.. อยากจะ.อยากจะ"


ฉันไม่อยากเดินวนอยู่ในถิ่นทุรกันดารอีกแล้ว
แต่ถ้าแม้จะต้องเจอการทดลอง ฉันก็เชื่อว่า มันจะไม่เกิดผลเสียกับฉันแน่
เพราะเชื่ออย่างสุดใจ ว่าจะปลอดภัยในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์



ปล. วันนี้ก็ยังไม่ได้เล่าเรื่อง สนามรบในความคิดอยู่ดี ..
ขึ้นต้น แล้วก็ขมวดปมจบ(หาข้อสรุปในความคิดของตัวเองอยู่น่ะนะ)
เอาเป็นว่า อ่านจบก่อน แล้วจะมาแบ่งปันให้ฟัง :)

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..งานเข้า(นิดหน่อยเอง)..

ฉันเริ่มสรุปกับตัวเองว่า
ถ้าจัดเวลาสำหรับงาน งาน และงาน
วันทั้งวันมันแทบไม่พอเลยนะ
จริงๆไม่ควรมีเวลาเล่นเกมส์ นั่งแชท หรือถ่ายรูปติ๊งต๊องด้วยอ่ะ


 แต่ก็ยังจะหาเวลาทำเรื่องไร้สาระได้ตลอดเลยนะ เหอๆ
นี่ขออัพบล๊อกสักครู่ จะไปกวาดบันได
ตีสี่ครึ่งแล้ว ข่าวก็ไม่ได้ดูแล้วล่ะ แม่มานอนในห้อง -.-


............


วันนี้ท้องเสีย
สาเหตุคงมาจาก หอยลวกที่น้านิดเอามาฝากเมื่อวาน
ฉันเนี่ยซัดเยอะกว่าใคร แม่กินน้อยเลยไม่เป็นอะไรมาก
น้องก็กินเยอะ แต่ที่ไม่เป็นอะไร เพราะเจอหอยนึ่งฆ่าเชื้ออีกรอบ
 เลยปลอดสารก่อการร้าย -0- .. รอดตัวไป


ยังมีก็เจ้ากลอรี่ ที่พอฉันลงมาจากข้างบนก็เจอกันเลย
รับเลี้ยงไว้ตลอด ช่วงสี่โมงมั๊ง พ่อแม่ออกไปข้างนอกอีก
แม่พาพ่อไปตัดแว่น(พ่อพาไปมากว่ามั๊ง - -")
แล้วก็เลยเอานาฬิกาไปเปลี่ยนถ่าน เปลี่ยนสายใหม่ด้วย
จากสายสีชมพูอมม่วงลายคิตตี้ เลยได้สีน้ำตาลมาแทน
อย่างอื่นครบปกติ ได้เพลย์บอยที่เหมือนฝันให้สองปีก่อนกลับมาแล้ว
ไว้จะใส่ลั้ลลากันไป -0-


(เดี๋ยวนะ..ออกนอกเรื่องท้องเสียไปแล้วรึเปล่า)
ก็ เจ้ากลอรี่ไง วันนี้มาท้องเสียใส่ฉันอีก
เดือดร้อนพาอาบน้ำ ไม่รู้จะไปอาบตรงไหนดี
ห้องน้ำที่โรงรถมันก็ระบายน้ำไม่ดี อาบธรรมดาพอได้
นี่เจอแจ๊คพอตแบบนี้ ... อาบที่สนามเลยล่ะกัน หญ้าได้ปุ๋ย -.-


กลายเป็นเลี้ยงเด็กสองคนอยู่พักนึง จนพ่อแม่กลับมาน่ะ


............


หัวค่ำ เค้ามีประชุมกลุ่มเซลล์ครอบครัวกัน
ฉันดันง่วงนอน น้องก็หลับ พี่ก็หลับ 2ทุ่มมั๊ง ถึงห้าทุ่มครึ่งได้
จะโทรหาเพื่อนคนไหนก็ไม่ได้แล้ว ดึกแล้ว
พาน้องกินข้าวอะไรๆอีก




หมดไปอีกหนึ่งวัน
แต่ฉันดีใจนะ ที่ได้อ่านหนังสือ สงครามในความคิด อยู่เรื่อยๆ
อยากอ่านตะลุยให้จบ ยิ่งอ่านยิ่งได้เปิดใจและเรียนรู้มากขึ้น
มันตรงกับสถานการณ์ที่ฉันเจอในเวลานี้เลยด้วย


แต่วันนี้ไม่เอามาเล่าก่อน เพราะจะไปกวาดบันไดไง
น้องก็ตื่นอยู่นี่ล่ะ แต่ยังจะไปทำงาน ขี้เกียจจุ้มปุ๊กอยู่หน้าจอแล้ว
เดี่ยวจะหมดพลังงานไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกจนได้


ปล. ฝันว่า มีคนโทรปลุกเป็นมิสคอล 9 สาย แต่ฉันไม่ได้รับ
ตื่นมาไม่มีสักกะมิสคอล...

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..Confused..

เคยฟังเพลงอะไรแล้วร้องไห้มั๊ย..
คงจะมีนะ


ฉันเคยมีความรู้สึกกับบางบทเพลง
เคยเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่า เราเป็นคนร้อง
และเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่า เราอาจเป็นคนฟัง



thx pic :Isolation / Joseph Humfrey


 




แต่ทั้งหมดทั้งมวล .. ก็อาจเป็นแค่ความรู้สึก
แค่ภาพในจิตนาการที่เราสร้างขึ้นมาเอง
เพียงสงสัยว่า.. ทำไมมันรู้สึกเจ็บ..


...


"ฐานะอะไร"


เป็นเพลงที่ทั้งรักทั้งเกลียด
ฟังแล้วภาพเก่าจะผุดขึ้นมาในความทรงจำ
ไม่เจ็บปวดอะไรอีกแล้ว
แต่กลับมารู้สึกเหนื่อยใจ สับสน กับความโลเลของตัวเอง
เมื่อคิด(เองอีกแล้วมั๊ง) ว่าเค้าน่าจะร้องเพลงนี้ให้เรา



แต่..... (ชอบจังนะคำนี้)
มันจะดีกว่านี้ ถ้าฉันจะไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกกับเรื่องราวเหล่านี้อีกแล้ว


ก็ได้ ถ้าใครจะบอกว่าฉันมันไม่มีหัวใจ
เห็นแก่ตัว ใช้สมองมองคนอื่น ไม่ได้ใช้หัวใจ
พอดีว่า ก็เพราะใช้ "หัวใจ" กับ "ตา"นี่ล่ะที่มอง
เลยอยู่อย่างสงบมาได้หลายปีแบบนี้



ปล. วันนี้โคตรงี่เง่าเลย นั่งร้องไห้ด้วย
เซ็งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

..Keep Standard..

เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ขอบ่นอีกแล้ว
(สำหรับวันนี้) พูดถึงมันเลยไม่จากหนีหายไปไหนซะที ..ชิ !



เมื่อเช้าแม่ให้นอนข้างล่าง เพราะพ่อจะไม่อยู่บ้านช่วงเช้า
มีธุระต้องจัดการ นายน้องไม่มีเพื่อนว่างั้นอ่ะนะ
แต่ฉันก็อยู่เป็นเพื่อนจริง .. หลับเป็นเพื่อน -..-


ตื่นอีกทีบ่ายกว่า เด็กปลุก -.-"
ไม่อยากตื่น ไม่เต็มใจตื่น แต่ต้องตื่น
ตลอดเล้ยยยยยยยยย  555


แล้วก็เลยเพิ่งจะรู้ว่า น้านิดจะเอากลอรี่มาฝากเลี้ยง
พ่อให้นั่งเล่นที่ห้องประชุมข้างหน้า ปูเสื่อน้ำมันให้
เลือกให้เล่นตรงนั้นเพราะมีโรงรถ มีสนามหญ้า มีที่ให้เดินเ
ล่น





แล้วก็ได้ลองกล้องด้วย ตอนเช้าให้พ่อเอาไปลองถ่ายแล้ว
สรุปว่าเสียจริงๆ ไม่ติงนัง(มุขกี่ปีแล้วเนี่ย -*-)
แต่ยังดีนะ คือถ่ายในอาคาร(ที่ไม่เปิดไฟ)แล้วเปิดแฟลช
รูปยังพอใช้ได้ ก็ดูได้จากรูปกลอรี่ ส่วนใหญ่เปิดแฟลช



จะมีก็รูปฉันที่จะแปะหลังสุดนี่ล่ะที่ปิดแฟลช
มันจะได้นอยกับเส้นเป็นของแถมมาด้วย



วันนี้ฉันเข้าไปอ่านมานาประจำวัน
ย้อนหลังไปหลายวัน เพราะเกเรไม่ได้อ่านต่อเนื่อง
ฉันรู้สึกได้รับการแตะต้องจิตใจ เมื่ออ่านของวันเสาร์ที่22
มีประโยคที่ยาวๆอยู่ในนั้น แต่ฉันตัดเพียงบางท่อนเอามาใส่ในข้อความส่วนตัว
กับสถานะในเฟซบุค
"ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นเมื่อเราอยากได้สิ่งที่พระเจ้าประทานให้กับเพื่อน
เพื่อนร่วมงาน ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านของเรา
แทนที่จะทูลขอสิ่งที่จำเป็นสำหรับตัวเอง
 เรากลับพยายามให้ได้มาซึ่งสิ่งที่พระเจ้าประทานให้กับผู้อื่น
แต่พระเจ้ามีสิ่งที่ดีสำหรับเราแต่ละคน เราไม่จำเป็นต้องมีสิ่งที่เป็นของคนอื่น
และแน่นอน เราไม่จำเป็นต้องทำร้ายใครเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการ
.."


ฉันว่า ความรู้สึกอิจฉาที่เกิดขึ้นกับฉัน เมื่อเห็นว่า เพื่อนหลายคนกำลังจะมีวันหยุดพักผ่อน
พวกเค้าจะได้เดินทางท่องเที่ยว ได้พบเจอความสนุกสนาน
แต่ในขณะที่ฉันเองไม่มีทางจะได้ไปอย่างแน่นอน เพราะในแผนเที่ยวนั้นติดวันอาทิตย์
วันสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคริสเตียน และฉันต้องรับผิดชอบงานรับใช้ในคริสตจักร
ฉันไม่อาจลดมาตรฐานของตัวเองลงได้ ..


มันกลายเป็นความรู้สึกเจ็บปวด
เริ่มจะร้องไห้สงสารตัวเองและเกือบจะเป็นความขมขื่น
นั่งฟังเพลงที่รำพันความน้อยเนื้อต่ำใจ ......
แต่รู้ไหม ฉันโดนมารหลอกเข้าให้แล้ว


ไม่ใช่หรอก การท่องเที่ยวในช่วงเวลานั้น มันอาจเหมาะเฉพาะสำหรับเพื่อนฉัน
แต่มันไม่ใช่ของฉัน ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม


ฉันตัดสินใจแล้ว ส่วนคำตอบ จะสำคัญกับใครหรือไม่
ขอเพียงให้ฉันรู้ว่า คำตอบคืออะไร
และฉันจะยังรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ ..ก็พอแล้ว


ขอบคุณพระเจ้าที่เยียวยาหัวใจฉันเอาไว้ด้วยการเตือนสติฉัน
ให้เห็นว่า พระบิดาในสวรรค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก
ทรงมีสิ่งที่จะประทานให้มากเกินพอสำหรับเราทุกคน
..และเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเราด้วย


 

Related Posts with Thumbnails